ช่วย‘วีระ-ราตรี’ส่อแห้ว-ไม่เข้าข่ายโอนตัวนักโทษ

วันที่ 26 ก.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พร้อมนายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการฯ และโฆษกกระทรวงยุติธรรม และนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวกรณีการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างไทย-กัมพูชา    


 พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษ แต่มีสนธิสัญญารับโอนนักโทษคดีเด็ดขาดระหว่างกันได้

คือสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาตามคำพิพากษาในคดีอาญา ในสนธิสัญญากำหนดให้การดำเนินการต้องประกอบด้วยความเห็นชอบจาก 3 ฝ่าย คือ 1.ผู้ต้องโทษคดีถึงที่สุด ซึ่งต้องเป็นผู้แจ้งความประสงค์ผ่านทางช่องทางกระทรวงต่างประเทศ 2.ประเทศของผู้ที่รับขอโอนตัว และ 3.ประเทศผู้ให้ตัวผู้ต้องโทษ ระเบียบยังกำหนดให้ไทยและกัมพูชาต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาการโอนนักโทษ ในส่วนของไทยจะมีปลัดฯยุติธรรม เป็นประธาน  

 รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ 2 นักโทษคนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ในกัมพูชา

จากการพิจารณาเบื้องต้นคงไม่เข้าเงื่อนไขสนธิสัญญาการโอนตัว เพราะในสนธิสัญญาระบุเงื่อนไขการโอนว่านักโทษต้องจำคุกแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนโทษทั้งหมด และนักโทษต้องไม่กระทำความผิดต่อความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกแห่งรัฐ


 พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตามขั้นตอนนักโทษต้องเป็นผู้แจ้งความประสงค์และยื่นเรื่องต่อสถานทูต เพื่อให้สถานทูตส่งเรื่องมาที่กระทรวงต่างประเทศ

และส่งต่อมาให้กระทรวงยุติธรรม ในส่วนของนายวีระและน.ส.ราตรี ต้องสอบถามข้อหาที่ชัดเจนไปยังกระทรวงต่างประเทศแต่ในส่วนกระทรวงยุติธรรมยังไม่พบว่ามีการยื่นคำร้อง ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่แค่พิจารณาตามสนธิสัญญาเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ กระทรวงยุติธรรมไม่อาจเข้าไปก้าวล่วง แต่ยอมรับว่าเคยมีช่องทางพิเศษซึ่งถือเป็นพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ เช่นเมื่อปี 2552 กัมพูชาเคยพระราชทานอภัยโทษให้นักโทษไทย 2 ราย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์