ทหารยอมขอขมาแท็กซี่พลีชีพ สกัดศพนวมทองไปราชดำเนิน

โฆษกทัพบก ยอมขอขมา โชเฟอร์แท็กซี่ขับพุ่งชนรถถัง ที่ผูกคอตัวเองกับเหล็กบันไดสะพานลอยถนนวิภาวดีรังสิตจนเสียชีวิต เมียเชื่อฆ่าตัวตายเพราะถูกหยาม ตร.สั่งสกัดศพไม่ให้นำไปตั้งที่ถนนราชดำเนิน

แต่ให้รอผลตรวจเลือดหาสารเสพติดอีก 1 สัปดาห์ จิตแพทย์ชี้ฆ่าตัวตายเพราะขัดแย้งความคิด โฆษกกองทัพบกยอมรับเสียใจ พร้อมขอขมาหากเป็นต้นเหตุ นายกฯ มั่นใจไม่มีใครเลียนแบบ

เหตุคนขับรถแท็กซี่ผูกคอตายบนสะพานลอย และหลายฝ่ายวิตกว่าอาจจะกลายเป็นปมขัดแย้งในสังคมรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน โดย พ.ต.ท.สมาน คลองสิน สารวัตรเวร สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตัวเองเสียชีวิตบนสะพานลอย ถนนวิภาดีรังสิตขาออก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. บริเวณหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพศาล คชทรัพย์ ผกก.สน.บางซื่อ

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ตายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า มีเชือกผูกที่คอห้อยกับเหล็กบันไดสะพานลอยสูงประมาณ 3 เมตร และบนพื้นสะพานลอยใกล้กัน พบแผ่นกระดาษสีขาว 1 แผ่น เขียนข้อความว่า "อดีตคนขับรถแท็กซี่พลีชีพเพื่อประชาธิปไตยและลบคำสบประมาท รองโฆษก คปค.ว่าไม่มีใครมีอุดมการณ์มาก" และยังมีกระดาษถ่ายเอกสารข่าวจากหนังสือพิมพ์สยามรัฐลงข่าวอยู่จำนวนหนึ่ง จึงตรวจสอบทราบชื่อผู้ตายคือ นายนวมทอง ไพรวัลย์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/14 หมู่ 8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 30 กันยายน นายนวมทองได้ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีม่วง ทะเบียน ทน 354 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสหกรณ์แหลมทองแท็กซี่ จำกัด พุ่งเข้าชนรถถังเบา รุ่นเอ็ม 41 ตรากงจักร 71116 ของทหารสังกัด ร.31 พัน.3 รอ. จ.ลพบุรี ซึ่งเข้าเวรรักษาความปลอดภัยบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า แขวงและเขตดุสิต จนได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าตัวอ้างว่าทำเพื่อประท้วงคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย

หลังตรวจสอบเบื้องต้น พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ น่าเชื่อว่าการเสียชีวิตของนายนวมทองเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ถูกฆาตกรรม

ขณะเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง ที่ทำงานในการนับปริมาณวิ่งบนถนนวิภาวดีฯ คนหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนตายเดินขึ้นลงสะพานเป็นเวลานาน ไม่ทราบว่าผูกคอตายตอนไหน มาทราบเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ

เมียเชื่อตายเพราะถูกหยาม

ต่อมาเวลา 15.30 น.นางบุญชู ไพรวัลย์ อายุ 51 ปี ภรรยาของนายนวมทอง พร้อมด้วยลูกสาว และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ได้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี

นางบุญชู กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ แต่ภาคภูมิใจกับการกระทำของสามี และไม่รู้ว่าสามีจะฆ่าตัวตาย โดยสามีออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม ยังไม่อยากจะพูดอะไร แต่จะเอาจดหมายที่สามีเขียนไว้ไปอ่านที่วัดบัวขวัญในค่ำวันที่ 2 พฤศจิกายน เพื่อยืนยันว่าสามีไม่ได้มีอาการทางประสาท

