ชัยเห็นสภาโหรงเหรง หยิบคดีสมเกียรติเรียกประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากการพิจารณากระทู้ถามสดเสร็จสิ้น

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม แทนนายชัย ชิดชอบ กล่าวว่า ผู้กำกับการ สน.มักกะสัน รักษาราชการ สน.นางเลิ้ง มีหนังสือแจ้งยังสภา เพื่อขออนุญาตขอตัว นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปให้ปากคำเพิ่มเติม ในวันที่ 16 สิงหาคม ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ในระหว่างเปิดสมัยประชุม ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ทักท้วงว่า ยังไม่มีการแจ้งรายละเอียดให้สมาชิกทราบก่อน จึงไม่สามารถพิจารณาได้

ทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขึ้นทำหน้าที่ประธาน แจ้งว่า เพิ่งได้รับแจ้งตอนเที่ยง และเห็นว่าเป็นวันประชุมวันสุดท้ายของสัปดาห์ จึงแจ้งให้ที่ประชุมพิจารณา ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ส่วนรายละเอียดของหนังสือ ก็เป็นคำบันทึกของพนักงานสอบสวน และขอนับองค์ประชุมปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 203 คน ไม่ครอบองค์ประชุม จึงพักการประชุม 5 นาที จากนั้นเมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง ปรากฏว่าองค์ประชุมครบ ประธานได้อ่านหนังสือขออนุญาตขอตัวนายสมเกียรติให้สมาชิกรับทราบอีกครั้งโดยละเอียด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน สลับขึ้นอภิปรายในทิศทางเดียวกัน

โดยเห็นควรให้สภาปกป้องคุ้มครองสิทธิของสมาชิกในการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 131 บัญญัติ อาทิ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน อภิปรายว่า เอกสิทธิ์คุ้มครองเป็นประเพณีอันดีงาม แต่กรณีนี้ได้ไปกระทำการนอกสภาแล้วละเมิดสถาบันเบื้องสูง จึงต้องดูเหตุจูงใจด้วย ทั้งนี้การมีเอกสิทธิ์คุ้มครองครอบจักรวาล ก็อาจทำให้ส.ส.ไม่สำเหนียกในการทำหน้าที่แล้วมาขอเอกสิทธิ์คุ้มครอง


จากนั้นนายชัย ได้ขอให้วิปทั้งสองฝ่ายไปหารือกัน แต่นายสมเกียติขอใช้สิทธิ์อภิปราย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกที่ขอให้ใช้เอกสิทธิคุ้มครอง

แต่ตั้งใจจะขออนุญาตเพื่อไปถูกดำเนินคดี เพราะไม่ต้องการหนี ไม่ว่าจะเป็นระดับชุมชนหรือประเทศชาติ ด้วยการหนีออกนอกประเทศ ตนได้ถูกกลุ่มคนแจ้งความดำเนินคดีกว่า10 คดี และในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ เป็นวันที่ตำรวจนัดให้ตนไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม ความจริงไม่ต้องการขออนุมัติจากสภาเพราะตนได้รับการประกันตัวมาแล้ว และได้เตรียมเอกสารในการให้ปากคำไว้พร้อมแล้วด้วย ดังนั้น แม้สภาจะมีมติอย่างไร ตนก็ต้องไป เพราะความล่าช้าคือความอยุติธรรม


“ขออนุญาตสภาปล่อยผมไปเถอะ เพื่อไปดำเนินคดีตามกระบวนการ ผมไม่หนีไปไหน เพราะมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมเพื่อจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงและเป็นบรรทัดฐานต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวว่า ข้องใจที่ประธานยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะนายสมเกียรติ ต้องไปให้ปากคำตามที่ได้นัดกับพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว

การกระทำของประธานไม่แน่ใจว่า ที่ว่าขอนั้นขออะไร เพราะนายสมเกียรติ ก็พร้อมพิสูจน์ตัวเอง ทำให้นายชัย ตัดบทชี้แจงว่า การหยิบยกเรื่องนี้มาหารือสมาชิกเพราะเห็นว่า สภาโหรงเหรง เมื่อนำเรื่องนี้เข้ามาหารือสภาก็คึกคักขึ้น เมื่อพูดจบ ทำให้ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตำหนิว่า 'ไม่นึกว่าประธานจะไม่มีอะไรทำ ถึงได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเล่นๆ ถือว่าไม่ควรทำอย่างนี้'

ในที่สุดนายชัย ได้ขอถอนเรื่องดังกล่าวออกจากการหารือ และไม่ต้องขอให้ที่ประชุมอนุมัติแต่อย่างไรและได้ดำเนินการประชุมไปตามระเบียบวาระต่อไป

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์