ชี้บ้านเมืองแตกแยกเพราะนักการเมือง

“ไพบูลย์”ชี้บ้านเมืองแตกแยกเพราะนักการเมือง ชูนายกฯถ้าแก้ปัญหาแตกแยกได้ จะเป็น “อภิสิทธิ์ทัตถะ”


วันนี้ ( 31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่โรงแรมเมอร์ลิน บีช รีสอร์ต จ.ภูเก็ตว่า

บรรยากาศการประชุมเริ่มในเวลา 09.30 น.โดยกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และรัฐมนตรี ที่พร้อมใจกันใส่เสื้อโปโลสีชมพูทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตมีโลโก้พรรคทยอยเดินทางมาที่ห้องประชุม  โดยนายชวน หลีกภัย ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ได้พา นายสุรบถ หลีกภัย หรือน้องปลื้ม บุตรชายมาร่วมประชุมด้วย
              
ต่อมา นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม กรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวบรรยายในหัวข้ออนาคตประเทศไทยบนพื้นฐานความปรองดอง ตอนหนึ่งว่า

ตามหลักทั่วไป ใครเป็นผู้สร้างปัญหา ย่อมแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ปัญหาความปรองดองของประเทศไทยขณะนี้ เกิดขึ้นจากนักการเมืองเป็นฝ่ายนำ ประชาชนเข้ามาสมทบ จนกลายเป็นความแตกแยกทั่วประเทศ ฉะนั้นคนที่จะต้องแก้ไขคือนักการเมืองกับประชาชน นักวิชาการแก้ไม่ได้ นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการปฏิรูป นพ.ประเวศ วะสี ประธานสมัชชาปฏิรูป นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติก็แก้ไม่ได้ ทำได้แค่เข้าไปกระตุ้น เสริมหนุนให้ฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประชาชนเข้ามาแก้ให้ได้
               
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หลักง่ายๆในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง คือต้องมีกระบวนการที่ดี มีการจัดขั้นตอน และสรรหาบุคคลที่เหมาะสม

เริ่มจากเล็กๆง่ายๆ แล้วค่อยทำสูงขึ้น ยากขึ้น ไม่ใช่เริ่มต้นเหมือนที่นายกฯไปเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงออกโทรทัศน์ เป็นการกระทำที่ไม่มีกระบวนการ ไปคุยเนื้อหาสาระเลย ผลที่ออกเลยไม่สามารถบรรลุได้ แถมยังมีการด่ากันออกสาธารณะ แผนปรองดองทั้งห้าข้อของนายกฯ ยังเป็นแผนคิดข้างเดียว ยังไม่ใช่ข้อตกลง ก็ย่อมมีการต่อต้านเป็นธรรมดา อะไรที่คิดข้างเดียวย่อมมีปัญหา ซึ่งปัจจุบันนอกจากนี้ไม่มีกระบวนการ ยังมีทัศนคติเป็นลบ จึงต้องหาทางให้ทุกฝ่ายมาร่วมกัน โดยเฉพาะฝ่ายประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง
    
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาความแตกแยกจะต้องเริ่มที่ตัวเรา ไม่ใช่เสนอให้คนอื่นทำอะไร แต่ตัวเองไม่อะไร เหมือนพ่อบอกให้แม่กับลูกทำอย่างนั้น

แต่ตัวเองไม่บอกว่าจะทำอะไร ปัญหาที่ซับซ้อนจะต้องให้พลังสังคมเป็นตัวนำ เหมือนในทฤษฎีสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาของนพ.ประเวศ ตนขอพูดต่อหน้านายกฯและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมนายกฯ เพราะเห็นว่าเป็นคนดี ฉลาด และซื่อตรง ภาษาบาลีเรียกว่าเป็นสัตตบุรุษ หรือ “อภิสิทธิ์ทัตถะ” สิ่งที่ท่านทำ ทั้งสร้างความปรองดองหรือปฏิรูปประเทศให้ดีกว่าเดิม อาจมีคนไม่ชอบบ้างเป็นธรรม แต่คนส่วนใหญ่ชอบท่าน ถ้าท่านทำได้ ไม่เป็นเป็นนายอภิสิทธิ์สัตตะ แต่จะเป็นนายอภิสิทธิ์ทัตถะ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์