ชวรัตน์ปฏิเสธกดดันกอร์ปศักดิ์ ไขก๊อกชุมชนพอเพียง ชทพ.จี้รัฐบาลจัดการทุจริต หวั่นจับแพะ

หน.ภท.ประกาศไม่ได้กดดัน"กอร์ปศักดิ์" ลาออก จากปมชุมชนพอเพียง ชทพ.จี้รบ.จัดการทุจริต หวั่นจับแพะบูชายัน รองนายกฯระบายผ่าน "ทวิตเตอร์" โดนฝ่ายค้าน-คนในพรรคร่วมรวมหัวกันเตะออกจากรัฐบาล

"ชวรัตน์"ปัดบีบ"กอร์ปศักดิ์"ไขก๊อก สังเวยชุมชนพอเพียงพ่นพิษ


นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยกดดันให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ลาออก ในฐานะที่ดูแลโครงการโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนไม่มีประสิทธิภาพ ว่า พรรคไม่เคยกดดัน นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาเองว่าจะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยขอดูรายละเอียดก่อนว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ก่อนตัดสินใจจะลงไปตรวจสอบหรือไม่


ชทพ.จี้รบ.จัดการ ทุจริตชุมชนพอเพียง หวั่น จับแพะบูชายัน


ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า กรณีปัญหาโครงการชุมชนพอเพียง แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีนายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ นั้น ขณะนี้แม้จะยังไม่มีข้อมูลหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการทุจริต แต่เพื่อแสดงออกถึงความโปร่งใสของรัฐบาล โดยเฉพาะที่มีการโยงใยไปถึงนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ จึงขอให้คณะกรรมการฯ เอาจริงเอาจัง และได้บทสรุปที่ชัดเจนว่า มีการทุจริตหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องสาวให้ถึงว่า เกี่ยวข้องกับใครบ้าง เพราะสังคมไม่ต้องการเห็นการเอาแพะมาบูชายันหรือลงโทษได้แค่ข้าราชการระดับล่างเท่านั้น หากมีหลักฐานสาวไปถึงใครก็ขอให้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและเอาจริงเอาจัง


"กอร์ปศักดิ์"ระบายผ่าน"ทวิตเตอร์"


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมว่า หลังจากพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปลดนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (โครงการชุมชนพอเพียง) ออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาการทุจริตในโครงการ ล่าสุดมีกระแสข่าวแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.)เรียกร้องให้ปรับนายกอร์ปศักดิ์พ้นจากตำแหน่งนั้น ปรากฏว่า ตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายกอร์ปศักดิ์ได้เขียนระบายความในใจผ่าน "ทวิตเตอร์"ของตนหลายครั้ง แสดงความอัดอั้นตันใจ ที่โดนพรรคฝ่ายค้านและคนในพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้พ้นจากตำแหน่ง แต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไป ไม่ท้อถอย
เริ่มจากเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายกอร์ปศักดิ์เขียนข้อความในทวิตเตอร์ว่า “เพิ่งค้นพบว่าฝ่ายค้านต้องการให้ผมลาออกจากตำแหน่ง ผมอยากพูดว่ารอไปเถอะอีกล้านปี แต่มันอาจจะไม่นานนัก แย่จัง ”


แฉฝ่ายค้าน-พรรคร่วมรวมหัวเตะออก


 วันที่ 8 สิงหาคม นายกอร์ปศักดิ์เขียนข้อความว่า "รู้สึกแปลกใจหากนายกฯ จะให้ผมออกจากตำแหน่ง ความฝันของฝ่ายค้านคงเป็นจริง? "
วันที่ 9 สิงหาคม เขียนข้อความว่า " เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการตอบคำถามเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง "
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายกอร์ปศักดิ์เขียนถึง 2 ข้อความคือ " ตลกดี ที่มีคนคิดว่า ผมนอนไม่หลับ จริงๆ ที่ผมนอนไม่หลับเพราะพุดเดิ้ลผมป่วย " และอีกข้อความคือ "ผมหลับสบายดี ในขณะที่ฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลรวมหัวกันเตะผมออกจากรัฐบาล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานายกอร์ปศักดิ์มักใช้ทวิตเตอร์เป็นที่ระบายความในใจ และรำพึงรำพันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงาน อาทิ การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ฯลฯ


