ทรท.เปิดที่ทำการพรรคใหม่-มั่นใจพรรคไม่ถูกยุบ

เปิดที่ทำการพรรคไทยรักไทยแห่งใหม่ ย่านพระราม 3 คึกคัก แต่ไร้แกนนำคนสำคัญร่วมงาน มั่นใจพรรคไม่ถูกยุบ และจะลงเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทยแน่นอน

ณ อาคารนวสร เลขที่ 111/1 ถ.พระราม 3 เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งเป็นการเช่าพื้นที่บริเวณชั้น 1 เพียงชั้นเดียว โดยพิธีเปิดอาคารที่ทำการพรรคเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงการสักการะท้าวมหาพรหม บริเวณด้านหน้าอาคาร และเปิดป้ายผ้าชื่อที่ทำการพรรค ทั้งนี้ มีอดีตคณะกรรมการบริหารพรรค อดีต ส.ส. และสมาชิกพรรค มาร่วมงานประมาณ 100 คน อาทิ

นายปองพล อดิเรกสาร
นายวิเชษฐ เกษมทองศรี
นายชูศักดิ์ ศิรินิล
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
นายประจวบ ไชยสาส์น
นายไชยยศ สะสมทรัพย์
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล

แกนนำพรรคคนอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญไม่ได้ร่วมงานด้วย อาทิ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และ น.ส.ปอรรัชม์ ยอดเณร รองโฆษกพรรคชาติไทย ได้นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมอวยพรด้วย

หลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ ปรากฏว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ทำการพรรคเดิมใช้ประโยชน์สำหรับ ส.ส. ที่มีอยู่ประมาณ 400 คน แต่ขณะนี้ ยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ จึงมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหาที่ทำการพรรคแห่งใหม่ เพื่อนำพรรคไทยรักไทยไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค ได้ประกาศวางมือ ไม่เล่นการเมืองแล้ว จึงไม่ต้องการไปรบกวน

ขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดียุบพรรค แต่เราไม่ต้องการสร้างแรงกดดันทางการเมือง แม้เรายังไม่รู้ผลที่ออกมาจะยุบหรือไม่ แต่แกนนำและสมาชิกพรรคมีความมั่นใจว่า จะได้รับความยุติธรรม และพรรคจะไม่ถูกยุบอย่างแน่นอน ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้ใส่เสื้อไทยรักไทยลงสมัครอย่างแน่นอน

จะยึดนโยบายในอดีตของพรรคที่ประสบความสำเร็จมาสานต่อ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ ได้ ทั้งนี้พรรคยึดแนวทางสมานฉันท์ ยึดมั่นประชาธิปไตย และจะฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับคืนมา โดยเชื่อว่าแนวทางของพรรคดังกล่าวจะใช้ได้อีก 3-4 ปี เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ ต้องใช้ความสมานฉันท์แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ

หรือก่อให้เกิดความรุนแรง และพร้อมเร่งสร้างเศรษฐกิจไทยให้อยู่ได้ในยุคโลกาภิวัตน์ เพราะรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ดำเนินการทางเศรษฐกิจอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งพรรคไทยรักไทยจะส่งเสริมเศรษฐกิจในระบบเสรี และไม่มุ่งเอากิจกรรมสำคัญมาเป็นของรัฐอย่างที่พยายามทำกันอยู่ในขณะนี้ รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าว