ฉะทักษิณ ทําคนไทยเป็นหนี้ พุ่งเท่าตัว

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 9 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอิน กับกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจผิดทาง หากตนเองเป็นรัฐบาลจะไม่กู้เงินมาแจกชาวบ้านว่า
จริงๆขณะนี้เราต้องอยู่กับความจริง และได้บอกประชาชนมาตลอดว่า สถานการณ์หนักและหนักทั่วโลก เราเพียงแต่กำลังดูมาตรการกระตุ้นของเราเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มลงมือกันได้จริง คือเดือนนี้ และอีก 2-3 เดือนจะเห็นผลกระทบเป็นอย่างไร

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในโลกจะหยุดนิ่งหรือไม่ ในแง่การแก้ปัญหาเรื่องสถาบันการเงินอะไรต่างๆของเขาอีก 2-3 เดือน จะมีความชัดเจนเช่นเดียวกัน

เวลานี้เป็นเรื่องยากในการที่จะประเมินตัวเลขต่างๆ เพราะยังมีความผันผวนอยู่สูง แต่เราก็ใช้หลักในการทำงานคือไม่ประมาท เราเตรียมทางไว้ตลอด ขณะนี้พอมีสัญญาณว่า การจัดเก็บรายได้จะไม่เป็นไปตามเป้า กระทรวงการคลังก็จะทำแผนมาได้ปรึกษากันเบื้องต้นแล้ว คิดว่าเร็วๆนี้จะมีคำตอบออกมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า การจัดเก็บรายได้มีปัญหานั้น การจัดเก็บรายได้เดือน ก.พ. คงจะต่ำกว่าเป้าอยู่พอสมควร มีปัญหาเรื่องการลดลงการนำเข้า และฐานราคาหลายตัว ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาทำแผนเสนอมายัง ครม.
 

“ขณะนี้ในส่วนของรัฐบาลยังไม่ได้กู้เงินจากต่างประเทศ และกรอบได้ขีดเอาไว้ตามที่ ครม.จะต้องขอผ่านสภาก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกเป็นเหมือนกัน ต้องเข้าใจตรงนี้ และความจำเป็นในการกู้เงินเพื่อรักษาให้เศรษฐกิจสามารถเดินไปได้ในช่วงนี้ การบริหารจัดการงบประมาณ หรือฐานะการเงินก็เหมือนกัน จะมีจังหวะเวลาบางช่วงที่ต้องขาดดุล ต้องกู้ และมีบางช่วงที่เก็บเข้ามาเพื่อชดเชยตรงนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้คงเป็นเรื่องยาก ไม่มีประเทศไหนที่สามารถเก็บเงินเข้ามาได้ และมีบางประเทศที่พยายามจะทดลองทำอย่างนี้ ก็ปรากฏว่ายิ่งหนัก เพราะทำให้เศรษฐกิจทรุดลงไปอีก สุดท้ายเก็บรายได้ไม่ได้” นายกฯกล่าว 


เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า การตั้งสมมติฐานผิดพลาดอาจทำให้ประเทศชาติล่มจม นายอภิสิทธิ์ตอบว่า กลับไปดูสถานการณ์ทั่วโลกเถอะ

ตนทราบว่ามีความพยายามที่จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลแล้วต้องกู้เงิน อยากจะเรียนย้ำว่า จริงๆแล้ว พรรคประชาธิปัตย์บังเอิญเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในครั้งที่แล้ว และครั้งนี้ในภาวะที่เกิดวิกฤติแล้ว เมื่อเกิดวิกฤติแล้วทั่วโลกเหมือนกัน จำเป็นต้องรักษาให้ เศรษฐกิจเดินได้ ทำอย่างไรไม่ให้คนตกงาน จะต้องกระตุ้น แต่เมื่อเศรษฐกิจตกลง การเก็บรายได้ก็ลำบาก ฉะนั้น ไม่มีสมมติฐานอะไรที่ผิดเลย