"สามีสนในการเมือง แต่ไม่เคยสอนลูกให้มีอุดมการณ์ทางการเมือง ฉันเรียกร้องให้คปค.มาขอขมาศพ เพราะ คปค.เคยพูดเหยียดหยามดูถูกสามี ซึ่งเป็นคนที่ใครจะเหยียดหยามไม่ได้ จึงเชื่อว่าการตายครั้งมาจากคำพูดเหยียดหยามของ คปค." นางบุญชู กล่าว

เวลาต่อมา นางบุญชูให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีท่าทีให้เห็นถึงอาการเครียด พฤติกรรมโดยรวมปกติดีทุกอย่าง และไม่เคยพูดเรื่องการเมืองกัน แต่เมื่อสามียอมตายเพื่อชาติเพื่อประชาธิปไตยตนก็ภูมิใจ แต่ยอมรับว่าคาดไม่ถึงว่าสามีจะใจเด็ดยอมพลีชีพขนาดนี้

"พอฉันรู้ข่าวว่าสามีไปผูกคอตายที่สะพานลอย ฉันก็เสียใจเป็นอย่างมาก ที่เสียผู้นำครอบครัวไป ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะใจกล้าขนาดนี้ แต่ก็ภูมิใจในตัวเขามากที่เขายอมตายเพื่อชาติบ้านเมือง" นางบุญชูกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

นางบุญชู กล่าวว่า หลังจากสามีขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถังจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและรักษาจนหายดี ก็ไม่ได้ขับรถแท็กซี่อีก แต่ชีวิตทุกอย่างก็เป็นปกติ นายนวมทองไม่เคยบ่นหรือแสดงอาการเครียดเรื่องการเมืองการ ดำเนินชีวิตประจำวันยังเป็นปกติทุกอย่าง

"หมอพรทิพย์"โร่ตรวจศพ

เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน น.พ.เหวง โตจิราการ ในนามเครือข่ายสมาพันธ์ประชาธิปไตย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนายการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าพบ พล.ต.ต.เลี้ยง หุยประเสริฐ รองแพทย์ใหญ่ เพื่อสอบถามผลการตรวจชันสูตรศพของนายนวมทอง

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ที่เดินทางมาเนื่องจากได้รับการประสานจากสมาพันธ์ประชาธิปไตยที่ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมมาทำคดีนี้ให้กระจ่าง และก่อนที่จะมาก็ได้ปรึกษา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แล้ว ซึ่ง พล.อ.สนธิ ก็อยากให้กระทรวงยุติธรรมมาทำงานกับตำรวจเพื่อให้เกิดความกระจ่าง

เบื้องต้นสาเหตุการตายมาจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากแขวนคอ ที่เข้ามาดูเพื่อให้หลักฐานต่างๆ สมบูรณ์ขึ้น จากที่มีแต่การตรวจปัสสาวะก็ขอให้มีการตรวจเลือดด้วยเพื่อหาว่ามีวัตถุออกฤทธิ์ต่างๆ เช่น ยากล่อมประสาท ส่วนที่ว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องมีหลักฐานอื่นๆ มาประกอบด้วย แต่ที่เห็นก็มีแต่เชือกที่ใช้แขวนคอ ซึ่งการแขวนคอตายนั้นจะคอแขวนเองหรือถูกคนอื่นมาแขวนก็ได้" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า มาฟังข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะไม่มีอำนาจ เนื่องจากอำนาจการทำคดีอยู่ที่พนักงานสอบสวน ซึ่งจากการดูข้อมูลเบื้องต้นแพทย์สรุปข้อมูลทั้งหมดที่ได้มอบให้ พล.อ.สนธิ และนายจรัญ ภักดีธนาคุณ รักษาราชการปลัดกระทรวงยุติธรรมทาบแล้ว

