ทรท.เหน็บคณะปฏิรูปฯ อย่าตรวจสอบทรัพย์สิน แค่ทำตามกระแส

"ตอนนี้พรรคการเมืองทำอะไรคงยาก"


นายเอกพร รักความสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงบทบาทของพรรคไทยรักไทยภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจว่า

ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆคงจะทำอะไรได้ยาก คงต้องรอดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คปค.จะร่างออกมา ซึ่งจะสะท้อนถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมีการยกร่างขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้เวลาที่ใช้ในการร่างรัฐธรรมนูญควรที่จะสั้นที่สุด การจะสร้างอำนาจในรัฐธรรมนูญต้องดูบทเรียนในอดีตพอสมควร

"แนะรัฐธรรมนูญควรสั้น มีสภาพบังคับใช้ได้จริง"


สิ่งไหนที่เป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับประเทศไทยจะต้องคิดให้ดี ตนมองว่าวิธีที่ดีคือ ไม่ควรใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมด แต่น่าจะไปเขียนรายละเอียดขึ้นมาใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญตนอยากให้ลดสัดส่วนของ ส.ส. รวมถึงการพิจาณาที่มาของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

และควรสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ให้รัฐธรรมนูญเป็นฉบับสั้นๆ ไม่ควรจะเขียนรายละเอียดมากจนเกินไป เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บางเรื่องที่เขียนเอาไว้ก็ไม่ได้นำมาใช้ หลายเรื่องเป็นนามธรรม ไม่มีสภาพบังคับ ไม่ควรที่จะใส่ลงไป เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา

"หลักๆ แค่ 50 มาตราก็พอ"


จะเห็นได้ว่าไม่มีบทบาท เป็นเสมือนเพียงคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนอะไรได้ ซึ่งในหลายๆองค์กรมีลักษณะแบบนี้ ส่วนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้น หากสามารถทำเป็นระบบได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี อาจจะตั้งขึ้นมาเป็นองค์กรที่สังกัดอยู่ในระบบศาลก็ได้

เราควรคิดทำอะไรเองให้เหมาะสมกับประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องลอกจากต่างประเทศอย่างเดียว รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เขียนเอาไว้กว่า 300 มาตรา ความจริงเขียนหลักๆให้ชัดเจนเพียง 50 มาตราก็พอแล้ว นายเอกพร กล่าว

"ไทยรักไทยมั่นใจอยู่ต่อได้"


นายเอกพร กล่าวต่อว่า วิกฤตทางการเมืองขณะนี้น่าจะพิสูจน์ถึงความเป็นพรรคไทยรักไทยว่า จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้หรือไม่ ส่วนตัวยังเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยมีฐานรากที่แน่นหนากว่าพรรคการเมืองในอดีต ที่เมื่อมีการปฏิวัติเกิดขึ้น พรรคการเมืองก็จะแตกกระจัดกระจายกันไปหมด

แต่เมื่อดูพรรคไทยรักไทยในวันนี้ ทั้งนโยบายและเสียงตอบรับจากประชาชน คิดว่าจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่า สถานการณ์ที่เป็นแบบนี้จิตใจและความมุ่งมั่นของคนจะยังมีอยู่หรือเปล่า ขณะนี้พรรคไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นองค์รวม เนื่องจากไม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ความเห็นที่ออกมาจึงเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าพรรคมีปัญหา

"ขอให้ตรวจสอบจริงอย่าแค่เป็นไปตามกระแส"


สำหรับกรณีที่ คปค.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทยนั้น นายเอกพร กล่าวว่า เป็นการกระทำตามกระแสและความรู้สึกว่ามีการโกงและทุจริตเกิดขึ้น จึงอยากให้คปค.เข้าไปจัดการ ซึ่งในสมัย รสช.ก็มีการตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี

แต่ก็ยอมรับว่าไม่สำเร็จ และในที่สุดศาลก็ตัดสินว่าเป็นโมฆะ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.อย่างเข้มงวด จึงขอให้การตรวจสอบอย่าเป็นเพียงแค่กระแสเท่านั้น ส่วนผลที่ออกมาสังคมจะพิพากษาได้ แต่ปัญหาจะเกิดกับผู้ปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เนชั่น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์