ดีเอสไอส่งสำนวนสั่งฟ้อง 3 แกนนำนปช.ก่อการร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 เมษายน ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1

พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในคดี ความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปในท้องที่ผู้รับผิดชอบประกาศกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และขอถอนประกันผู้ต้องหาทั้ง 3 อีกด้วย เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในชั้นพนักงานสอบสวน เมื่อทั้ง 3 ร่วมชุนนุมกับแกนนำ นปช. ในวันที่ 7 และ 10 เมษายน ที่ผ่านมา


ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เดินทางมาพบพนักงานอัยการ

พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. นอกจากนี้ยังมีมวลชนคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งเดินทางไปให้กำลังใจด้วย ขณะที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม พร้อมยื่นหลักทรัพย์เดิมในชั้นพนักงานสอบสวน ที่นายสุภรณ์และนายพายัพได้รับประกันตัวคนละ 6 แสนบาท และนายชินวัฒน์ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ ยื่นประกันตัวต่อพนักงานอัยการด้วย 


ต่อมาพนักงานอัยการพิจารณาคำร้องเรื่องประกันตัวพร้อมหลักทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้ง 3 แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวได้

พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามชุนนุมโดยผิดกฎหมาย ห้ามยุยงปลุกปั่น ประชาชนให้กระทำผิดกฎหมาย ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และห้ามออกนอกราชอาณาจักรก่อนได้รับอนุญาต พร้อมนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 19 พฤษภาคม เวลา 10.00 น.


นายสุภรณ์กล่าวว่า พวกตนยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เดินทางไปพบอัยการตามนัดหมาย

ทั้งการชุมนุมของ นปช. เป็นการระลึกถึงวีรชนที่เสียชีวิตไป มีการกำหนดวันเริ่ม และเลิกชุมนุมชัดเจน ไม่เหมือนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีกลุ่มคนเพียงนิดเดียว แต่ปิดถนนทั้งเส้น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐไปดำเนินการแต่อย่างใด พร้อมยืนยันในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบัน ขออย่าให้รัฐบาลนำประเด็นความจงรักภักดีไปโจมตีกับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย


ด้านนางธิดากล่าวว่า ขณะนี้แกนนำและแนวร่วม นปช. ทั้ง 18 คน ได้รับหมายเรียกจากดีเอสไอแล้ว ในคดีหมิ่นเบื้องสูง
 
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วไม่เข้าข่ายความผิดดังกล่าวเลย แต่ทั้ง 18 คน จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกอย่างแน่นอน การชุมนุมของ นปช.เปรียบเสมือน Warning mob เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในสังคม


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์