ทรท.สวมบทอีแร้ง-จ่อรุมทึ้งพรรคเล็ก - หลังรัฐตัดทิ้งเงินสนับสนุน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2549 17:43 น.

กกต.ชี้ ทรท.เตรียมต้อนพรรคเล็กร่วมทัพไม่ถือเป็นการเทกโอเวอร์ ขณะที่พรรคเล็กลุ้นระทึกหลังรัฐบาลเตรียมตัดงบฯ สนับสนุนพรรคการเมืองปี 50 ทิ้ง

วันนี้ (24 พ.ย.) นายสมศักดิ์ สุริยมงคล รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยจะเทกโอเวอร์พรรคการเมืองที่มีอยู่ในสารบบของ กกต.ว่า โดยหลักกฎหมายไม่ถือว่าเป็นการยึดพรรคหรือเทกโอเวอร์ ซึ่งตามกฎหมายพรรคการเมืองนั้นเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคได้ตลอดเวลาที่มีการประชุมใหญ่ หากเสียงข้างมากในที่ประชุมเห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทั้งกรรมการบริหารพรรคหรือนโยบายของพรรคสามารถทำได้ ส่วนตัวมองเรื่องนี้ว่าเป็นพัฒนาการทางพรรคการเมืองมาก หากพรรคการเมืองขนาดเล็กอยู่ในสภาวะที่จะดำเนินกิจการต่อไปไม่ได้ แทบจะเลิกกิจการ ถ้ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มใหญ่ มีความรู้ความสามารถเข้าไป การชนะโหวตและเข้าไปยึดพรรคก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ตนไม่อยากให้มองเป็นเรื่องของผลเสีย อยากให้มองว่าเป็นการพัฒนาการของพรรคการเมืองมากกว่า

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า การที่จะเข้าไปยึดพรรคเล็กที่กำลังจะล้มหายตายจาก ผู้ที่เข้าไปอาจจะมองว่าเป็นการง่ายกว่าที่จะไปขอจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ไม่ถือว่าเป็นการโตทางลัด แต่เป็นเทคนิคทางกฎหมาย

ได้รับการประสานอย่างไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณว่าในปี 50 รัฐบาลอาจจะไม่สามารถจัดสรรเงินให้กับกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองเหมือนอย่างทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากรับบาลมีภาระกิจด้านความมั่นคงอื่นๆ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี กกต.ได้เตรียมขอแปรญัตติงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว ซึ่งหากไม่ได้รับการจัดสรรงบฯให้จริงๆ กกต.ก็คงจะต้องมาพิจารณากันใหม่ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำเงินหมุนเวียนของกองทุนที่มีอยู่ประมาณ 400 ล้านบาท มาใช้บางส่วน ถึงแม้กฎหมายพรรคการเมืองจะกำหนดให้จัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมืองทุกปี แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นเรื่องภาระงบประมาณที่รัฐบาลไม่สามารถจัดให้ได้ กกต.ก็คงต้องยอมรับ เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ และไม่ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ใช่มีเงินแล้วไม่จัดสรรให้

แต่คงไม่ล้มหายตายจากไปจากสารบบ เพียงแต่จะเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นพัฒนาทางการเมืองว่าพรรคโตเพราะเงินกองทุนฯ คือมีสาขาและสมาชิกมากก็ด้วยเงินของกองทุนฯ นายสมศักดิ์ กล่าว