ฉีกบัตร!คุก1ปีปรับ2หมื่นถอนสิทธิ์5ปี

ฉีกบัตร!คุก1ปีปรับ2หมื่นถอนสิทธิ์5ปี

ฉีกบัตร!คุก1ปีปรับ2หมื่นถอนสิทธิ์5ปี

โฆษก บช.น.เผยหลังปิดหีบลต. พบการกระทำผิดในรอบวันนี้ (3 มี.ค.) 3 ราย 2 กรณี 'ฉีกบัตร - สวมสิทธิ์' ชี้โทษฉีกบัตร คุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ถอนสิทธิ์ 5 ปี

 

                         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 มี.ค. 56  ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.ในฐานะโฆษกบช.น. แถลงหลังปิดหีบเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ในรอบวันนี้ (3 มี.ค.) พบว่ามีการกระทำความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ พ.ศ.2545 รวม 3 ครั้ง คือ

                         1. นายสมเดช เทียนสุวรรณ อายุ 57 ปี ฉีกบัตรเลือกตั้งด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าต้องเลือกคนและเลือกพรรค ที่หน่วยเลือกตั้ง 13 ซ.มาตานุสรณ์ แขวงและเขตบางคอแหลม จึงถูกจับกุมและอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี

                         2. น.ส.ประณีต วัชรินทร์ อายุ 34 ปี ฉีกบัตรเลือกตั้งที่หน่วยเลือตั้งที่ 16 โรงเรียนไทยอาชีวะศึกษา ซ.จรัญสนิทวงศ์ 71 แขวงและเขตบางพลัด โดย น.ส.ประณีต รับบัตรเลือกตั้งไปกา แต่ลืมว่าจะกาให้กับผู้สมัครรายใด จึงถือบัตรเลือกตั้งออกมาดูรายชื่อผู้สมัคร แต่เจ้าหน้าที่เห็นก่อนจึงไม่อนุญาตให้นำบัตรเลือกตั้งออกมาจากคูหา น.ส.ประณีต จึงโมโหและฉีกบัตรเลือกตั้งทิ้ง

                         3. น.ส.งามเนตร แดงดี อายุ 26 ปี ลงคะแนนโดยสวมสิทธิ์บุคคลอื่น เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้ง 10 ศาลาวัดบัวผัน แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน โดย น.ส.งามเนตร ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไปแล้ว แต่กลับมาอีกครั้งสวมสิทธิ์นางจำลอง แดงดี ผู้เป็นยาย จะมาลงคะแนนอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่จำหน้าได้จึงจับกุม

                         พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเครื่องนับจำนวนตัวเลขที่ให้ตำรวจคอยนับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบจำนวนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม หากมีการคาดเคลื่อนจากจำนวนจริงก็ถือว่ารับได้ แต่หากเกินมากไปจะต้องมีการตรวจสอบทันที

 

ฉีกบัตร! คุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ถอนสิทธิ์ 5 ปี

 

                         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 09.30 น.  พ.ต.ท.สฤษดิ์ สิทธิ์นะศรี พนักงานสอบสวนชำนาญการ สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ควบคุมหน่วยเลือกตั้งที่ 13 ซอยมาตานุสรณ์ ถ.มไหสวรรย์ แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. ว่ามีชายทำการฉีกบัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จึงได้ไปทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน. โดยพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. ได้เดินทางมาสอบสวนที่สน.

                         สอบสวนทราบชื่อนายสมเดช เทียนสุวรรณ อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 35 ซ.มไหสวรรย์4 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. โดยนายสมเดชให้การว่า เมื่อช่วงเช้าได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยดังกล่าว ซึ่งขณะที่ได้กาเบอร์ที่ชอบ จากนั้นได้ฉีกบัตรเลือกตั้งออกเป็นสองส่วน เนื่องจากเข้าใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนกับการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรครั้งที่แล้ว ที่ต้องกาตัวบุคคลและกาพรรคการเมือง ตนจึงได้ฉีกบัตรดังกล่าวออก หลังจากฉีกบัตรแล้วก็มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้เข้ามาบอกว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว อย่างไรก็ตามที่ทำไปเพราะความเข้าใจผิดเนื่องจากบริเวณหน่วยเลือกตั้งไม่มีเจ้าหน้าที่มาอธิบายในการใช้สิทธิ์ จึงไม่ทราบ และไม่มีเจตนาที่จะฉีกบัตรเพราะมีโทษถึงติดคุก

                         พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่าจากการสอบสวนนายสมเดช ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดและไม่มีเจตนาฉีกบัตรเลือกตั้ง โดยคิดว่าเหมือนเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ต้องเลือกตัวบุคคลและพรรคการเมือง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหายหรือทำให้บัตรเสียหรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรเลือกตั้งทีใช้ได้ตามมาตรา 123 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์ 5 ปี อย่างไรก็ตามจะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

พบปัญหาเรื่องรายชื่อ 7,000 ราย

 

                         นายสุพจน์ ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) เปิดเผยว่าหลังจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่ากกต.กทม. เตรียมหารือกับนางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกทม. เกี่ยวกับรายชื่อในทะเบียนราษฎรหลังจากที่พบว่ามีปัญหาถึงเกือบ 7,000 รายชื่อ อาทิ บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ยังมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง, รายชื่อหายจากรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง, มีชื่อไปอยู่ในเขตพื้นที่เลือกตั้งอื่น เป็นต้น ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชนรายงานว่า มีชื่อนายปรีชา เอี่ยมสะอาด เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งซ้ำกัน 4 เขต ได้แก่ เขตคลองเคย, เขตหนองแขม, เขตบางแค และเขตสายไหมนั้นตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่คนเดียวกัน เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชน และ วันเดือนปีเกิด ไม่ตรงกัน และเมื่อตรวจสอบชื่อดังกล่าวจากสารบบทั่วประเทศพบว่ามีคนที่ชื่อและนามสกุลเดียวกันถึง 33 คน ดังนั้นประเด็นเรื่องชื่อผีนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

                         รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับปัญหารายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เกือบ7,000 รายชื่อนั้น ก่อนการประกาศรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ได้มีการตรวจสอบและจำหน่ายชื่อออกไปทั้งหมดแล้ว แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้งกลับพบว่ารายชื่อที่มีปัญหาดังกล่าวมีเกิดขึ้มาอีก โดยชื่อที่มีปัญหามากที่สุด คือ เขตหลักสี่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์