ถาวรแฉนายใหญ่สั่งล้มรัฐบาล

วอนนายใหญ่และสมุนทำอะไรคิดถึงประเทศ ยันสุเทพไม่ขอเคลียทักษิณชัวร์ ยันหากเกิดการชุมนุมรัฐฯรับมือได้ชัวร์

วันนี้ (2 ก.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศชุมนุมหลังรัฐบาลยกเลิก ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ได้มาจากมือที่สาม ก็มาจากมือที่มองเห็นซึ่งหมายถึงบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ อยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งการล้มรัฐบาลสามารถทำได้หลายทางคือ 1. กดดันให้รัฐบาลบริหารงานไปไม่ได้ และจะต้องยุบสภาเข้าสู่กระบวนการจัดการเลือกตั้ง หรือ 2. ให้นายกรัฐมนตรีถอดใจลาออก ซึ่งขอแจ้งไปยังผู้ที่อยู่ต่างประเทศและคนที่รับงานมาในการเป็นแกนนำในการ จัดชุมนุมว่า ขอให้เลิกคิดถึงการเอาบ้านเมืองมาต่อรองเพื่อจะเข้าสู่อำนาจของนายใหญ่หรือ นอมินีของนายใหญ่ การกระทำดังกล่าวเพราะเขาเห็นว่าเมื่อไหร่ที่การแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ ประสบผลสำเร็จ จะทำให้การกลับมามีอำนาจของคนที่อยู่ต่างประเทศจะค่อย ๆ หมดไป เขาจึงใช้ทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นไม่ให้โครงการไทยเข้มแข็งไม่ให้เดินไปข้าง หน้า และสร้างความปั่นป่วน ลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้

ต่อข้อถามที่ว่า รายงานด้านการข่าวในที่ประชุมครม.มีการระบุหรือไม่ว่าในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. จะมีการใช้รูปแบบความวุ่นวายอย่างไรบ้าง รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จะมีการปิดการจราจร ยั่วยุเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดอารมณ์ด้วยการสร้างความรุนแรง จากนั้นจะทำให้สถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในกทม. และจะนำเป็นข้ออ้าง ค่อย ๆ บั่นทอนการทำงานของรัฐบาล

“การชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.เกิดขึ้นค่อนข้างจะแน่นอน เพราะเขาจะอ้างวันครบรอบ 3 ปีการรัฐประหาร และพยายามจะโยนความผิดว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร ซึ่งคนที่เชื่อง่ายโดยไม่ใช้ดุลยพินิจโดยไม่ได้วิเคราะห์อย่างถ่องแท้จะ ทำให้แนวร่วมออกมาชุมนุมได้มากพอสมควร” นายถาวร กล่าว

เมื่อ ถามว่า มีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ จะคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการคุยกัน แต่ถ้าจะเคลียร์ก็มีได้ประเด็นเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องติดคุกและถูกดำเนินคดี 10 กว่าคดีก็จบ แต่การสร้างความหวาดระแวงหรือดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ จะกระทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะใช้ได้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้เขาจะแบ่งเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เมืองนอกเป็นคน คิดกว้าง ๆ ให้รอบคอบ อีกกลุ่มคือคนที่อยู่บนเวทีเป็นคนวางแผนเพื่อให้แน่นอนมากขึ้นและเป็นผู้ เคลื่อนไหวในกิจกรรม เพราะเขาได้รับบทเรียนจากวันที่ 12 เม.ย.แล้วว่า หากปล่อยให้คนกลุ่มเดียวรับงานมาและดำเนินกิจกรรมที่ต้องการ จะเกิดความล้มเหลวได้ เพราะขาดความรอบคอบ แต่ก็มั่นใจว่ารัฐบาลจะรับมือได้ เพราะเราไม่กลัวที่จะใช้กฎหมาย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์