จาตุรนต์ ประเมินผลงาน คมช.สร้างความเสียหายทุกด้าน

ประเมินจากความเห็นของสื่อ นักวิชาการและประชาชนมาร่วมวิเคราะห์


ทั้งทางด้านปฏิรูปการเมือง การตรวจสอบการทุจริต ไม่ได้ผล สร้างความแตกแยกในสังคม เกิดความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ไอซีที สั่งปิดเว็บ "คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ" ระบุเป็นภัยความมั่นคง

(25มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย


แถลงข่าวประเมินผลการทำงานของคมช.ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า

พรรคได้รวมความเห็นสื่อ นักวิชาการและประชาชนมาร่วมวิเคราะห์และจะพบว่าข้อสรุปสั้นๆในการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งลงไป โดยใช้การรัฐประหารนั้น สังคมไทยต้องลงทุนและเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลและล้มเหลวใน 4 เหตุผล คมช.กล่าวอ้าง และยังมีแนวโน้มว่าระยะเวลาที่เหลือนั้น อาจทำความเสียหายมากขึ้นในทุกๆด้าน

นายจาตุรนต์กล่าวว่า โดยเฉพาะด้านสำคัญๆ 4 ด้านคือ


1.การดำเนินการของ คปค.และคมช.นั้นไม่ใช่การปฏิรูปประชาธิปไตย

แต่เป็นการเปลี่ยนการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยไปสู่และสืบทอดระบบเผด็จการ

2.การตรวจสอบการทุจริต พบว่าไม่ได้ผล ไม่น่าเชื่อถือ

ไม่เป็นกลางและไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับหลักการกระบวนการยุติธรรม

3.ความแตกแยกในสังคม

ได้เกิดการแบ่งฝักฝ่ายเสียเองภายในคมช. ความแตกแยกทางความคิดที่ยังคงอยู่แต่กลับเพิ่มมากขึ้น ไม่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันภายในสังคม

4.เกิดความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ซึ่งเกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลมีนโยบายผิดพลาด และรัฐบาลบริหารงานแบบไม่บริหาร

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญของความล้มเหลวนั้น


มาจากธรรมชาติของการรัฐประหารยึดอำนาจและมาจากลักษณะพิเศษของคณะรัฐประหารคือ คมช.และกลไกที่สร้างขึ้นมานั้น ไม่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่พัฒนาเป็นประชาธิปไตยไปแล้วพอสมควร คมช.ยังมุ่งทำลายล้างรัฐบาลชุดที่แล้วผู้เกี่ยวข้อง และยังมุ่งทำลายบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก โดยปราศจากแนวคิดและความสามารถในการแก้ปัญหาบ้านเมือง

ภาพง่าย ๆ ที่ชี้ให้เห็นคือ

การร่างรัฐธรรมนูญและเสนอประเด็นที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีความพยายามสืบทอดอำนาจเผด็จการ คือการนิรโทษกรรมการรัฐประหารและกลไกที่สร้างขึ้นมา การดำเนินการในส่วนนี้นั้น หากทำให้เกิดขึ้นจริง

รัฐธรรมนูญจะเป็นเพียงประกาศนียบัตรรับรองระบบเผด็จการ

และรับรองความอยู่เหนือกฎหมายของ คมช.และกลไกต่างๆ เช่น คตส.จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการใช้อำนาจรัฐโดยไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ต่างไปจากศาลเตี้ย มันแสดงให้เห็นการอยู่เหนือกฎหมาย และใช้อำนาจตามอำเภอใจและสร้างบรรทัดฐานใหม่ของผู้ยึดอำนาจ

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า


หากจะโยงการปราบทุจริตกับระบบเศรษฐกิจเข้าด้วยกันนั้น กลไลที่ทำงานไปแล้ว 6 เดือนยังจับทุจริตไม่ได้ ไม่มีบุคคลของรัฐบาลชุดที่แล้วตกเป็นผู้ต้องหาของกระบวนการยุติธรรม และไม่แน่ใจว่าการจับทุจริตจะมีมูลค่ากี่ร้อยกี่พันล้านบาท

แต่สิ่งที่เห็นคือเศรษฐกิจประเทศเสียหายไปแล้วหลายแสนล้านบาท

หากยังไม่ปรับปรุงจะเสียหายนับล้านล้านบาท น่าคิดว่าสังคมไทยกำลังเผชิญอะไรกันแน่ เริ่มต้นจากการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วย 4 ข้อหา แต่เมื่อไปถึงกลางทางกลับมีความเสียหายยับเยินและทำตามที่อ้างไม่ได้

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คมช.ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง


และจากนี้ไปจะสร้างความเสียหายให้ประเทศมากขึ้น พรรคไม่ได้เรียกร้องให้ คมช.ออกไป แต่ยังเสนอให้ ครม.และ คมช.ทำหน้าที่ต่อไป เพียงแต่อยากเห็น คมช.และ ครม.ร่วมกันคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม คมช.ต้องยุติการกระทำที่หลักขัดการยุติธรรม ในสิ่งที่ตนเองและกลไกดำเนินการ

ผู้นำ คมช.ต้องยืนยันให้ชัดว่า การสืบทอดอำนาจจะไม่เกิดขึ้น

และต้องดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนให้ดีขึ้น รัฐบาลต้องแก้ปัญหาสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะความเดือดร้อนของประชาชน ต้องแก้ไขนโยบายเศรษฐกิจที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีผลไม่ต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศให้เร็ว เพราะพรรคอยากเห็นการแก้ไขปัฐหาเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมากๆ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์