ถล่มสภาฯซื้อนาฬิกาเรือนละ7.5หมื่น

ถกงบ57วาระ2เดือด! 'วัชระ'ถล่มกว่า2ชม. ส.ส.พท.ประท้วงวุ่น เหตุแฉสภาฯของบฯซื้อนาฬิกาเรือนละ 7.5 หมื่นบาท 200 เรือน

14ส.ค.2556  มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 วงเงิน 2.525 ล้านล้านบาท หลังจากที่กรรมาธิการวิสามัญฯได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.40 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ชุม กำหนดประชุม 2 วัน หากไม่แล้วเสร็จ ให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายประสานกันอีกครั้ง

            
จากนั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯเเละรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ นำเสนอรายว่า
กรรมาธิการวิสามัญฯได้ใช้เวลาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2557 วงเงิน 2.525 ล้านล้านบาท  โดยปรับลดงบประมาณลงจำนวน 31,899 ล้านบาท

            
ต่อจากนั้นนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์

ได้อภิปรายเป็นคนแรกตามที่สงวนความเห็นให้ปรับลดงบประมาณฯลง 0.1 เปอร์เซ็นต์ว่า เนื่องจากพบว่า โครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของรัฐสภา เช่น นาฬิกาเรือนละ 7.5 หมื่นบาท จำนวน 200 เรือน, การเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา เช่น ห้องจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน, รถประจำทาง, รถไฟ นอกจากนั้นใช้งบ 5 ล้านบาทปรับปรุงห้องสื่อมวลชนที่ถือว่าแพงที่สุดในโลก, โครงการพาชมทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ 3.3 ล้านบาท


ถล่มสภาฯซื้อนาฬิกาเรือนละ7.5หมื่น

นอกจากนั้นตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี2557 มีการตั้งงบประมาณไว้ 80 ล้านบาท

เพื่อจัดซื้อไมโครโฟนติดตั้งในห้องประชุมสภาฯ, จัดงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่รัฐสภา และในห้องเลขาธิการสภา จำนวน 40 ล้านบาท นอกจากนั้นแล้วยังใช้งบประมาณ 2.3 ล้านบาทต่อปีเพื่อจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการจัดเก็บขยะในรัฐสภา จากเดิมที่จ้างหน่วยงานของกรุงเทพมหานครในราคา 1 หมื่นบาทต่อปี

            
“ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เลขาธิการสภาฯ อ้างว่าเป็นไปตามดำริของประธานสภาฯ และตามที่กรรมาธิการฯ ร้องขอเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง ก็ไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้เหตุที่ตนขอปรับลดงบประมาณเพราะไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งมีการเปิดช่องให้มีการทุจริตโครงการต่างๆ “ นายวัชระ อภิปราย

            
โดยระหว่างการอภิปรายของนายวัชระ ที่นานกว่า 1 ชั่วโมง ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มีการทักท้วงเรื่องการอภิปรายอยู่เป็นระยะๆ

รวมถึงขอให้สละสิทธิ์การอภิปรายแต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้นายสมศักดิ์กล่าวต่อที่ประชุมว่า สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างในรัฐสภา ตนไม่ทราบมาก่อน ตนขอสาบานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ว่าตนไม่ทราบ และรู้หลังจากที่เป็นข่าวไปแล้ว ทั้งนี้ตนได้เรียกนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาสอบถาม โดยนายสุวิจักขณ์ ยืนยันว่าทำถูกต้องและพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น แต่ตนขอเอกสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว อย่างไรก็ตามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2557 อย่าพูดทำให้บุคคลอื่นเสียหาย หรือกล่าวหาบุคคลอื่นว่าทุจริตหรือโกง หากจะอภิปรายต่อขอให้ระบุในกรอบของร่างพ.ร.บ.งบประมาณ

            
“ขอให้พิจารณาในกรอบ ไม่ใช่อยากพูดอะไรก็พูดได้ คำว่าโกง หรือทุจริต แม้แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังห้ามพูด แต่หากอยากพูดขอให้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจวันนี้เลย แล้วผมจะบรรจุให้ นี่เป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณวาระสอง ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ผมไม่ได้สกัดการอภิปราย  แต่ท่านวัชระทำหน้าที่เกินความจำเป็นอภิปรายเกิน 1ชั่วโมงแล้ว แบบนี้ไม่จบหากการพูดไปได้เรื่อยๆ ไม่จบ เห็นว่าควรยุติการอภิปราย” นายสมศักดิ์ วินิจฉัย

            
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการถกเถียงในประเด็นดังกล่าวและช่วงที่นายวัชระอภิปรายได้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงเข้าสู่การอภิปรายตามที่มีผู้เสนอคำแปรญัตติ มาตรา 3 ภาพรวมงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์