ชาวโคราชยกพลให้กำลังใจป๋าเปรม

คมชัดลึก :ชมรมชาวโคราชรักป๋าเปรม เดินขบวนไปที่บ้านไร้กังวล เพื่อให้กำลังใจ แต่ถูกตำรวจตั้งด่านสกัดกั้น ป้องกันเหตุวุ่นวาย ด้านภาคีมวลชนคนโคราชเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ มทภ.2 ผบช.ภ.3 และผู้ว่าฯ โคราช จี้นำตัว "ทักษิณ" มาลงโทษ


(4เม.ย.) ทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย

นายสาธร สินปุร ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา และ ผศ.ดร.สามารถ จับโจร ประธานโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เครือข่ายกลุ่มพันธมิตรโคราช และชมรมชาวโคราชรักป๋าเปรม รวมตัวกันที่สถานีวิทยุชุมชนเสียงกรรมกร ด้านหลังสถานีรถไฟนครราชสีมา เพื่อเดินขบวนสำแดงพลังไปที่บ้านไร้กังวล เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ ตรงข้ามกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2 ) กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ เปรม  ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อให้กำลังใจและแสดงจุดยืนว่าอยู่ข้างสถานบันพระมหากษัตริย์ และประธานองคมนตรี 


โดยก่อนจะถึงจุดนัดหมายที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถูกสกัดกั้นจากทางตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา กว่า 20 นาย

โดยมี พ.ต.อ.พนันชัย  ชื่นใจธรรม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง เป็นผู้สั่งการ ได้ตั้งแผงเหล็กกั้นบริเวณสามแยกสำนักงานชลประทานที่ 8 ถ.สืบศิริ ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปที่บ้านพักของประธานองคมนตรี โดยผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันกว่า 100 คน ได้แต่เพียงยืนส่งเสียงให้กำลังใจประธานองคมนตรี ซึ่งมีการยืนถือป้ายที่มีข้อความว่า “ชาวโคราชรักป๋าเปรม ,"ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และจงรักภักดี" ,"ลูกป๋าที่มีชีวิตอยู่ ออกมาสู้เพื่อป๋าได้แล้ว"


ต่อมา แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะขอเข้าพบประธานองคมนตรี เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้ และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต

เพราะเกรงจะเกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย จึงได้มอบสิ่งของที่เตรียมมา ให้กับ พ.ต.อ.พนันชัย เป็นตัวแทนรับมอบ ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้พักรับประทานอาหารเที่ยงก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปรวมที่หน้าวัดบูรพ์ ถ.มหาดไทย ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อเดินเท้าไปยื่นจดหมายเปิดผนึกกับ พล.ท วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี พล.ต.ท กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภาค 3 และ นายประจักษ์  สุวรรณภักดี ผวจ.นครราชสีมา  สุดท้ายได้นัดหมายบวงสรวงท้าวสุรนารี (ย่าโม) ก่อนจะตั้งเวทีเสวนากลางแจ้งในหัวข้อ "ใครมุ่งล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ภัยทักษิณ อันตรายต่อความมั่นคงของชาติ และสถาบันสูงสุด"


โดยใช้พื้นที่ข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ริม ถ.ราชดำเนิน ด้านทิศเหนือ ติดกับลานคนเมือง ในช่วงเวลา 18.00 น.

ส่วนทางด้านทิศใต้ โดยมีลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อยู่ขั้นกลางติดกับศาลาทรงไทย ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช หรือกลุ่มคนโคราชรักษ์ประชาธิปไตย นำโดย นางปภัสชนัญญ์  ฉิ่งอินทร์ หรือเจ๊แดง นักจัดรายการวิทยุชุมชนท้องถิ่นเมืองโคราช เป็นแกนนำได้นัดชุมนุม เพื่อรับฟังวีดีโอลิงค์ “ทักษิณ“ และปราศรัย ในช่วงเย็นเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องระดมกำลังจากสถานีตำรวจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนาย มารักษาความปลอดภัยป้องกันการเกิดเหตุการความรุนแรงระหว่างผู้ชุมชนทั้งสองฝ่าย


ต่อมา ทันตแพทย์ศุภผล แกนนำกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราช ได้อ่านแถลงการณ์เปิดผนึก ฉบับที่ 3/52 เรื่องการจาบจ้วงสถาบันองคมนตรีและสถาบันหลักของประเทศ

ผ่านเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่ว่า "จากปรากฎการณ์คนเสื้อแดงบุกยึดหน้าทำเนียบรัฐบาล และตั้งเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเกิดการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ปราศรัยโฟนอินพร้อมทั้งผ่านวิดีโอลิงค์มายังเวทีของผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทุกวัน

 ประเด็นสำคัญคือ การกล่าวพาดพิงประธานองคมนตรี พล.อ เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ สุรยุทธ์ จุลานนท์ สถาบันองคมนตรี สถาบันตุลาการ สถาบันทางการทหาร ยุยงให้กลุ่มเสื้อแดงที่อยู่ในส่วนภูมิภาคให้ไปทำการปิดล้อมศาลากลางจังหวัดหลายจังหวัด โดยหวังเพียงผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง ก่อปัญหาให้คนไทยแยกเป็นฝักฝ่าย ยุยงให้คนไทยด้วยกันเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง อันอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้โดยง่าย โดยอดีตนายกฯ ทักษิณ หวังที่จะกลับมามีอำนาจเพื่อให้ตนเองพ้นผิดจากคดีอาญา และพ้นผิดจากคดีทุจริตคอรัปชั่นในสมัยที่ตนเองได้กระทำเมื่อครั้งที่เคยมีอำนาจปกครองบ้านเมือง


การกระทำของอดีตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้  ถือได้ว่า “เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศเป็นอันตรายและขัดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข“

ดังนั้นรัฐบาลต้องใช้มาตรการทางกฎหมายด้วยการนำเอาตัวอดีตนายกฯ ทักษิณ มาลงโทษตามความผิดคดีทางอาญาตามที่ศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว โดยให้จับตัวส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาติดคุกภายในประเทศไทยด่วนที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ ที่สามารถกระทำได้ให้ตัดสัญญาณโฟนอิน และวิดีโอลิงค์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ พร้อมทั้งจับกุมผู้กระทำการเชื่อมสัญญาณดังกล่าวทันที เพราะเป็นการกระทำที่มิได้เป็นไปตามสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่กำลังยุยงปลุกปั่นให้ราษฎรเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งถือว่า การกระทำเช่นนี้อาจเข้าข่ายขบถในราชอาณาจักร


ด้าน พ.ต.อ.พนันชัย ผกก.สภ.โพธิ์กลาง ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่สามารถให้กลุ่มผู้ชุมชนเข้าไปใกล้บริเวณบ้านไร้กังวล ว่าเป็นมาตรการปฏิบัติหน้าที่อารักขาประธานองคมนตรีในฐานะบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยึดถือปฏิบัติตามหน้าที่โดยไม่เลือกปฏิบัติแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกสี ไม่ว่าสีแดง สีเหลืองต้องมีมาตรฐานเดียวกัน
                    


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์