ชวลิตห่วงกองทัพเอียงข้าง เชื่อศาลยุติวิกฤติยุบพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลา 07.39 น.


วันนี้ (14 พ.ค.) พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา ประกอบพิธีทำบุญ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบรอบปีที่ 75 ที่วัดกลาง อ.เมือง จ.นครพนม มีข้าราชการ และประชาชนบางส่วน มาร่วมพิธีทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการเห็นขณะนี้ คือ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่มีปัญหาขัดแย้งทางความคิด และทางปฏิบัติค่อนข้างมาก ต้องช่วยรัฐบาล โดยใช้ความอดทน และแนวทางปฏิบัติที่ถูก ที่ชอบ

ไม่เช่นนั้นคงจบยาก หากควบคุมความขัดแย้งได้ ก็ไม่มีอะไรที่น่าตื่นตระหนก เพราะที่สุดแล้วคนไทยจะหันหน้าเข้าหากัน แม้ก่อนหน้านั้น อาจจะมีอะไรหนักไปบ้าง





" มีบทเรียนจากความขัดแย้งเก่าๆ ความสูญเสีย ความเสียหาย ความเจ็บปวด ที่ยังระลึกได้ ควรหยุดเสีย หันหน้ามาหากัน ผมมั่นใจว่า ยังมีโอกาสที่จะเจรจาพูดคุยกันได้ ลองหันมาพูดจากันว่า ไม่ดีตรงไหน

อย่างไร ต้องเร่งรัดตรงนี้ อย่างสร้างสรรค์ ผู้ที่ได้รับคำติติง ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นความหวังดี ต้องรับฟัง ไม่เป็นอย่างนั้นก็ชี้แจง และแก้ไขเสีย มันก็จบ ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการรู้รักสามัคคี ตามพระราชดำรัส"

อดีต นายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า ความสมานฉันท์จะเกิดขึ้น ต้องมีองค์กร มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการสร้างความสมานฉันท์ นั่นก็คือ รัฐบาลที่เปิดกว้างต่อทุกคน เป็นรัฐบาลที่มีองค์ประกอบจากทุกฝ่ายอย่างกว้างขวาง ไม่ทำให้เกิดความแตกต่างในสังคม ยึดตามตัวบทกฎหมายให้ชัดเจน มีความเมตตากันมีความเข้าใจกัน ไม่ใช่กูจะฆ่ามึงลูกเดียว นั่นก็ไม่ไหว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินคดียุบพรรคปลายเดือนนี้ เป็นห่วงหรือไม่กับความวุ่นวาย หรือความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องสร้างกลไกความร่วมมือ ถ้าไม่สร้างกลไก ปากพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง

เช่น บอกว่าไม่ได้ต้องตายให้หมดทั้งโคตร มันก็ไม่ไหว ควรเลือกเป้าเฉพาะเรื่อง เฉพาะราว ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ส่วนเรื่องคดียุบพรรค ขอให้เชื่อในศาลสถิตยุติธรรม



" เชื่อผม ศาลสถิตยุติธรรมดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ขอให้เชื่อในระบบยุติธรรมของชาติบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการชัดเจน ให้ระบบศาลสถิตยุติธรรมเข้ามาแก้ปัญหาของชาติ ต้องเชื่อในตรงนี้ จะให้ใครมามีอิทธิพลไม่ได้ ศาลตัดสินครั้งนี้ จะสะท้อนไปนาน ลูกหลานจะเก็บไปเป็นตัวอย่างของการศึกษา" อดีต นายกรัฐมนตรี กล่าว

อดีต นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นห่วงกองทัพเท่านั้น เสาหลักของชาติ ตำรวจ ทหาร ศาล คุก 4 เสาหลักที่ค้ำจุนอยู่

