ชูวิทย์ คอตก เปล่าประชดศาล ??

เหตุการณ์กลุ่มบุคคลสร้างความวุ่นวายบนศาลอาญา


ขณะศาลทำการพิพากษาคดีตอดีต กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการแสดงกิริยาอันไม่สมควรในลักษณะละเมิดศาล ทำให้คณะองค์ประชุมศาลอาญาต้องเรียกพยานหลักฐานมาดู โดยตำรวจได้ส่งรูปถ่ายและประวัติบุคคลที่ต้องสงสัยมาให้ศาลอาญาพิจารณา พบว่ามีกลุ่มบุคคลเข้าข่ายละเมิดศาลจำนวน 16 คน รวมทั้งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ซื้อข้าวผัดและกาแฟเย็น 3 ชุด ไปเยี่ยมอดีต กกต.ด้วย โดยเช้าวันที่ 1 ส.ค. นายชูวิทย์ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยพยายามเลี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว อ้างว่าขอไปรายงานตัวให้เรียบร้อยก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชี้แจงกับศาลอย่างไร นายชูวิทย์ตอบว่า ในวันนั้นตั้งใจไปเยี่ยมอดีต กกต.จริงๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเคยเอาโซ่ล่ามแขนทั้ง 2 ข้างไปที่หน้าศาลฎีกา นายชูวิทย์อ้างว่าเรื่องนั้นไม่ได้ประชดศาล แต่เนื่องจากถูกเพิกถอนสิทธิไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.และตัดสิทธิ ส.ว.อีก จึงล่ามโซ่ประชดตัวเอง ไม่ได้ประชดศาล

เสี่ยชูวิทย์ ยอมรับผิดหน้าละห้อย


กระทั่งเวลา 11.00 น. ศาลได้เรียกตัวนายชูวิทย์เข้าห้องพิจารณา 704 จากนั้นนายอำนวย ธันธรา นาย สุรจิตต์ ศรีบุญมา ผู้พิพากษาศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์ พร้อมกับเปิดภาพบันทึกเหตุการณ์ในวันที่ 25 ก.ค. เป็นภาพนายชูวิทย์เดินถือถุงข้าวผัดกับกาแฟเย็นเข้าไปใต้ถุนศาล จนมีปากเสียงกับกลุ่มสนับสนุน กกต. จากนั้นได้ถามนายชูวิทย์ว่า ทราบหรือไม่ว่าวันนั้นเป็นวันอ่านคำพิพากษาคดีอดีต กกต. จึงขอทราบวัตถุประสงค์ที่ถือถุงข้าวผัดและกาแฟเย็นไปที่ศาล นายชูวิทย์ตอบว่า ทราบว่าเป็นวันอ่านคำพิพากษา เผอิญผ่านมาแถวนี้ เกิดอยากเยี่ยมอดีต กกต.ทั้ง 3 คน จึงซื้อข้าวผัดไข่ดาวกับกาแฟเย็นมาฝาก โดยไม่รู้ว่ามีผู้สนับสนุน กกต. ศาลจึงถามต่อว่า อย่างนี้เท่ากับยืนยันว่า ต้องการเอาข้าวผัดมาเยี่ยมใช่หรือไม่ ขอให้ปรึกษาทนายความดูให้ดี เมื่อนายชูวิทย์ ได้ยินเช่นนั้น ก็หันไปหาทนายความเพื่อขอคำแนะนำ แล้วเบิกความว่าขอยอมรับว่าการนำข้าวผัดเข้าไป ไม่มีเจตนาเอาไปเยี่ยม กกต.จริง ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา รวมทั้งจะไม่ปฏิบัติเช่นนั้นอีก ศาลบันทึกไว้และนัดนายชูวิทย์ฟังคำสั่งศาล ในวันที่ 3 ส.ค. เวลา 14.00 น.

กลุ่มผู้สนับสนุน กกต.ก็หนีไม่พ้น


ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 704 นายปุณณะ จงนิมิตรสถาพร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนในคดีที่ผู้ถูกกล่าวหา 16 คน ละเมิดศาลด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอกันบริเวณศาลอาญา ในวันที่มีการพิพากษาจำคุกอดีต กกต. เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา สำหรับการไต่สวนครั้งนี้มีผู้ถูกกล่าวหาไปรายงานตัวทั้งสิ้น 12 คน คือ

นายสมชาย รัดทวย ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นในบริเวณศาล

นางมะลิ เนตรขำ ข้อหาใช้ถ้อยคำหยาบคายว่าร้ายศาล นางวรรณา ไหมสีทอง ข้อหาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

นางธรรมรส สุนทรพล ข้อหาด่าใช้ถ้อยคำหยาบคาย

น.ส.ฐิติรัตน์ สุรัตนกุลชัย ข้อหาพูดด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ

นายสมยศ ควงพัตรา ข้อหาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

นางวลัยพร พรรณบุบผา ข้อหาพูดจาไม่สุภาพ

นางเรณู จิตร์ประสาร ข้อหาวิพากษ์ วิจารณ์ศาลด้วยความไม่สุภาพ

นางธนนันท์ ประถมเสาร์ ข้อหาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

นายยุทธนา ฉายสินสอน ข้อหาใช้ถ้อยคำหยาบคาย

นางลาวัลย์ สุทธิชัยศิริ อายุ 72 ปี ข้อหาพูดด้วยถ้อยคำไม่เหมะสม

และ พ.อ.อ.เสริมศักดิ์ เอกวัฒน์ อายุ 64 ปี ข้อหาพูดจายุยงผู้อื่น

นัดฟังคำสั่งศาลบ่ายสองโมง 3 ส.ค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้ถอดเทปคำพูดของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละคนไปอ่านให้ฟัง แล้วถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่ ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดต่างให้การรับสารภาพ บางคนไม่แน่ใจว่าพูดอะไรในวันเกิดเหตุ ศาลจึงนำภาพที่บันทึกเทปโทรทัศน์ไว้เปิดให้ดู ทำให้จำนนต่อหลักฐาน ขณะที่นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ได้ถามแก้ต่างให้แต่ละคนว่า ต่างคนต่างตอบว่าที่กระทำลงไปเป็นความผิด และหากศาลให้ความปรานีจะไม่กระทำความผิดอีก จากนั้นศาลได้บันทึกคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละคนไว้ พร้อมตักเตือนว่าหากต้องการให้กำลังใจกับจำเลยที่ศาลย่อมทำได้ แต่ควรอยู่ในความเรียบร้อย ไม่ควรมีพฤติการณ์แบบนี้ และศาลยังทราบว่ากลุ่มผู้ถูกกล่าวหาไปเคลื่อนไหวที่ไหนมาบ้าง แต่จะไม่นำมาพิจารณารวมกับคดีนี้ พร้อมกับนัดให้ทั้งหมดฟังคำสั่งศาล ในวันที่ 3 ส.ค. เวลา 14.00 น. พร้อมกับคดีนายชูวิทย์ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 4 คนที่ไม่มารายงานตัว ศาลจะออกหมายเรียกในภายหลังต่อไป

ทนายนายกฯ ยืนยันไม่ได้หมิ่นศาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ นายเสถียร วิพรมหา เลขาธิการองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อชาติและพระมหากษัตริย์ ได้ประสานกับนายธันว์ บุณยะตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา จะขอเข้ามารายงานตัวต่อศาล สำหรับนายธนา เบญจาธิกุล ทนายความ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้เข้ารายงานตัวต่อนายอำนวย ธันธรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา โดยปฏิเสธว่าในการให้สัมภาษณ์ ไม่มีถ้อยคำใดดูหมิ่นศาล ล่าสุดคณะผู้บริหารศาลอาญาได้ประชุมหารือ และตรวจสอบเทปคำสัมภาษณ์และข่าวในหนังสือพิมพ์แล้ว เห็นว่าข้อความตรงกัน จึงมอบหมายให้นายสมบูรณ์ ช่วยรักษา ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาล อาญา เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนา ในข้อหาดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ที่ สน.พหลโยธินในวันที่ 2 ส.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากกลุ่มบุคคลที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 18 คน ศาลอาญายังเตรียมตรวจสอบหลักฐาน กลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายความผิดดูหมิ่นศาลอีก เช่น กลุ่มที่ไปให้กำลังใจ กกต. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และคนที่วิพากษ์วิจารณ์ศาลผ่านรายการวิทยุต่างๆ โดยมีผู้หวังดีส่งเทปบันทึกเสียงรายการวิทยุ มาให้เลขานุการศาลอาญาแล้ว

ขยายเวลายื่นคำชี้แจงคดียุบพรรค


วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณากรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคแผ่นดินไทย และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา กรณีที่อัยการสูงสุดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ 5 พรรคการเมือง โดยภายหลังการประชุมนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้อนุญาตให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปเป็นเวลา 30 วัน โดยอ้างว่าคดีนี้มีหลักฐานจำนวนมาก เพื่อประโยชน์ในความผดุงความเป็นธรรม ในการพิจารณาวินิจฉัยคดี และให้ผู้ถูกร้องมีโอกาสได้ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้อนุญาตให้พรรคแผ่นดินไทย ขยายเวลายื่นคำชี้แจงออกไปอีก 15 วันด้วยเหตุผลเดียวกัน ส่วนพรรคพัฒนาชาติไทย จะครบกำหนดที่ต้องมายื่นเอกสารคำชี้แจงในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ได้รับแจ้งว่าในช่วงบ่ายจะขอยื่นคำร้องขอขยายเวลาเช่นกัน


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์