ด้าน น.พ.เหวง กล่าวว่า ต้องยกย่องให้นายนวมทองเป็นแท็กซี่วีรบุรุษประชาธิปไตย การตายของนายนวมทองครั้งนี้ สมาพันธ์ขอเรียกร้องให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อทำข้อสรุปเบื้องต้นให้ได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยขอให้ดำเนินการไปตามกระบวนยุติธรรม แต่เชื่อว่าการเสียชีวิตของนายนวมทองเกิดจากการต่อต้านการรัฐประหารของ คปค.อย่างแน่นอน

หลังจากที่นายนวมทองออกจากโรงพยาบาลก็มีนายทหารและคนทั่วไปโทรศัพท์ไปต่อว่า บ้างก็ว่าประสาท พูดจาเหยียดหยามว่าไม่มีใครกล้าพลีชีพเพื่ออุดมการณ์หรอก การตายของนายนวมทองก็เท่ากับเป็นการทำลายการเหยียดหยามของพวกเผด็จการและลูกสมุน น.พ.เหวง กล่าวและว่า การตายของนายนวมทองเป็นเรื่องน่ายกย่อง ต้องสดุดีที่สละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย และสมาพันธ์จะมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ครอบครัวของนายนวมทอง และขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาช่วยกันรักษาประชาธิปไตย

ด้านนายจรัญ กล่าวว่า ในฐานะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จึงเข้ามาดูแลใน 3 ส่วนคือ 1.เรื่องสาเหตุการตายว่าแขวนคอเองหรือถูกใครทำให้ตาย 2.เรื่องสิทธิของญาติผู้ตายที่มีสิทธิรับรู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุใด และ 3.ในด้านของผู้ตายเอง ที่ก่อนตายมีจดหมายเขียนว่าเสียสละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งในความอาลัยเศร้าโศกก็ขอยกย่องสดุดี

รอผลเลือดหาสารเสพติด1สัปดาห์

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.เลี้ยง หุยประเสริฐ รองแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงผลการชันสูตรศพนายนวมทองว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยช้ำจากการผูกคอ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน และน่าจะเกิดจากฆ่าตัวตาย เพราะไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายและการต่อสู้

"แพทย์ได้ตรวจสอบปัสสาวะและเลือดของผู้เสียชีวิตเพื่อหาสิ่งเสพติด โดยจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 1 สัปดาห์" รองแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าว

ด้าน น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการฆ่าตัวตายของนายนวมทองว่า ตามหลักจิตวิทยาแล้ว เชื่อว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่จากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งอย่างเดียว ต้องมีเหตุหลายอย่างปนกัน เช่น เรื่องการเจ็บป่วยส่วนตัว ทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ เรื่องปัญหาครอบครัว ปัญหาการงาน ฐานะทางสังคม ตลอดจนความคิดเห็นที่ขัดแย้งอย่างมาก อย่างกรณีนี้ ความคิดเห็นที่ขัดแย้งเรื่องการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็คงจะมีส่วนบางที่ไม่ชอบใจอย่างมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงการปกครองมีคนจำนวนมากที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทำไมคนคนนี้ถึงใช้วิธีฆ่าตัวตาย ซึ่งต่างกับคนอื่นที่มีทั้งแต่งชุดดำ ติดป้ายต่อต้านต่างๆ กรณีนี้จึงอาจบอกได้ว่าอาจจะมีปัญหาทางสุขภาพจิต จึงต้องย้อนไปดูว่า ที่ผ่านมานายนวมทองใช้วิธีการอย่างไรในการแก้ปัญหา

เรามีทางอีกเยอะในการที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย และเท่าที่ประเมินดูคณะที่กระทำการครั้งนี้คงไม่อยู่นาน ต่อไปจะต้องนำไปสู่การมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาล ซึ่งคงอีกไม่นาน เพราะก็รู้ว่าอยู่นานจะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้เราต้องมีความอดทน เราฐานะที่เป็นประชาชนผู้รับข่าวสารอาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างได้ แต่ก็ต้องอดทนรอ ใจเย็นๆ คุยกับคนในครอบครัว ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว และว่า หากนายนวมทองได้คุยกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัวสักนิด มีการปรับทุกข์ บอกให้อดทนรออีกสักหน่อย มีรัฐบาลแล้วก็อาจมีอะไรดีขึ้น ซึ่งอาจจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

