ตร.ปาดังเบซาร์เจ๋ง ใช้เวลา9ชม. ตามจับแก๊งปล้นทอง

ตำรวจปาดังเบซาร์ใช้เวลา 9 ชั่วโมง ระดมกำลังออกตามล่าแก๊งโจรปล้นร้านทองได้สำเร็จ โดยผู้บงการเป็นดาบตำรวจที่โดนไล่ออกจากราชการ อีก 3 เป็นพ่อลูก จนมุมด้วยหลักฐาน พบตั่งหูหล่นอยู่ 1 ข้างในรถกระบะที่ใช้หลบหนี ห่างจากร้านทองเกิดเหตุแค่ 8 กม....

เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. 30 เม.ย. พ.ต.ท.อทิป แสงวันลอย สวญ. สภ.ปาดังเบซาร์ นำกำลังออกติดตามคนร้ายปล้นร้านทองได้ยกแก๊ง

โดยพบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บย 4615 สงขลา ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี จอดอยู่ในสวนยางบ้านท่าข่อย ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 8 กิโลเมตร โดยคนร้ายนำรถคันดังกล่าวมาจอดหลบไว้ มี ด.ต.วิเชียร รัตน์โชติ อายุ 46 ปี ตำรวจนอกราชการ (ถูกไล่ออก) อยู่บ้านเลขที่ 90/73 ม.8 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นั่งอยู่ด้านหน้าคนขับ พร้อมด้วยนายเกียรติพงศ์ ทองกอบ อายุ 20 ปี อยู่ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภายในรถกระบะคันดังกล่าว พบตั่งหูหล่นอยู่ที่พื้นรถด้านหลังคนขับ 1 ข้าง จึงควบคุมตัวทั้งคู่ไว้

ต่อมาเจ้าหน้าที่วิทยุแจ้งว่าพบบุคคลต้องสงสัย มีรูปพรรณสัณฐานแต่งกายคล้ายคนร้ายจำนวน 2 คน

ขณะเดินอยู่ริมถนนในหมู่บ้านบางควาย ต.ทุ่งหมอ ห่างจากจุดพบรถกระบะคันก่อเหตุ ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นตัว นายจำ ทองกอบ อายุ 54 ปี อยู่ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร พบปืนสั้นขนาด.38 พร้อมเครื่องกระสุนอยู่ในรังเพลิง 6 นัด และค้นตัวนายสุทธินัย ทองกอบ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเดียวกับนายจำ พบทองรูปพรรณที่ปล้นมา ห่อด้วยผ้ามัดไว้บริเวณสะโพก และสวมกางเกงยีนส์ทับไว้

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 คนว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหามายังสภ.ปาดังเบซาร์ เพื่อทำการสอบสวน

ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายจำเปิดเผยว่า ตนและลูกชายทั้ง 2 คนร่วมกันลงมือปล้นร้านทองชมพูนุช ตนเป็นผู้ถือปืนและคอยยืนคุมเชิง ให้ลูกๆ ทั้งสองทำหน้าที่กวาดทองในตู้ ซึ่งทั้งหมดมีด.ต.วิเชียรเป็นผู้วางแผนให้ทั้งหมด ก่อนลงมือ 1 วัน ด.ต.วิเชียรยังเข้ามาดูลาดเลาในห้างทองดังกล่าว ทำทีนำทองรูปพรรณมาจำนำ หลังจากนั้นก็วางแผนปล้น หาซื้อหมวกไหมพรม ถุงมือ และหาถุงพลาสติกมาให้ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ เพื่อใช้อำพรางเส้นทางในการหลบหนี แต่ลูกเจ้าของร้านตามมากระชั้นชิด เลยทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งขึ้นรถกระบะ ที่มีด.ต.วิเชียรติดเครื่องรออยู่พาหลบหนีไป เมื่อฟังวิทยุทราบว่าตำรวจตั้งจุดสกัดทั่วบริเวณ จึงนำรถไปจอดแอบไว้ในสวนยาง ตนและลูกคนเล็กทำทีเดินไปหาชาวบ้านให้ช่วยขับรถไปส่ง แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน

ด้านนางกุลภัทร์ วิระพรสวรรค์ เจ้าของร้านทองชมพูนุช ที่ถูกคนร้ายกลุ่มดังกล่าวปล้นทองรูปพรรรณไปถึง 144 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 36 บาท

ราคาประมาณ 640,400 บาท กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากตำรวจจับแก๊งปล้นทองได้แล้วว่า ดีใจมากๆ เลย ตำรวจเก่ง เป็นที่พึ่งของประชาชน เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจบอกว่ายังจับคนร้ายไม่ได้ แต่พอตำรวจโทรมาบอกว่าให้มาที่โรงพักเพราะจับคนร้ายได้แล้ว ดีใจมากเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆ

ขณะที่พ.ต.ท.อทิป เปิดเผยว่า ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เนื่องจากนำเทปจากกล้องวงจรปิดของร้านทองและร้านใกล้เคียงมาดู ทำให้ทราบถึงรูปพรรณของกลุ่มคนร้าย ประกอบกับผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมกันทำงานโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ใช้ปฏิภาณไหวพริบจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง สำหรับเหตุดังกล่าวนี้ เกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 29 เม.ย. และตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 30 เม.ย. นับเป็นความภาคภูมิใจของตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ ส่วนด.ต.วิเชียรเคยเป็นอดีตตำรวจสังกัดภาค 9 มีประวัติโชกโชน เคยถูกร้องเรียนหลายเรื่อง และมีพฤติกรรมไม่ค่อยดี จนกระทั่งถูกให้ออกจากราชการในที่สุด

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์