ชี้ปักปันเขตแดนไม่ได้ปัญหาไม่จบ

“นายหัวชวน” ชี้ ปักปันเขตแดนไม่ได้ ปัญหา “เขาพระวิหาร” ไม่จบ จี้ กต.ทักท้วงเขมรปลูกสิ่งสร้างในพื้นที่ทับซ้อน

วันนี้ ( 6 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาปราสาทพระวิหารว่าเกิดจากบันทึกความเข้าใจร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 ว่า ในขณะนั้นสถานการณ์ของทั้ง 2 ประเทศเป็นไปด้วยดี โดยเฉพาะการปักปันเขตแดนระหว่างประเทศพม่า ลาว และมาเลเซีย  แต่ขณะนี้สิ่งที่จะต้องทำให้สำเร็จคือ การปักปันเขตแดน เพราะตราบใดที่ยังปักปันเขตแดนไม่ได้ ปัญหาความขัดแย้งก็จะไม่จบ

ทั้งนี้ การทำเอ็มโอยู 2543 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการปักปันเขตแดนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ใช่เพื่อให้ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เรื่องนี้เข้าใจว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นต่างกัน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลในขณะนั้นไม่ได้มีประโยชน์ส่วนตัวหรือสิ่งแลกเปลี่ยนอะไร ทั้งนี้ หนังสือชี้แจงของม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ก็ได้ชี้แจงไว้ชัดเจนแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศต้องไปติดตามคือ การที่กัมพูชาเข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่ยังมีปัญหา ทั้งที่เอ็มโอยู 2543 ระบุไว้ว่า ห้ามมีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในบริเวณนั้นๆ เราจึงต้องดูว่าได้ไปทักท้วงหรือไม่
             
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.การต่างประเทศ ระบุว่ามีการลงนามยกพื้นที่ใต้ปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา นายชวน กล่าวว่า คงต้องไปถามนายนพดล เพราะขณะที่ลงนามนายนพดลเป็นรมว.การต่างประเทศ ทั้งนี้ ตนก็เข้าใจคนที่คิด หากมองในแง่ดีก็คงจะเป็นห่วงบ้านเมือง