จุดพลุแผนตากสิน สะเทือนองคมนตรี ทำลายระบอบทักษิณ

การเมืองนับวันจะ "ไร้ทางออก" แต่ละฝ่ายต่างเดินเกม "ปลุกระดม" มวลชนของตนเอง สร้างแนวร่วมพื้นฐานคือ "พลังประชาชน" โดยเฉพาะการเดินสายจัดเวทีการเมืองในแต่ละจังหวัดทั้ง "เสื้อแดง" และ "เสื้อเหลือง" ถือเป็นสงครามยุคใหม่ที่ต่อสู้กันด้วย "ข้อมูลข่าวสาร" ที่แต่ละฝ่ายปั้นแต่ง เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แต่ละกลุ่ม

ทั้งนี้ เกมการเคลื่อนไหวของ "กลุ่มคนเสื้อแดง" ที่มีแกนนำ 3 เกลอเป็นเพียง "ละครหน้าฉาก" ที่ปฏิเสธยากว่า ผู้ที่เป็น "มาสเตอร์มาย" อยู่เบื้องหลัง "เกมการเมือง" เวลานี้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นได้จากการ "โผล่โฟนอิน" ในทุกทีทุกเวลาที่ "คนเสื้อแดง" จัดเวทีการเมือง

ถือเป็นความพยายาม "ต่อสู้ทางการเมือง" การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าประสงค์การเมือง อาทิ ชิงพื้นที่ข่าว, ท้วงความชอบธรรม, ตอบโต้ทางการเมือง, รักษากระแสคนรักทักษิณ, ดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม

ซึ่งการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวคนเสื้อแดงมี "แผนตากสิน" ที่ใช้เคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อรอ "วันแดงเดือด" ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศอีกครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดประเด็น

และสิ่งสำคัญคือ "การดิสเครดิต" ผู้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณมองว่าเป็น "ศัตรูแท้จริง" ที่ทำให้เวลานี้เขายังเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ไม่ได้ โดยพยายามพาดพิงถึง "องคมนตรี ศาล และกองทัพ" ซึ่งทุกองค์กรเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "สถาบันเบื้องสูง"

ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณออกมาแฉเบื้องหลังของการ "ปฏิวัติรัฐประหาร" เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

โดยกล่าวอ้างว่า ผู้ที่รู้เห็นทุกเหตุการณ์ก่อน "วันดีเดย์" รวมทั้งมีส่วนเข้าร่วมประชุมวางแผน "ลับสุดยอด" กับคณะผู้ใหญ่ในประเทศ เพื่อเตรียมจะก่อการ "ยึดอำนาจ" จาก "ระบอบทักษิณ" ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นั่นคือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีผู้ใหญ่ในประเทศอีกมากมายที่มีส่วนรู้เห็นและใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ อาทิ นายปราโมทย์ นาครทรรพ์ (คนกุเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตประธานศาลฎีกา ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นองคมนตรี

ข้อมูลทั้งหมดเป็นการกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่าเป็น "เรื่องจริง" ที่ออกจากปาก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งมีส่วนเข้าร่วมประชุม "ลับสุดยอด" ครั้งนั้นด้วย ก่อนที่จะถูก พ.ต.ท.ทักษิณ "ปลดฟ้าผ่า" จากตำแหน่งอดีตรอง ผอ.รมน. สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนายกรัฐมนตรี หลังเกิดเหตุ "คาร์บอมบ์" ก่อนรัฐประหาร

การที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างชื่อ พล.อ.พัลลภเป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่า "ไม่ได้กุเรื่อง" เพราะ พล.อ.พัลลภเป็นคนที่ "แวดวงกองทัพ" ให้ความเชื่อถือและเชื่อมือว่าเป็น "ของจริง" อีกทั้งยังมีความใกล้ชิดกับ "ทหารรบพิเศษ" แทบทุกรุ่นทุกคน แม้แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นผู้นำคณะปฏิรูปการปกครอง

ที่สำคัญ พล.อ.พัลลภเป็น "เพื่อนรัก-เพื่อนตาย" ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นเพื่อนรัก "หัก เหลี่ยม โหด" ยืนคนละขั้ว

การออกมาเปิดข้อมูล "แผนปฏิวัติ" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการสะท้อนให้เห็นว่า มีการดำเนินการเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ใส่ร้าย ลอบสังหาร จนถึงรัฐประหาร เพื่อต้องการโค่นล้ม "ระบอบทักษิณ"

และผู้ที่ถือว่าสุขสมอารมณ์หมายที่สุดคือ "ทหารลูกป๋า" อย่าง พล.อ.สุรยทธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของไทย ปูเส้นทางชีวิตเทียบเคียง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สานต่อบทบาทหน้าที่อันสำคัญของประเทศ

ทั้งนี้ องคมนตรีมีหน้าที่สำคัญตามรัฐธรรมนูญคือ ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษา รวมทั้งหน้าที่อื่นตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบัน ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกเป้าตีมาที่องคมนตรี ถือเป็นการเดินเกมที่มุ่งหวังผล "ทางการเมือง" โดยเฉพาะสถาบันองคมนตรีให้เกิดความสะเทือน

และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณพุ่งเป้ามาที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ถือเป็นการวางเกมการเมืองที่มุ่ง "ดิสเครดิต" ทั้งตัวบุคคลและสถาบันองคมนตรี เพราะภาพลักษณ์และบทบาทของ พล.อ.สุรยุทธ์ ถือมีส่วนสำคัญต่อบ้านเมืองทั้งปัจจุบันและอนาคต

ท่ามกลางวิกฤตการเมืองของไทยที่ "ยังไม่นิ่ง" และมีการต่อสู้ทั้ง "บนดินและใต้ดิน" เพื่อเป้าหมายนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของแต่ละกลุ่ม

เมื่อการเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ ดังนั้น หากประสานจุดสมดุลร่วมกันไม่ได้ และแต่ละฝ่ายต่างบ่มเพาะ "ความคิด" บนพื้นฐาน "ความขัดแย้ง" ให้กับหมู่มวลสมาชิกของแต่ละฝ่าย

ถือเป็นสิ่งอันตรายที่คนไทยทุกคนต้องตระหนัก

อย่าให้ "ความแตกต่าง" นำมาสู่ "ความแตกแยก" ของคนไทยด้วยกันเอง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์