กองทัพเป็นเสาหลักที่มีความสำคัญ วันนี้ กองทัพมีบทบาทที่เทไปด้านหนึ่ง น่าห่วงใยในหลายเรื่อง แต่รุ่นน้อง รุ่นหลาน เป็นนักคิด นักปฏิบัติ อาจคิด อาจทำอยู่ แต่เราอาจไม่รู้เรื่องก็ได้

"ผมเป็นห่วงน้องๆ ที่บอกว่า ทำด้วยความจงรักภักดี ทำด้วยความเสียสละ ตรงนี้สำคัญ เมื่อทำเสร็จแล้ว ผลเป็นอย่างไร ก็ต้องดูแลด้วย ต้องเข้าใจ ขอให้เชื่อผม หันหน้ามาเข้าใจกัน

การไปสู่ความสมานฉันท์ ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร การแก้ปัญหาภาคใต้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้ เป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขา ไปพูดอะไร ก็ไม่ฟังสักที ก็หาคนที่เขาฟังไปพูด ไปเอาใครก็ไม่รู้ แล้วเขาจะเชื่ออย่างไร" พล.อ.ชวลิต กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า


เป็นห่วงบทบาทกองทัพ หมายความอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า วันนี้ทหารเหนื่อย ไอ้โน่นก็ทำ ไอ้นี่ก็ทำ ขอถามว่า การจัดระบบการเตรียมการ ภาระหน้าที่ของทหารวันนี้ และในอนาคตคืออะไร มีความชัดเจนอย่างไร พร้อมหรือไม่ ถ้าพร้อมก็ไปทำ ช่วยบ้านช่วยเมือง ช่วยแผ่นดิน

"ที่ผมพูด ไม่ได้ไปห้าม แต่ไปช่วยเขาแล้ว ภาระหน้าที่หลักคือ การฟื้นฟูอะไรต่างๆ ในหน่วย ก็เป็นความห่วงในฐานะคนแก่ ก็ห่วงไปเรื่อยเปื่อย" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าทหารจะเข้ามายุ่งกับการเมืองมากเกินไปใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เคยหวังว่าคงจะไม่มีแล้ว แต่ก็ยังมีอยู่ ก็ไม่เป็นอะไร ถ้ามีปัญหาก็มาช่วยกัน เสร็จแล้วก็ล้างมือล้างไม้กลับบ้านเรา

ต่อข้อถามว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คิดว่าจะมีปัญหาหรือไม่

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา บ้านเมืองเปลี่ยนผ่านมาเป็นร้อยปี ทุกคนได้รับการคัดเลือก เป็นคนดีต้องให้กำลังใจ ส่วนเรื่องการสืบทอดอำนาจ อย่าเป็นห่วง


พล.อ.ชวลิต กล่าวตอบข้อถามที่ระบุว่าจะกลับเข้าสู่เวทีการเมือง


โดยพรรคการเมืองใหม่ หรือไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น ว่า จะไปทำไม ตั้งพรรคการเมืองเองดีกว่า ทำงานการเมือง ทำไมต้องไปนั่งพรรคอื่น แต่เวลานี้ไม่มีสตางค์ จึงไม่ตั้งพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังพัฒนาสิ่งที่สำคัญ คือ การเมืองที่ไม่ใช้เงิน โดยเดินพบปะพูดคุยกับประชาชนในเรื่องนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ได้ยุ่งกับสิ่งที่ คมช.ห้าม

เมื่อถามย้ำว่า เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องดูก่อน เพราะต้องใช้เงินมาก ทั้งค่าเช่าตึก เจ้าหน้าที่

และยังต้องดูแล ส.ส.ที่จะเข้ามาอยู่ เว้นแต่ ส.ส.รวยๆ แต่จะหา ส.ส.ที่เป็นผู้แทนของปวงชนอย่างแท้จริง ผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมคัดคนลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คงจะไม่ ถ้าเป่านกหวีด คงจะมีเยอะ แต่ตอนนี้ยังหานกหวีดไม่ได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์