โฆษก ทบ.แสดงความเสียใจ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และอดีตรองโฆษก คปค.กล่าวเรื่องนี้ว่า ที่เคยกล่าวว่า ไม่มีใครที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองมากถึงขั้นจะทำร้ายตัวเอง เพราะเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนไหนที่มีอุดมการณ์สูงขนาดต้องทำร้ายตัวเองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยกับการปฏิรูปครั้งนี้ เนื่องจาก คปค.เข้ามาปฏิรูปการเมืองด้วยสันติวิธี มาด้วยการยอมรับของประชาชน ทำทุกอย่างด้วยเจตนาบริสุทธิ์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายนวมทองกล่าวหาผม ผมต้องขอขมาต่อวิญญาณของคุณลุง และจะหาโอกาสทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ รวมทั้งไปร่วมในพิธีศพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคุณลุงที่มุ่งมั่น ทุ่มเท หรือคิดด้านเดียว โดยขาดคำชี้แจงตามลำดับ จนทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณบุญชู ภรรยาของคุณลุง ก็ทราบว่าเขาไม่ได้ผิดปกติอะไร ไม่มีท่าทีที่บอกว่าคิดมากหรือกลุ้มใจ พ.อ.อัคร กล่าว

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวเรื่องนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวนายนวมทอง และหวังว่ากรณีนี้จะทำให้สังคมนำมาคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ด้วยการใช้เหตุผล สติปัญญาอย่างรอบคอบ เพราะกรณีนี้อาจล่อแหลมต่อการนำไปสู่ความมีอารมณ์ความรู้สึก โดยพรรคไทยรักไทยจะส่งตัวแทนไปร่วมงานบำเพ็ญกุศล แต่ยืนยันว่าจะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ไม่ต้องการนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมือง

วายพีดีแถลงการณ์เชิดชู

ต่อมา นย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ Young People for Democracy Movement, Thailand (วายดีพี) ออกแถลงการณ์ประกาศเชิดชู นายนวมทอง ไพรวัลย์ เป็นวีรบุรุษนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยสรุปว่า การเสียชีวิตครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า นายนวมทองมีจุดยืนต่อต้านเผด็จการทหารอย่างชัดเจน ที่สังคมควรร่วมเคารพ เชิดชู ยกย่อง เป็นวีรชนนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ต่างจากวีรชนในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ต่อสู้เสียสละเพื่อประชาธิปไตยและสังคมส่วนรวมมาในหลายเหตุการณ์ในอดีต

แถลงการณ์ยังระบุว่า การที่ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบกให้เหตุผลว่า คปค.กระทำการด้วยความนุ่มนวลนั้น เป็นเหตุผลที่รับฟังไม่ได้และสะท้อนถึงความไม่เข้าใจต่อประวัติศาสตร์ประชาชนที่ต่อสู้เพื่อพัฒนาสังคมและประชาธิปไตย เพราะการรัฐประหารแม้นุ่มนวล แต่โดยรูปแบบก็เป็นเผด็จการนั่นเอง

วันเดียวกัน ที่ศูนย์ฝึกอบรมวิศวกรรมเกษตรบางพูน จ.ปทุมธานี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า อย่างที่ตนเรียนคือ ถ้ามีปัญหาอะไรเราก็พูดกัน หาทางแก้ปัญหากัน เราหาทางชี้แจงเหตุผลกัน หากว่าเรายืนอยู่บนพื้นฐานความจริง ทุกอย่างเราแก้ไขได้

เมื่อถามว่าจะเกิดพฤติกรรมเรียนแบบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "คงไม่เป็นอย่างนั้น"

