ชี้ปมมติสภามะกัน หนุนโรดแมป มีเลือกตั้ง14พย.

"นพดล" ระบุ มติสภาสหรัฐฯ สนับสนุนโรดแมปมาร์ค เนื่องจากมีการเสนอให้เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย ยัน เดินทางไปต่างประเทศ หวังให้หนุนการเจรจา ไม่คิดทำร้ายประเทศ...

วันที่ 4 ก.ค. 2553 ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

ได้เดินทางไปประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.-28 มิ.ย.53 เพื่อพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าเสมียน และยังได้พบกับหน่วยงานสำคัญและผู้สื่อข่าวต่างประเทศและนักวิชาการ นอกจากนั้นยังได้เดินทางไปกรุงบรัสเซลประเทศเบลเยียม ได้พบสมาชิกรัฐสภายุโรป และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร โดยเขาเข้าใจสถานการณ์ในประเทศดี และเป็นห่วงสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งยุโรปอยากให้ไทยมีการเจรจาทั้งสองฝ่าย เพราะไม่ต้องการให้เห็นว่าเขาเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และอยากให้ประเทศไทยปรองดองกัน ซึ่งตนเดินทางไปเรียกร้องให้สนับสนุนการเจรจา หรือ พีชทอล์ค 

นายนพดล กล่าวอีกว่า มติของสภาผู้แทนราษฎรของประเทศสหรัฐอเมริกาเลขที่ 1321 ที่ออกเมื่อวันที่ 1 ก.ค.นั้น

สืบเนื่องมาจากวันที่ 3 พ.ค. 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้เสนอแผนโรดแมป 5 ข้อ จากนั้นเมื่อวันที่ 24 พ.ค.วุฒิสภาสหรัฐได้มีมติเอกฉันท์เป็นพันธมิตรไทยหนุนแผนปรองดองขณะที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เสนอแนวคิดดังกล่าวเข้าสภาฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2553 ฉะนั้น มีนัยยะคือเมื่อนายกรัฐมนตรีเสนอโรดแมปให้มีการเลือกตั้ง 14 พ.ย. 2553 ทำให้ ส.ส.สหรัฐ ที่สนับสนุนมตินี้สนับสนุนด้วยความเข้าใจว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. และข้อเสนอของสหรัฐมีมากกว่าโรดแม็ปของนายอภิสิทธิ์ อาทิ สนับสนุนการเจรจาที่นำมาสู่ความปรองดอง และสนับสนุนเป้าหมายของโรดแมป เพราะให้หลักประกันว่าสื่อมวลชนจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเสรี

นายนพดล กล่าวด้วยว่า กรณีโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ตนเดินทางไปคัดค้านมติของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกานั้น

อยากชี้แจงว่าไม่รู้สึกโกรธอะไร เพราะตนไม่เคยมีเจตนาจะทำร้ายประเทศไทย ต้องการเล่าความจริง และสนับสนุนการเจรจา ไม่ได้ไปคัดค้านเพราะตนเห็นด้วยกับเนื้อหาดังกล่าว เป็นการเดินทางเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศนอกจากนั้นกรณีที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยีสต์โจมตีประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง ขอย้ำว่าการจ้างล็อบบี้ยีสต์เป็นการจ้างเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่ได้จ้างเพื่อทำร้ายประเทศ อยากถามว่ารัฐบาลตื่นเต้นอะไรกับการว่าจ้างบริษัทดังกล่าว เพราะสหรัฐฯไม่รับฟังข้อมูลที่ไม่เป็นเนื้อหาสาระแน่ การว่าจ้างล้วนเป็นไปอย่างเปิดเผย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์