“ทักษิณ-สุริยะ”รอดซีทีเอ็กซ์ฉาว มติปปช.ให้ยกคำร้อง ปมใหม่6บอร์ดบทม. รับสินบนทัวร์มะกัน

เมื่อเวลา 12.00น.วันที่ 28 สิงหาคม นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)

แถลงภายหลังประชุมลงมติชี้มูลกรณีกล่าวหาการทุจริตโครงการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 และก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจาก ปปช.เลื่อนการชี้มูลความผิดคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา

นายวิชัย กล่าวว่า ที่ประชุม ปปช.มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้ยกคำร้องข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
 
ชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม กับพวก รวม 25 คน ที่ว่าจ้างบริษัท กิจการร่วมค้าไอทีโอ จำกัด ให้จัดซื้อสายพานลำเลียงกระเป๋าและเครื่องตรวจค้นหาวัตถุระเบิด ในราคาที่แพงกว่าความเป็นจริง และข้อหากล่าวหาที่ให้ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) ทำหน้าที่เป็นบริษัทนายหน้า จัดซื้อซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่ง ปปช. เห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิด จึงมีมติยกคำร้อง

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ทางคณะกรรมการ ปปช.กลับพบว่าเอกสารข้อมูลบางอย่าง มีมูลความผิดปรากฎซึ่ง คตส.ไม่ได้ไต่สวนไว้ คือกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คน ประกอบด้วย นายศรีสุข จันทรางศุ  อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธาน บทม. พล.อ.สมชัย สมประสงค์ รองประธาน บทม.นายชัยเกษม นิติศิริ อดีตอัยการสูงสุด นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ และพล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รรมการ บทม.ซึ่งเป็นกรรมการของ บทม.เรียกรับทรัพย์สินเกินกว่า 3,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทั้งหมด ได้เดินทางไปดูงานที่นครซานฟานซิสโก สำหรัฐอเมริกา โดยมีหลักฐานเป็นใบเสร็จแสดงค่าใช้จ่ายว่า บริษัทตัวแทนขายเครื่องซีทีเอ็กซ์ จ่ายเงินค่าเครื่องบิน ที่พัก ค่าเล่นกอล์ฟ และยังพบว่าบางรายได้พาครอบครัวไปด้วย ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่ง ปปช.จะตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหา คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานเนื่องจากมีรายละเอียดอยู่แล้ว และมีหลักฐานเพียงพอที่จะไต่สวนบุคคลทั้ง 6

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวของ ปปช.ไม่ใช่มวยล้ม เพราะคณะกรรมการ ปปช.ชุดนี้ไม่ได้มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือ และข้อมูลที่ได้มาก็ไม่ได้ถูกตัดตอนจนไม่สามารถเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ แต่ยอมรับว่าคณะกรรมการ ปปช.ทราบอยู่แล้วว่า หลักฐานในการพิจารณาคดีมีน้ำหนักน้อย ซึ่งก็พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ยื้อคดีแต่อย่างใด

“ปปช.ไม่เกรงว่าสังคมจะสงสัยในมติที่ออกมา เพราะไม่ได้เข้าข้างฝ่ายการเมือง และไม่ได้เป็นคนของฝ่ายใด เพราะ ปปช.ทำงานปราศจากการแทรกแซง” นายวิชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมของคณะกรรมการ ปปช.ครั้งนี้ ไม่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นอดีต คตส.ร่วมพิจารณาด้วย

วันเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มติของ ปปช.ในกรณีดังกล่าวเป็นการยืนยันสิ่งที่พูดมาตลอดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวข้อง แม้จะมีความพยายามปรักปรำ เรื่องนี้น่าจะยุติเสียที ซึ่งต้องถามกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับการกล่าวหา ป้ายสี พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ส่วนตัวยังเชื่อว่าคดีอื่นๆ ก็คงออกมาลักษณะคล้ายๆ กัน เพราะเป็นเหตุการณ์หลังการรัฐประหาร จึงกล่าวหา ใส่ร้าย โดยปราศจากข้อเท็จจริง