บิ๊กภท.แจ้ง"สุเทพ"ปัดไล่"กอร์ปศักดิ์"


เวลา 09.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกระแสข่าวแกนนำ ภท.ไม่พอใจการทำงานของนายกอร์ปศักดิ์ โดยเฉพาะภายหลังเกิดข่าวทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง และกดดันให้นายกฯปรับพ้นตำแหน่งว่า แกนนำ ภท.โทรศัพท์มาหาเมื่อเช้าวันที่13 สิงหาคมว่า ไม่เคยประชุมหรือพูดจาอะไรที่แสดงว่าไม่พอใจการทำงานของนายกอร์ปศักดิ์ เพราะไม่ใช่เรื่องของ ภท. ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำ ภท.ที่โทรศัพท์หา ใช่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมไม่ตอบซักเรื่องได้ไหม”
 


เมื่อถามว่า กระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของคน ภท.ไม่พอใจนายกอร์ปศักดิ์มานานแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐมนตรีทั้ง 2 กระทาวงรู้จักและสนิทสนมกับตนดี ที่ผ่านมาไม่เคยบ่นว่าไม่พอใจอะไรนายกอร์ปศักดิ์เลย


"เนวิน"เคลียร์ "สุเทพ"ปัดตีรองนายกฯ


 รายงานข่าวจาก ภท.แจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ โทรศัพท์ทำความเข้าใจกับนายสุเทพว่า ไม่มีคนใน ภท.พูดหรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งกับเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ร่วมกันทำงานต่อไป
 แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินผู้หนึ่งกล่าวว่า เชื่อว่ากระแสข่าวที่ออกมาไม่ได้มาจากกลุ่มเพื่อนเนวินแน่นอน เพราะกลุ่มเพื่อนเนวินรู้ดีว่าไม่ควรขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะจะต้องร่วมงานกันอีกน่าน เชื่อว่าน่าจะมาจากกลุ่มอื่นใน ภท.ที่มีความขัดแย้งกับนายกอร์ปศักดิ์ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์


"อนุทิน"ระบุถ้ามีปัญหาจะช่วยแก้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย บุตรชาย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีข่าวแกนนำ ภท.ออกมาโจมตี นายกอร์ปศักดิ์กรณีปล่อยให้เกิดทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง และเรียกร้องให้ปรับพ้นจากตำแหน่งว่า ได้สอบถามแกนนำ ภท.ทุกคนแล้ว ต่างยืนยันว่าไม่มีใครให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าว ไม่มีใครไม่พอใจนายกอร์ปศักดิ์ ส่วนปัญหาในโครงการชุมชนพอเพียง ภท.จะไม่เข้าไปก้าวกายการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์
 

“หากการดำเนินการชุมชนพอเพียงเป็นไปได้ด้วยดี เราก็ไม่เข้าไปยุ่ง เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะเข้าไปล้วงลูกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นการเสียมารยาททางการเมือง แต่ถ้ามีปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไข เพราะจะต้องร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง”นายอนุทินกล่าว


รมช.ภท.ลั่นทุกคนอยู่ใต้กฎเหล็ก


นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สังกัด ภท. กล่าวว่า หากมีความเสียหายจากโครงการชุมชนพอเพียง พรรคร่วมรัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่ ภท.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายกฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เห็นว่ามีความพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ มีผู้ยุยงให้เกิดความแตกแยกขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล
 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ใน ภท. กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังตรวจสอบโครงการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ดังนั้นควรให้เกียรติกัน ไม่อยากให้เวลาที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้แล้วมาโจมตีกัน เพราะคนที่ทำงานก็คงเหนื่อย เห็นว่า นายกอร์ปศักดิ์ขยันและตั้งใจทำงานได้ดี ยืนยันว่าไม่มีรัฐมนตรี ภท.คนใดกดดันให้ออกจากตำแหน่ง


พบ2ส.ข.เอี่ยว-แต่เชื่อไม่รับเงิน


เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโครงการชุมชนพอเพียงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน ได้เรียกนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.)มาให้ข้อมูลการดำเนินการโครงการชุมชนพอเพียง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
 

