ณัฐวุฒิไล่เฉ่งสรรเสริญ-สุเทพ-แก้วสรรหลังออกมาถล่มพท.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ตอบรับการขอพบของนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและให้รอเวลาที่เหมาะสมนั้น มันเป็นการแสดงวุฒิภาวะของผู้นำองค์กร

ส่วนจะได้พบหรือไม่ มันอยู่ที่สถานการณ์ การทำแบบนี้คือผู้ใหญ่คุยกัน สังคมจะคลายความกังวล การหาเสียงจะเดินหน้าเพื่อขอให้ประชาชนตัดสิน สังคมต้องการเห็นภาพแบบนี้ ส่วนพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ระบุว่าตนเป็นน้ำล้างเท้านั้น ตนไม่สนใจและขำๆเพราะวาทกรรมแบบนี้แสดงว่ามีการโชว์ลีลาขั้นเทพ คือขั้นเทพไท เสนพงศ์ สังคมควรพิจารณาว่า วันนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ไปช่วยงานกองทัพบกแล้วใช่หรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าสังคมพิจารณาว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแล้วแกนนำนปช.จะได้เป็นครม. บ้านเมืองจะอยู่กันอย่างไร การเลือกตั้งนั้นชนะหรือแพ้อยู่ที่ประชาชน การตั้งครม.ก็อยู่ที่ข้อตกลงกัน ตนไม่เคยคิดอ่านจะเป็นรัฐมนตรี นายสุเทพแนะนำให้ตนไปส่องกระจกนั้น ตนไปส่องแล้วจึงคิดว่าหากนายสุเทพเป็นรัฐมนตรีได้ คนอื่นๆก็เป็นได้และนายสุเทพควรส่องกระจกเรื่อยๆจะได้เห็นวิญญาณจากราชประสงค์และคอกวัว จะได้เกิดพุทธิปัญญาสั่งจับกุมคนสั่งสังหารประชาชน

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคตส.และนายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำคนเสื้อหลากสีที่ยื่นเรื่องให้หน่วยงานต่างๆฟ้องร้องนางสาวยิ่งลักษณ์ในข้อหาเบิกความเท็จในชั้นศาล ในคดีการยึดทรัพย์สี่หมื่นกว่าล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอเรียนว่าขั้นตอนของพรรคได้ขยับแล้ว แต่ข้อเท็จจริงนั้นขอเตือนความจำนายแก้วสรรว่า การให้สัมภาษณ์ของนายแก้วสรรที่อ้างว่าเรื่องแบบนี้นักเลงไม่ทำกัน แต่เมื่อผ่านมาไม่กี่วันนายแก้วสรรก็เป็นหัวหอกดำเนินการทันที ขอถามว่าทำตามคำสั่งใคร มันมีขบวนการในเรื่องนี้ ตนจะเปิดรายชื่อให้ประชาชนทราบว่ามีการแบ่งหน้าที่และบทบาทกันนั้นแท้จริงมันเป็นเช่นใด