ดีเอสไอเมินคำขอ เสรีพิศุทธ์ หยุดยุ่งคดีกุหลาบแก้ว

ดีเอสไอ เมินคำขอ เสรีพิศุทธ์


เดินหน้าตรวจสอบข้อมูลกุหลาบแก้ว พร้อมคุ้ยเส้นทางการเงินซื้อหุ้น เตรียมเสนอเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน

26กพ.) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร.

ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ ให้เข้าพบนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อยืนยันเจตนารมย์ ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า ตำรวจต้องการสอบสวนคดีบริษัทกุหลาบแก้วเองจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังการหารือ พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า


เมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้ามาเป็นรักษาการผบ.ตร. ได้ให้ความสนใจกับกรณีบริษัทกุหลาบแก้ว และได้เร่งเข้าไปตรวจสอบ พบว่าพนักงานสอบสวนชุดเดิมดำเนินการล่าช้า เนื่องจากพนักงานสอบสวนชุดเดิมสุขภาพไม่ดี และไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน

ภายในวันนี้ (26 ก.พ.) รักษาการผบ.ตร.

จะแต่งตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นใหม่ 1 ชุด เพื่อเร่งรัดการสอบสวน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการรับโอนคดีพิเศษ ตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ จนกว่าจะถึงวันที่ 23 มี.ค.ทั้งนี้หากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติให้โอนคดีตำรวจก็ต้องส่งสำนวนคดีพร้อมหลักฐานทั้งหมดมาให้ดีเอสไอ

ด้านนายสุนัย กล่าวว่า กรณี


บริษัทกุหลาบแก้วตนไม่สามารถรับปากตามที่มีการร้องขอจากพล.ต.ท.จงรัก เพราะไม่มีอำนาจตัดสินใจ โดยการรับหรือไม่รับคดีพิเศษขึ้นอยู่กับมติของกคพ. ในเบื้องต้นทราบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม ว่าต้องการให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบกรณีบริษัทกุหลาบแก้วว่าเป็นนอมินีหรือไม่



ซึ่งขณะนี้นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม


ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง การทำนิติกรรมสัญญาของบริษัทกุหลาบแก้ว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงนำเสนอต่อบอร์ดกคพ.ว่า หากบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินีจะส่งผลกระทบอย่างไร โดยจะต้องรับฟังข้อมูลจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงพาณิชย์

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า


ในระหว่างที่กคพ.ยังไม่มีมติ ว่าจะรับโอนคดีกุหลาบแก้วมาเป็น คดีพิเศษหรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีอำนาจเต็มที่จะสอบสวนคดี และไม่แน่ว่าก่อนที่จะถึงวัน ที่ 23 มี.ค. การสอบสวนคดีของตำรวจ อาจมีความคืบหน้าก็ได้


ส่วนกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า


บุคลากรของดีเอสไอส่วนใหญ่เป็นตำรวจที่อกหัก ไม่มีความก้าวหน้า จึงไม่น่าจะมีประสิทธิภาพเท่ากับตำรวจนั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นจริงเรื่องที่ตำรวจที่โอนมาดีเอสไอ เป็นตำรวจที่ไม่มีอนาคต เพราะหลายคนจบปริญญาโทและเอก แต่ไม่ชอบวิธีการทำงานแบบตำรวจ จึงย้ายมาอยู่กับดีเอสไอ ส่วนตำรวจที่ผิดหวังก็คงมีบ้าง เพราะโครงสร้างตำรวจต้องฝ่าเป็นแสนคน จึงจะก้าวขึ้นสู่ยอดปิรามิด คือตำแหน่ง ผบ.ตร.ขณะที่ดีเอสไอการเติบโตก้าวหน้ามีได้มากกว่า


สำหรับอัตราตำรวจในดีเอสไอ


มีอยู่ร้อยละ 50 ไม่ใช่ร้อยละ 90 อย่างที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุ โดยตนพยายามแก้ไข ด้วยการรับโอนข้าราชการพลเรือนจากฝ่ายอื่นๆเข้ามา เพื่อให้มีตำรวจอยู่ในดีเอสไอไม่เกินร้อยละ 30

นายสุนัย กล่าว


ขณะนี้ผมได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดของบริษัทกุหลาบแก้ว และได้ศึกษาพรบ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และพรบ.ประกอบธุรกิจโทรคมนาคม นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่า บริษัทกุหลาบแก้ว นำเงินจากที่ใดมาซื้อหุ้น เท่าที่ศึกษาเบื้องต้นพบว่าคดีมีความสลับซับซ้อนพอสมควร

นายสุนัย เปิดเผยด้วยว่า


พล.ต.ท.จงรัก ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานควาย มามอบให้ดีเอสไอ จำนวน 5 ภาพ โดยเป็นภาพเก่าที่เคยนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เท่าที่ได้เห็นภาพดังกล่าว ไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะไม่เห็นใบหน้า และไม่เห็นด้วยว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่นำระเบิดไปวาง ตนจึงขอให้ตำรวจส่งภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดมาให้เพิ่มเติม


แต่เชื่อว่าภาพดังกล่าวจะไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ


ที่ผ่านมาดีเอสไอจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาพชุดดังกล่าว ในส่วนของภาพผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ในห้างซีคอนสแควร์นั้น ดีเอสไอได้ส่งภาพเคลื่อนไหวทั้งหมดไปให้ประเทศเดนมาร์กช่วยตรวจสอบ แม้ภาพดังกล่าวจะเห็นใบหน้าชัดเจน แต่จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ไม่ใช่เปรียบเทียบเฉพาะกับแฟ้มประวัติผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในภาคใต้เท่านั้น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์