จากนั้น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวว่า ต้องสอบบริษัทผู้จำหน่ายสินค้าให้โครงการ อย่างน้อย 2 บริษัทว่าเอาสินค้าเหล่านี้เข้าไปบรรจุในโครงการได้อย่างไร ที่ผ่านมาสอบ ส.ก.และ ส.ข.พรรคบางคนไปแล้ว พบทั้ง 2 เกี่ยวข้องในลักษณะผู้กระจายสินค้า คือเป็นผู้แนะนำสินค้าของบริษัท แต่ยังไม่ปรากฏว่าได้ผลประโยชน์ร่วมหรือไม่ เพียงแต่เห็นว่า การกระทำลักษณะนี้เหมาะสมหรือไม่เท่านั้น
 

นายเจริญ คันธวงศ์ กล่าวว่า ตรวจพบ ส.ข.พรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้อง 1-2 คนในลักษณะชี้นำให้ซื้อสินค้าบางอย่าง แต่ยังไม่ได้สอบต่อว่ามีเรื่องเงินเข้ากระเป๋าใครหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้ถือเงิน นอกจากนี้ไม่พบรัฐมนตรีหรือน้องรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง


"สุมิท"ระบุปชช.ไม่รู้สิทธิ์จึงถูกต้ม


 เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.)กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา มีนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธาน กมธ. เป็นประธาน ได้เชิญนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ มาชี้แจง นายสุมิท กล่าวว่า สพช.มีคน 200 คน คงมีญาติ หรือเพื่อน อาจไปทำอะไรกับโครงการ สิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่า ชุมชนถูกชี้นำได้จากข้าราชการส่วนกลาง ท้องถิ่น พ่อค้า หรือใครๆได้ทั้งนั้น จึงเชื่อว่า ชาวบ้านอาจถูกหลอก ถูกบังคับ หรือหลงผิด ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องนโยบาย หรือมีการทุจริตเชิงนโยบาย แต่เป็นเรื่องชาวบ้านไม่รู้ว่าเงินนี้เป็นสิทธิ์ของตนเองมากกว่า นึกว่าต้องให้มีคนมาตัดสินใจ รวมถึงการไม่ประชุมประชาคมจริงและฝากกันเซ็นชื่อ ซึ่งเป็นนิสัยปกติของชาวบ้าน แต่เชื่อว่า หลังจากนี้ จะไม่มีใครกล้าทำผิดขั้นตอน เพราะสาธารณะจับจ้อง 


ส.ว.ซัด"สพช."ส่อสมรู้ร่วมคิด 


จากนั้น กมธ.ได้ซักถาม ส่วนใหญ่ อาทิ นายคำนูณ สิทธิสมาน ,นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ,นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ,นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ตั้งข้อสังเกตว่า สพช.มีหน้าที่กำกับดูแล แต่ผู้อำนวยการ สพช.พูดเหมือนโยนความผิดให้ชาวบ้านและชุมชน นอกจากนี้ โครงการนี้มีตั้งแต่ปี 2548 ทำไมถึงอ้างว่าชาวบ้านไม่รู้ จึงไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากนี้ ยังสงสัยเรื่อง 3 กลุ่มบริษัทที่ได้รับงาน รวมถึงความสัมพันธ์ของผู้อำนวยการกับ 1 ในกลุ่มบริษัท ทำไม สพช.ไม่ตรวจสอบตู้น้ำพลังแสงอาทิตย์ราคาแพงมาก ระเบียบการขอโครงการยังแนบเอกสารบริษัทนั้นๆมาด้วย เท่ากับเจตนาให้ไปซื้อสินค้าจากบริษัทนั้น และยังจัดระบบเอกสารให้สามารถรู้เห็นเป็นใจกันได้ ที่สำคัญ โครงการของชุมชนควรหลากหลาย แต่นี่มาในแบบคล้ายกัน สพช.ต้องรู้สึกผิดสังเกต แต่ไม่สั่งตรวจสอบ   


