จุดเหมือน จุดต่าง ระหว่าง อภิสิทธิ์ สุรยุทธ์ เศรษฐกิจ พอเพียง

มติชนสุดสัปดาห์-ใหม่

หน้าปกเป็นภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีฉากหลังเป็นการสำแดงพลังของกลุ่มคนเสื้อแดง

บาดใจอย่างยิ่งกลับเป็นพาดหัว-โรฮิงยา "แม้ว"

คล้ายกับจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ความเป็นจริง เป็นการนำภาพของ "ปีศาจพเนจร ภาค 2" มาบรรยายอย่างพิสดาร

ขณะเดียวกัน ภายในเล่ม คอลัมน์เงาสะท้อนของ ดวงตา วรรณศิลป์ กลับเปรียบเทียบจุดเหมือนจุดต่างระหว่าง รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ออกมาอย่างชวนให้พิจารณา

เป็นความเหมือนอย่างไร เป็นความต่างอย่างไร หากไม่ได้สัมผัสด้วยตนเองก็ยากจะมีคำตอบ โปรดอ่าน

มีทั้งความเหมือนและความต่างเชิงเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

ต่างตรงที่พื้นฐานของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาจากการเลือกตั้ง

เพราะว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่ารัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกอบส่วนจาก พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มเพ่อนเนวิน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคภูมิใจไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคกิจสังคม

ขณะที่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งหากแต่มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

กระนั้น ความเหมือนอยู่ตรงที่ได้รับการอุ้มชูจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

เมื่อเดือนตุลาคม 2549 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกมาค้ำยันว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นคนดี

เมื่อเดือนมกราคม 2552 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ออกมาค้ำยันว่า

"คนไทยโชคดีที่ได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี"


ภายในความเหมือนของการดำรงอยู่ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ของการดำรงอยู่ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

ก็ปรากฏความต่าง

เป็นความต่างที่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เน้นอย่างหนักแน่นในเรื่องการยึดกุมแนวทางแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

โดยถือเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเสมือนกับธงนำในการบริหาร

ขณะที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้ว่าจะยึดกุมโครงการหมู่บ้านเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นการต่อยอดและพัฒนาให้คึกคักมากยิ่งขึ้นจากโครงการ SML ในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วเติมคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง เข้าไป

แต่ต้องยอมรับว่าบรรยากาศแห่งเศรษฐกิจพอเพียงก็ถูกกลบทับด้วยโครงการลดแลกแจกแถมระลอกแล้วระลอกเล่า

โดยเฉพาะการแจกเงิน 2,000 บาทให้กับผู้ประกันตน

โดยเฉพาะการขยายกรอบของการแจกเงินนอกเหนือจากผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือนแล้ว

ยังขยายไปยังพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกด้วย


น่าสนใจก็ตรงที่แนวทางในการแจกเงิน เป้าหมายของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เพียงแต่ละเมิดหลักการแห่งความพอเพียง

หากแต่ยังไม่ยอมให้ประชาชนนำเอาเงินที่ได้ไป "ออม" อีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ไม่ว่าจะเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช ล้วนไม่เคยพูดถึงการออม

ตรงกันข้าม เป้าประสงค์อย่างแท้จริงทั้งของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ทั้งของ นายกรณ์ จาติกวณิช คือ ต้องใช้จ่าย

การออมจึงเป็นปรปักษ์อย่างร้ายแรงของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์