ณัฐวุฒิ ลั้น รับคำดีเบต “ท้าเทือก” แทน “นายกฯ”

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายณัวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำ นปช.

กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯกปปส. ระบุว่าข้อเสนอตั้งสภาปฏิรูปประเทศ ของนายกรัฐมนตรี ต่างกับข้อเสนอตั้งสภาประชาชน และท้านายกฯดีเบต ว่า แนวคิดตั้งสภาประชาชนไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน แต่พอนายกฯเ สนอตั้งสภาปฏิรูปบ้าง กปปส.กลับหยิบยกข้อกฎหมาย มาตรา 113 และ 114  ของรัฐธรรมนูญมาอ้าง ซึ่งตนมีข้อมูลว่าไม่ใช่ผลงานของนายสุเทพ แต่เป็นผลงานของกุนซือกฎหมายที่ทำงานเบื้องหลังการ และมีหลักฐาน ว่า นายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คอยดำเนินการอยู่ ทั้งนี้หากเป็น 10-20 ปีก่อน นายมีชัย ออกมาชี้ช่องดังกล่าวอาจได้รับความเชื่อถือ แต่บทบาทของนายมีชัย ที่ผ่านมากลับใช้ความรู้ทางกฎหมายมารับใช้รัฐประหาร และฝ่ายเผด็จการมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นสถานะของนายมีชัย ในขณะนี้ จึงไม่ใช่ผู้รู้ทางกฎหมาย แต่เป็นสิ่งชำรุดทางประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับคำท้าดีเบตของนายสุเทพนั้น

โดยหลักการแล้วคนที่เป็นนายกฯไม่มีความจำเป็นต้องไปนั่งออกทีวี ดีเบตกับผู้ต้องหากบฏ ที่สร้างความวุ้นวายไม่เว้นแต่ละวัน หากนายสุเทพต้องการดีเบต ตนในฐานะแกนนำนปช. เคยเป็นแกนนำการชุมนุม เคยมีหมายจับเหมือนกัน พร้อมประกาศรับคำท้าของนายสุเทพ และหวังว่านายสุเทพจะไม่ถอนคำท้ากลับ จะให้ขึ้นเวทีที่ไหนก็ได้ประชาชนจะได้ทราบว่าแนวทางของนายสุเทพ กับรัฐบาลต่างกันอย่างไรแต่ขณะนี้สังคมไทยคนที่เป็นกลางนั้นหายาก ก็เสนอให้เชิญองค์กรสิทธิต่างประเทศมาร่วมด้วย ถ้าแพ้ยืนยันยุติบทบาททางการเมืองตลอดชีวิต ถ้านายสุเทพแพ้ ตนเดิมพันเอาแค่ว่าให้นายสุเทพ ยุติชุมนมแล้วเดินทางกลับบ้าน ยุติการขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งตนรอคำท้าตลอดเวลา

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขอประณามนายสุเทพ ที่ประกาศยุติการการชุมนุมที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 และนำมวลชนเดินทางกลับราชดำเนิน

แต่ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ กลุ่ม คปท. กลับมาปิดล้อม และพยายามบุกเข้าตัวอาคารมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ช่วงเช้า เอาคนของตัวเองอยู่ข้างหลัง แล้ว เอา คปท.มาเป็นหน่วยประจำบาน วิธีการแบบนี้คนที่ประกาศตัวปฏิรูปประเทศไม่น่า จะนำมาใช้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้น นายสุเทพ ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีการใช่อาวุธจริง เพราะขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บไปแล้ว 3 ราย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและยึดกระสุนไว้ได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า จากนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงอยากชวนคนไทยให้เริ่มต้นเคาท์ดาวน์ตั้งแต่วันนี้ไปวันที่ 8 ม.ค.

ซึ่งเป็นวันที่ศาลอาญานัดนายสุเทพ ไปจะรายงานตัวต่อศาลข้อหาสั่งให้มีการสลายการชุมนุม หวังว่านายสุเทพ จะไม่เลื่อนนัดอีก เพราะโดยกระบวนการยุติธรรมหากอ้างว่าติดภารกิจไปทำการชุมนุมเพื่อล้มการเลือกตั้งไม่น่าจะทำได้ ส่วนข้อเสนอของ กกต.ให้เลื่อนการเลือกตั้งนั้น มองว่าการเสนอเลื่อนการเลือกตั้งที่กำลังพูดอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเลื่อนออกไปเพื่อเลือกเป็นวันอื่น แต่หมายถึงการล้มการเลือกตั้งและให้นายสุเทพได้ตามต้องการ  ดังนั้นคนที่เสนอให้เลื่อนการต้องควรให้เหตุผลที่เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้ง ดังนั้นเป็นโอกาสของคนที่รักประชาธิปไตยที่จะออกมาต่อสู้กับคนที่ต้องการล้มการเลือกตั้ง.