ชูวิทย์จี้หาคนรับผิดสร้างโรงพักไม่เสร็จ

                  ที่รัฐสภา ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงถึงโครงการการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศที่ยังไม่แล้วเสร็จว่า ขณะนี้สื่อกำลังหลงประเด็น เพราะมีการพูดเบี่ยงเบนว่า โครงการดังกล่าวไม่สามารถรวมสัญญาได้ ทั้งที่ความจริงแล้วสามารถทำได้ ไม่ผิด เรื่องนี้ต้องดูว่าโครงการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาที่ระบุไว้ 600 วัน แล้วมีการขยายสัญญาต่อมาเรื่อย ๆ จนขณะนี้เหลือเวลาก่อสร้างอีกเพียง 40 วันเท่านั้น แต่สภาพสถานีตำรวจกลับยังไม่เรียบร้อย บางแห่งมีแค่เสา บางแห่งผู้รับเหมาทิ้งงาน

              เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะจากการตรวจสอบเมื่อ ปี 2554 หลายโรงพักที่มีปัญหาการก่อสร้างไม่คืบหน้า ผู้กำกับการแต่ละสถานีได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับ รวมทั้งสมุหบัญชีได้ตรวจสอบและระบุข้อสงสัยหลายประเด็นว่าบริษัทผู้รับเหมารับงานก่อสร้าง ประสบปัญหาทางการเงิน บริษัทขาดสภาพคล่อง และน่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ทั้งยังนำเงินจากโครงการ ไปหมุนใช้ในโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ของบริษัท

             นายชุวิทย์ กล่าวอีกว่า เหตุใดอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชารายงานปัญหาเข้ามาแล้ว จึงไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่ทราบปัญหาดี และสามารถบอกยกเลิกได้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2552 ข้อที่ 137 ที่ให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการสามารถบอกเลิกสัญญาได้ หากเห็นว่าไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในระยะเวลาตามสัญญาได้

             นอกจากนี้อยากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไปตรวจสอบผู้รับเหมา ผู้ถือหุ้นว่า มีความเกี่ยวโยงกับนักการเมืองคนใดบ้างและ ผบ.ตร.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดในขณะนั้น ต้องรับผิดชอบ เพราะรู้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น แต่กลับปล่อยปัญหาให้คาไว้ เพื่อเป็นการช่วยพรรคการเมืองหนึ่งใช่หรือไม่ นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ได้นำภาพถ่ายโครงการทุจริตต่าง ๆ ที่ยังหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายไม่ได้ อาทิ อาคารก่อสร้างที่ทำการ กทม.แห่งที่ 2 ที่ผ่านมา 5 ผู้ว่าฯแล้วแต่ยังยังสร้างไม่เสร็จ โครงการทุจริตรถดับเพลิง 6,000 ล้าน โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านและโครงการโฮปเวลล์