จับตาเฉลิมไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้

ตลอดปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระทั่งต้นสัปดาห์นี้ จะเห็นปฏิกิริยา "อารยะขัดขืน" ของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่เดินทางไปร่วมถ่ายภาพหมู่กับคณะรัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

รวมทั้งการไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากลากิจเพื่อไปตรวจสุขภาพ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นมองได้ว่าเป็นการประท้วง

เนื่องจากไม่พอใจหลังถูกจับโยกย้ายจาก "รองนายกรัฐมนตรี" ไปเป็น "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน" โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ไม่ระแคะระคายมาก่อนล่วงหน้า จนกระทั่งมีข่าวปล่อยจากคนใกล้ตัวของ "สารวัตรเหลิม" ถึงการไขก๊อกออกจากตำแหน่ง "รมว.แรงงาน"

ความรู้สึกผิดหวังของ "สารวัตรเหลิม" ครั้งนี้มีปฏิกิริยามากกว่าทุกครั้ง เพราะไม่คาดคิดว่า "นายกรัฐมนตรี" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะสไลด์ตำแหน่งของตนเองจาก "รองนายกรัฐมนตรี" อันดับที่ 1 ไปเป็น "รมว.จับกัง" เพราะถือว่า "เกรด" ห่างชั้นกันมาก

ประกอบกับ "สารวัตรเหลิม" มีความมั่นใจในผลงานตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับผลงาน โดยเฉพาะผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ที่เจ้าตัวรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ

"ตั้งแต่เป็นรัฐบาล อามีผลงานมาตลอด 2 ปี ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีออกพื้นที่มากที่สุด โพลล์เคยสำรวจได้รับคะแนนนิยมประชาชนพอใจในผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติดมาเป็นลำดับ 1 การปราบยาเสพติดไม่มีคนตาย ปัญหาอาชญากรรมลดลง เป็นรองนายกรัฐมนตรีอันดับที่ 1 คนเคยทำงานด้านการปราบปราม การย้ายก็ต้องระวังด้วย นี่เล่นสไลด์มาอยู่จับกัง ไม่คิดถึงความปลอดภัยเลย ถ้าย้ายไปอยู่กระทรวงยุติธรรมก็ว่าไปอย่าง" บางช่วงบางตอนของการสนทนาที่ "สารวัตรเฉลิม" เปิดความในใจ

แม้ว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ในภาพรวมถือว่า "หน้าตาคณะรัฐมนตรีดูดี" เมื่อเทียบกับรัฐบาลปูที่ผ่านมา

แต่สำหรับคนทำงานเพื่อพรรคแล้วถือว่าการปรับครั้งนี้เข้าข่าย "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" เพราะจากรายชื่อรัฐมนตรีหน้าใหม่ยิ่งลักษณ์ 5 ส่วนใหญ่อาศัยใบบุญต้นทุนทางสังคมเข้ามาทำงานแทบทั้งสิ้น

"รัฐมนตรีคนนอกที่เข้ามาครั้งนี้ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยมากับพรรค บางคนได้ดีเป็นพวกหน้าแดง แรงไม่ออก"

การที่ "สารวัตรเหลิม" ระบายความในใจโดยบอกว่าสาเหตุที่ถูกย้ายจากรองนายกรัฐมนตรีไปเป็นรัฐมนตรีแรงงาน มาจาก "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และการที่ "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" มานั่งแทนที่ในตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ก็คงไม่พ้นการผลักดันของ "พ.ต.อ.ทวี"

ดังนั้น จากนี้ไปให้จับตาปฏิกิริยาของ "สารวัตรเหลิม" โดยเฉพาะในสภาที่จะเปิดประชุมในวันที่ 1 สิงหาคม มีกฎหมายสำคัญเตรียมเข้าสู่การพิจารณาหลายฉบับ ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม, พ.ร.บ.ปรองดอง แรงจูงใจในการผลักดันกฎหมายที่ "สารวัตรเหลิม" เคยเป็นตัวตั้งตัวตี "เพื่อนำทักษิณกลับบ้าน" จะยังคงอยู่ในอุดมการณ์เหมือนเดิมหรือไม่

องครักษ์พิทักษ์ยิ่งลักษณ์ในสภา "สารวัตรเหลิม" จะยังคงออกหน้าปกป้องให้อยู่หรือไม่ เพราะการเป็น "รองนายกรัฐมนตรี" ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และดูแลความมั่นคง ยังพอตอบโต้แทนได้

แต่เมื่อถูกปรับมาเป็น "รัฐมนตรีแรงงาน" จากนี้ไปหากสื่อถามถึงการทำหน้าที่ปกป้องนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในสภา "สารวัตรเหลิม" อาจจะตอบกลับมาว่า "ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้"!