จากคำสั่ง 66/2523 ถึง รักเมืองไทย พ.ศ.2555 ของ เปรม รัฐบุรุษ

จากคำสั่ง 66/2523 ถึง รักเมืองไทย พ.ศ.2555 ของ เปรม รัฐบุรุษ

อาการหงุดหงิด งุ่นง่าน จากบางพรรค บางฝ่ายและบางคน เมื่อทราบว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รับปากเป็นประธานงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย"

เข้าใจได้

เข้าใจได้เมื่อนึกถึงการเดินสายของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เสนอวาทกรรมว่าด้วยจ๊อกกี้ ว่าด้วยม้า ผ่านโรงเรียนนายร้อย จปร. ผ่านโรงเรียนนายเรืออากาศ ผ่านโรงเรียนนายเรือ เมื่อเดือนมิถุนายน 2549

อันมีส่วนอย่างสำคัญในการปลุกเร้าให้เกิดรัฐประหารในอีก 4 เดือนต่อมา

เข้าใจได้เมื่อนึกถึงความรัก ความแค้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนที่ศรัทธา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีต่อพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

เพราะเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

ไม่ว่าการตัดสินใจรับปากไปในงานเลี้ยงทำเนียบรัฐบาลของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะมาจากสายสัมพันธ์ในเรื่องดนตรีอันแนบแน่นยิ่งระหว่าง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ไม่ว่าการตัดสินใจรับปากไปในงานเลี้ยงทำเนียบรัฐบาลของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะมาจากสายสัมพันธ์ที่ภรรยาของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง มาจากคนในตระกูล "ธนะภูมิ"

แต่หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีส่วนอย่างสำคัญในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523

เรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์

คําสั่งเรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์มีผลในการบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2523 ขณะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

คำสั่งนี้่ส่งผลให้สามารถ "เอาชนะ" พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย-ในทางเป็นจริง

ไม่ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในฐานะนายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะแสดงตนว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันร่วมกับ พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ในฐานะเจ้ากรมยุทธการทหารบก

โดยเก็บรับแนวคิดในเรื่องการเมืองนำการทหารมาจาก นายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร อดีต กรรมการกลางพรรคคอมนิสต์แห่งประเทศไทย

แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่านายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่าผู้บัญชาการทหารบก คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

การตัดสินใจของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่าในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ไม่ว่าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนเมษายน 2523

เป็นการตัดสินใจในฐานะ "รัฐบุรุษ"

หากเปรียบเทียบการตัดสินใจลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2523 กับ การตัดสินใจหยิบสูทมาสวมแล้วเดินทางไปในฐานะประธานงานสโมสรสันนิบาต "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย"

การตัดสินใจอย่างหลังเล็กน้อยมาก

บรรดาพรรคการเมืองบางพรรค กลุ่มบุคคลบางฝ่าย บางพวก บางคน ประเมินวิสัยทัศน์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต่ำอย่างยิ่ง

ลืมไปว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็น "รัฐบุรุษ"

กระทั่งลืมวัจนะเก่าแก่ดึกดำบรรพ์อันจำแนกจุดต่างระหว่าง นักการเมือง กับ รัฐบุรุษ เอาไว้อย่างยอดเยี่ยม คมชัดยิ่ง

นักการเมือง คำนึงแต่ผลการเลือกตั้งข้างหน้า

รัฐบุรุษ คำนึงถึงผลประโยชน์และอนาคตอันยาวไกลของประเทศชาติ บ้านเมือง

งานเลี้ยงที่ทำเนียบรัฐบาล "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" อาจเสมอเป็นเพียงงานเลี้ยงสังสรรค์ ฟังดนตรี แต่จากการจัดงานครั้งนี้ก็แยกจำแนกออกให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าใครเสมอเป็นเพียงนักการเมือง นักเลือกตั้ง ใครเป็นรัฐบุรุษ สายตายาวไกล

กระทั่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกมาให้บทเรียนก็ยังไม่รู้จักสรุปกันอีก

ในความเป็นจริง การตัดสินใจของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เสมอเป็นเพียงบาทก้าวหนึ่ง

เป็นบาทก้าวหนึ่งซึ่งจะสมานและนำเอาความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวไปแทนความขัดแย้ง แตกแยก ร้าวลึกซึ่งดำรงอยู่ก่อนและหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

เราหยุดแล้ว แต่ท่านสิยังไม่หยุด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์