“จริงอยู่ท่านอาจจะบอกว่าสมัยท่านอยู่ ท่านไม่ได้กู้เงิน แต่สิ่งที่ท่านทำคือให้ประชาชนกู้เยอะ รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นหนี้เพิ่ม แต่ครัวเรือนเป็นหนี้เพิ่มเท่าตัว ประชาชนเป็นหนี้ ขณะนี้ประชาชนลำบากเราถึงต้องมากู้เงินเพื่อช่วยประชาชนในระหว่างนี้ ในนามของรัฐบาล และจะแก้ไขปัญหาไปซึ่งเป็นไปตามแนวทางการบริหารเศรษฐกิจที่เขาทำกัน” นายอภิสิทธิ์กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีการอ้างว่า ถ้าตัวเองเป็นนายกฯขณะนี้จะไม่ใช้วิธีการกู้เงิน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “ผมไม่เชื่อ เพราะท่านก็ไม่ได้เก็บเงินไว้ให้พวกผมมีใช้นะครับ ไม่เหมือนสมัยที่ท่านเข้ามา”

ต่อข้อถามที่ว่านายกฯมองว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาเป็นนายกฯ ก็ต้องใช้แนวทางนี้แก้ปัญหา นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ถูกต้อง ขณะนี้ไม่มีที่ไหนไม่ขาดดุลงบประมาณ และเชื่อว่ารัฐบาลไหนที่ไม่กล้าขาดดุลงบประมาณ มีแต่จะทำให้เศรษฐกิจดิ่งเหวลงไป ฉะนั้นเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เอาสถานการณ์ที่เศรษฐกิจการค้าโลกกำลังขยายตัว มาเทียบกับสถานการณ์ ซึ่งการค้าโลกลดลงถึงร้อยละ 30 มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นน่าจะดูข้อเท็จจริงกัน เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ทราบ ส่วนแนวทางการหารายได้ของรัฐบาลนั้น ไม่นานนี้จะมีคำตอบให้และคงไม่รอถึงไตรมาส 3 เวลานี้ให้กระทรวงการคลังเร่งเสนอมาแล้ว 

ต่อข้อถามว่าจะยืนยันอย่างไรจะไม่พาให้ประเทศล่มจม นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ขอยืนยันเลยเพราะจริงๆเราทำงานด้วยความระมัดระวังและรับผิดชอบ

ฉะนั้นตัวเลขทุกอย่างจะโปร่งใส ตั้งแต่วันที่เข้ามาพอเรารู้ว่าการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า ตอนที่เราจัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็ไม่ได้ยึดตัวเลขเดิมที่รัฐบาลที่แล้วเสนอต่อสภาฯ เราหักไปแสนล้านว่าจัดเก็บรายได้ไม่ได้ เราอยู่กับความเป็นจริง เกณฑ์เรื่องหนี้สาธารณะและการขาดดุลมีมาตรฐานสากลอยู่ เราจะดูแลไม่ให้กระทบความเชื่อมั่นตรงนั้น หลายประเทศขณะนี้ยอมรับสถานการณ์ โดยใช้วิธีถ้ากู้เงินเกินจะมีการออกกฎหมายบังคับว่า ต้องกลับมาสู่ภาวะปกติอย่างเดิม ภายในกี่ปีเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น ยังอยู่ในกรอบกฎหมายเราอยู่ขอให้มั่นใจตรงนี้

เมื่อถูกถามว่าถูกปรามาสมาตลอดว่าเป็นเด็ก 2 คนเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า แล้วแต่อยากจะพูดอะไรก็พูดไป

แต่สิ่งที่ตนทำได้ชี้แจงชัดเจนและมั่นใจ คิดว่า 2 เดือนกว่าที่ทำงานผ่านมา ได้แก้ไขปัญหาและคลี่คลายปัญหาไปหลายอย่าง และเตรียมความพร้อม ไม่เป็นไรทุกอย่างกาลเวลาพิสูจน์อยู่แล้ว ส่วนการทำสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับไทย ในการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีในไทย นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เรื่องการแสวงความร่วมมือในลักษณะนี้ เราทำตลอดเวลาอยู่แล้ว คงไม่ได้ไปมุ่งเจาะจงที่คนใดคนหนึ่ง.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์