ดีเอสไอแถลงไม่ฟ้องจตุพรคดีหมิ่นเบื้องสูง

ดีเอสไอแถลงไม่ฟ้องจตุพรคดีหมิ่นเบื้องสูง

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
 
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีคดีความผิดความมั่นคงแห่งรัฐหรือความผิดตามมาตรา 112 ว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นใน 2 คดี คือ คดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวกกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยคดีดังกล่างพนักงานสอบสวนได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการและมีความเห็นร่วมกันสมควรสั่งไม่ฟ้องนายจตุพรกับพวก ด้วยเหตุผล คือ การสอบสวนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งคำกล่าวในการปราศรัย ไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112 โดยขณะนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการและอยู่ในดุลยพินิจของอัยการว่าจะพิจารณาอย่างไร คดีดังกล่าวอัยการสามารถมีความเห็นได้ 2 แนวทาง คือ 1.สั่งไม่ฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ และ 2.สั่งฟ้อง และสั่งให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม


นายธาริตกล่าวว่า สำหรับคดีแผนผังล้มเจ้า มีผู้ถูกกล่าวหาตามผังทั้งหมด 39 คน มีการแยกดำเนินคดีเฉพาะตัวบุคคล 23 ราย
 
ซึ่งจำนวนนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ทำความเห็นมีทั้งสั่งฟ้อง และสั่งไม่ฟ้องและได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการไปแล้ว และการสอบสวนคดีนี้ดีเอสไอได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นพยาน เพื่ออธิบายถึงขั้นตอนการจัดทำผังและความเชื่อมโยงของบุคคลทั้งหมด แต่ปรากฏว่าไม่มีพยานยืนยันการกระทำความผิดชัดเจน พนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบคดีนี้ มีความเห็นร่วมกันให้งดการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิด จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเห็นชอบต่อไป


"การงดสอบไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้หมายความว่าไม่พบการกระทำความผิด แต่ยังสามารถนำคดีดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนในภายหน้าได้ จำนวน 39 รายชื่อไม่ใช่ว่าไม่มีใครผิด แต่เราแยกดำเนินคดีเฉพาะราย แต่การเชื่อมโยงรายชื่อทั้งผังยังไม่พบความผิดชัดเจน" นายธาริตกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า การมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนายจตุพรกล่าวหมิ่นสถาบันแสดงว่า สามารถนำคำปราศรัยไปเผยแพร่ได้ใช่หรือไม่นายธาริต กล่าวว่า ยังไม่ได้ เพราะต้องรอจนกว่าอัยการจะมีคำสั่งในคดีว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่


นายธาริตกล่าวว่า ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ ตามผังของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ว่า
 
ดีเอสไอได้แยกการดำเนินคดีเฉพาะตัวบุคคล 23 ราย ซึ่งมีทั้งที่เห็นควรสั่งฟ้องและเห็นควรสั่งไม่ฟ้องส่งให้กับพนักงานอัยการพิจารณา ส่วนคดีตามผังของศอฉ. ที่มีผู้ที่เกี่ยวข้อง 39 รายนั้นจากการสอบสวนโดยเฉพาะการให้ปากคำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในฐานะพยานการจัดทำผังและจากการสอบสวนไม่ พบว่า มีพยานยืนยันการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจึงได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการมีความเห็นงดการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิดตามผังดังกล่าวและได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการคดีพิเศษพิจารณาแล้ว


นายธาริต กล่าวว่า การมีความเห็นให้งดการสอบสวนนั้น หากหลังจากนี้พบว่ามีการกระทำความผิดหรือมีหลักฐานเพิ่มเติม
 
รวมถึงมีพยานยืนยันว่า มีการกระทำความผิด ก็สามารถดำเนินการสอบสวนได้ทันที ทั้งนี้ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่ไม่มีผู้กระทำความผิด แต่ได้แยกดำเนินคดีเป็นรายบุคคล การมีความเห็นสั่งให้ยุติการสอบสวนเฉพาะความผิดตามผังของศอฉ.เท่านั้น


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์