"สุมิท"ปัดตอบโดนบีบออก


 นายสุมิท ชี้แจงว่า คำถามเรื่องโครงการมีมาตั้งแต่ปี 2548 แล้วทำไมชาวบ้านยังไม่รู้เรื่อง ไม่ขอตอบ เพราะจะกลายเป็นประเด็นการเมือง ยืนยันเพียงว่า ชาวบ้านไม่รู้จริงๆ ส่วนเรื่องชุมชนไปซื้อสินค้าราคาแพงแล้ว สพช.ไม่ตรวจสอบนั้น สพช.ทำหน้าที่อนุมัติจากกรอบที่มี ไม่ได้ไปยุ่งว่าชุมชนซื้อสินค้าราคากี่บาท กี่ชิ้น อย่างตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ สพช.ไม่เห็นเหตุผล และเชิญชาวบ้านมาชี้แจง ชาวบ้านชี้หน้า สพช.ว่าน้ำดื่มจำเป็นอย่างยิ่งเพราะลดค่าใช้จ่ายได้ 300-800 บาทต่อครัวเรือน จากนั้นโครงการประเภทนี้จึงมีเข้ามามาก เพราะเห็นว่าขอแล้วได้ง่าย สำหรับเรื่องหุ้น ยอมรับเคยถือหุ้นบริษัทดังกล่าวจริง แต่ขณะนี้ไม่ได้ถือแล้ว ยอมรับยังรู้จักกลุ่มผู้บริหารบริษัทดังกล่าวอยู่
นายสุมิท กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังชี้แจง กมธ.ถึงกรณีกระแสข่าวรองนายกฯบีบให้ลาออกจากตำแหน่งว่า “เรื่องการเมือง ผมไม่สามารถตอบคำถามได้ ตอนนี้ขอทำงานในหน้าที่อย่างเดียว”


พท.แฉสพช.ส่งหนังสือล่อ"แพะ"


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย คณะทำงานติดตามการใช้จ่ายงบฯโครงการชุมชนพอเพียง เปิดเผยว่า ภายหลังจากเปิดประเด็นโครงการชุมชนพอเพียงไปเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าประธานชุมชนต่างๆใน กทม.ได้รับเอกสารราชการจาก สพช. เลขที่ นร.0118/2541 ลงวันที่ 29  กรกฎาคม 2552 ขอให้ชุมชนกรอกข้อมูล และจัดส่งให้ภายในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ อ้างว่าขาดข้อมูลขั้นตอน/แผนงานการดำเนินโครงการ วิธีการบริหารจัดการโครงการให้มีความต่อเนื่อง เรื่องดังกล่าว ขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความพยายามตัดตอนความผิดให้อยู่ในระดับชุมชนเท่านั้น เพราะเมื่อประธานชุมชนรู้เท่าไม่ถึงการณ์และกรอกรายละเอียดส่งไปให้ตามที่กำหนดมา เท่ากับยอมรับว่าชุมชนขออนุมัติโครงการต่างๆด้วยตัวเอง ถือเป็นการรับสารภาพความผิดที่ชุมชนไม่ได้เป็นผู้กระทำ ผลสุดท้ายชุมชนก็จะเป็นแพะรับบาป


"เฉลิม"เย้ย"สปก."ภาค2


 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้รอดูกันไปก่อน แต่เรื่องนี้เป็น ส.ป.ก.ภาค 2 แน่ ตอนนี้อยากให้รัฐบาลอยู่ต่อไปอีกหน่อย แล้วรอให้ตายอย่างสนิท เพราะขณะนี้รัฐบาลยังหายใจระรวยระรินอยู่ 
 

ผู้สื่อข่าวยังตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลในการว่าจ้างบริษัทเอกชนหลายบริษัทจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการชุมชนพอเพียงหลายรายการ อาทิ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ผลิตคู่มือโครงการชุมชนพอเพียง 1 แสนเล่ม วงเงินประมาณ 2.2 ล้านบาท ผลิตแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ (ไวนิล) จำนวน 3,000 ผืน วงเงิน 1.8 ล้านบาท ,บริษัท ลีเวอเรจ จำกัด จัดทำโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุและสิ่งพิมพ์ 25 ล้านบาท ,บริษัท ยูโรอาร์เอสซีวี แฟลกชิพ จำกัด ผลิตสื่อโฆษณาโทรทัศน์ สื่อวิทยุ และสิ่งพิมพ์ วงเงิน 9 ล้านบาท เป็นที่น่าสังเกตว่าวงเงินจัดซื้อจัดจ้างมีราคาสูงกว่าราคาท้องตลาดถึง 1-3 เท่าตัว


ดีเอสไอตั้งทีมสอบ-ขอ2สัปดาห์


พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ได้แต่งตั้ง พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์