ตร.สกัดเคลื่อนศพไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เมื่อเวลา 18.00 น.วันเดียวกัน มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพนายนวมทอง ที่ศาลา 4 วัดบัวขวัญ หมู่ 2 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีญาติและครอบครัวมาร่วมงานประมาณ 20 คน โดยมีนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีต ส.ว.กทม.มาร่วมงานด้วย

ต่อมานางบุญชู ภรรยาของนายนวมทอง รับแจ้งจากทางโทรศัพท์จากกลุ่มมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย ขอให้นำศพนายนวมทองไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อร่วมไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ตายที่เสียสละชีวิตเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมีสมาชิกรออยู่ประมาณ 1,000 คน นางบุญชูและญาติจึงตัดสินใจนำศพนายนวมทองขึ้นรถตู้ สีเทาน้ำตาล ทะเบียน ฮก 1120 กรุงเทพมหานคร เพื่อนำศพไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตามที่กลุ่มมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยขอร้อง โดยมีรถติดตามไปอีกจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อขบวนรถขับมาถึงที่บริเวณถนนใต้ทางด่วนงามวงศ์วานเพื่อขึ้นทางด่วน ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองนนทบุรี สกัดไม่ให้ขบวนรถเคลื่อนย้ายเข้ากรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.เมืองนนทบุรี เข้าสอบถามนางบุญชูถึงสาเหตุการเคลื่อนย้ายศพไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งนางบุญชูตอบว่า เป็นเพราะกลุ่มมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งสามีร่วมเป็นสมาชิกอยู่ โทรศัพท์มาขอร้องให้นำศพไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร อีกทั้งหากสมาชิกจำนวนมากจะเดินทางมางานศพที่วัดพร้อมกันก็อาจทำให้สถานที่คับแคบ มีที่จอดรถไม่พอเพียง จึงตัดสินใจเคลื่อนศพไปตามที่มูลนิธิขอ

ต่อมา นางประทีปซึ่งเดินทางมากับขบวนรถเคลื่อนย้ายศพ ได้ลงมาเจรจากับตำรวจ โดยระบุว่าการเคลื่อนศพนายนวมทองไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการทำไปตามจดหมายของผู้ตายที่เขียนสั่งเสียไว้ ก็เปรียบเสมือนเป็นพินัยกรรมของผู้ตายที่ต้องการให้นำศพไปไว้ที่ไหน และผู้ตายอยากให้ถ่ายรูปงานศพของตนคู่กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย

"เมื่อผู้ตายเขียนพินัยกรรมระบุวัตถุประสงค์เอาไว้แล้ว ก็น่าจะนำศพผู้ตายเคลื่อนที่ไปได้ เพราะเป็นการเชิดชูเกียรติ จิตวิญญาณของคนรักประชาธิปไตย ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีใครใช้เงินจ้างเขามา เพราะเงินไม่สามารถซื้อจิตวิญญาณที่รักประชาธิปไตยของเขาได้ เพราะเขาเป็นคนรักประชาธิปไตยระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง" นางประทีป กล่าว

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วสันต์ กล่าวว่า การห้ามเคลื่อนศพครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เคลื่อนย้าย เพราะเกรงจะเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง จึงขอร้องไม่ให้เคลื่อนย้ายศพไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขอให้จัดงานศพที่วัด เพื่อให้เกียรติกับผู้ตาย เพราะทุกคนจะสามารถมาร่วมงานศพไว้อาลัยได้อย่างไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากต่อรองเจรจากันอยู่ประมาณ 15 นาที กลุ่มญาติของนายนวมทองตัดสินใจนำศพกลับมาตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดต่อ โดยมีรถตำรวจ สภ.อ.เมืองนนทบุรีนำขบวนกลับวัด ซึ่งคืนแรก น.พ.เหวง โตจิราการ น.พ.สันต์ หัตถีรัตน์ ชมรมแท็กซี่เอื้ออาทร ประมาณ 20 คน ได้มาร่วมงานศพด้วย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.อ.เมืองนนทบุรี 40 นาย ช่วยดูแลความเรียบร้อย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก