จับตาเกมล้มรัฐบาลขิงแก่ เป้าหมายล้มเลือกตั้ง...เพื่อใคร??

ถ้า"โชเฟอร์" จับพวงมาลัยไม่นิ่งโอกาสจะแหกโค้ง หงายเก๋งมีสูงยิ่ง 3 เดือนที่นับจากนี้จะเป็นเวลาพิสูจน์ "โชเฟอร์" ที่ชื่อ"พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์" ว่าจะฟันฝ่ามรสุมไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะเมื่อวัดอุณหภูมิการเมืองที่รายรอบทำเนียบรัฐบาลอยู่พบว่าใกล้ถึง "จุดเดือด" เต็มแก่ เพราะต้องรับมือทั้ง"ศึกนอก" และ"ศึกใน" ไหนจะกลุ่มอำนาจเก่าที่ตั้งป้อมถล่มอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ไก่โห่ ยังมีเหล่า"มหามิตร" ที่กลับกลายเป็น"ศัตรูตัวฉกาจ" เมื่อเวลาการบริหารประเทศกระดืบๆไปพ้น 1 ปี เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า"เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"

วันก่อน"พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน" ก็เอ่ยปากให้ได้ยินกันจะจะว่ากลุ่มที่จ้องจะล้มนายกฯ ส่วนหนึ่งมาจาก "สภานิติบัญญัติแห่งชาติ" ที่"คมช." แต่งตั้งมากับมือ
 

ขณะที่"พิภพธงไชย" อดีต1 ใน5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ระบุซ้ำเข้าไปอีกว่า ยังมี "ยามเฝ้าแผ่นดิน" และ"สมัชชาภาคอีสาน" อีก2 กลุ่มที่เดินหน้าขย้ำฤาษีอยู่ หลังจากนี้พลพรรคขิงแก่ต้องเผชิญกับคลื่นลมที่กรรโชกแรงจนถึงเลือกตั้ง ทั้ง "ศึกนอก" และ"ศึกใน" และที่ต้องประจันหน้าในเร็วๆคือ ศึกซักฟอก จาก "เพื่อนเก่า" ในสนช. นำโดย"น.ต.ประสงค์สุ่นศิริ" ที่สวมหมวก"ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่นักการเมืองข้าราชการและประชาชน"

ทำเรื่องขอเสนอญัตติต่อมีชัยฤชุพันธุ์ เพื่อเปิดอภิปรายซักฟอกนายกรัฐมนตรีในข้อปัญหาด้านคุณธรรม โดย สนช.กลุ่มนี้ระบุเหตุผลในการขอยื่นญัตติ ตอนหนึ่งว่า "...น่าเชื่อได้ว่ายังมีรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลยังเป็นที่เคลือบแคลงความโปร่งใสเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน เพื่อมิให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย..."

เมื่อโฟกัสลงไปลึกแล้วก็จะเห็นลีลาการ"รุกไล่" ของอดีตซีไอเอเมืองไทยอย่างมีจังหวะจะโคน
 

ที่ผ่านมาเขาแสดงบท"หอกข้างแคร่" เขย่ารังขิงแก่มาอย่างต่อเนื่องโดยเล็งเก้าอี้ "พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์" นายกรัฐมนตรีเป็นเป้าสำคัญในการทำลายล้าง ความบาดหมางของ"ประสงค์" กับ"สุรยุทธ์" ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆหลังจากที่เขาพลาดหวังตำแหน่งสำคัญๆ มากมายหลายเก้าอี้ ทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร แต่ที่ทำให้"สายลับคาบไปป์" ประกาศเดินคนละทางกับ"บิ๊กแอ้ด" คือสไตล์การทำงานที่ค่อนไปทางประนีประนอมยอมความ ไม่บู๊ล้างผลาญกับอำนาจเก่า สมกับเป็นรัฐบาลของคณะรัฐประหาร

ซึ่งท่วงทำนอง"หวานเจี๊ยบ" กับอำนาจเก่ามากเท่าไรความเสี่ยงที่ผู้อยู่ในฝ่ายต่อต้าน "ทักษิณ" จะถูก"เช็คบิล" ก็มีสูงขึ้นเท่านั้น
 

จะเห็นว่ารัฐบาลพลั้งเมื่อไรเป็น "ซัดไม่เลี้ยง" และฟางเส้นสุดท้ายที่สะบั้นเยื่อใยระหว่างทหารแก่ทั้งสองคือการหักดิบ ทิ้ง "สพรั่ง" ให้ไปนั่งตบยุงที่กระทรวงกลาโหม งานนี้แว่วว่าสนช.สายพันธมิตรฯล่วงรู้ว่าผู้ที่ทำให้ "วีรบุรุษ" ต้องตกสวรรค์คือ "สุรยุทธ์" นั่นเอง และเก้าอี้ผบ.ทบ.นี้เองที่ไปฝังความคั่งแค้นให้แก่ "พล.ร.อ.บรรณวิทย์เก่งเรียน" สนช.สายบู๊อีกคน เพื่อนเลิฟ"สพรั่ง"ทำให้เกมซักฟอกเที่ยวนี้มันหยดเพราะมันคือ "ศึกสายเลือดสีเขียว" ชัดเจน

การอภิปรายเที่ยวนี้จะเป็นอีกเกมหนึ่งที่ "ประสงค์" จะโชว์พลังที่ยังหลงเหลืออยู่บีบ"บิ๊กแอ้ด" ให้ทิ้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างตรงไปตรงมาที่สุด

แต่สุดท้ายแล้วคงต้อง"งัดข้อ" กันอีกยาว เพราะเกมต่อจากนี้มันจะแรงขึ้นๆ เนื่องจาก "บิ๊กแอ้ด" ปักธงไปทั่วโลกแล้วว่าจะไม่ลาออก และเดินหน้าการเลือกตั้ง23 ธันวาคม 2550 ให้ได้ ฝ่ายที่ต้องตั้งรับกับคำถามที่ประดังประเดกันเข้ามาก็คือ"ฝ่ายจ้องล้มรัฐบาล" นั่นแหละ  คำถามว่า"ทำเพื่ออะไร" หรือ "ทำเพื่อใคร" จะดังระงม??

เพียงแค่คำถามแรกก็จุกอกแล้วหากจะต้องตอบว่า ถ้า "บิ๊กแอ้ด" ลาออก 

แล้วฝ่ายนี้จะเสนอใครขึ้นมาแทนในระยะเวลาที่เหลืออีกเพียงแค่ 3 เดือน?? นั่นยังไม่เท่ากับว่าใครจะกล้าเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ท่ามกลางสภาวะที่บ้านเมืองมีเป้าหมายเดินไปถึงวันคืนอำนาจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สุดท้ายแล้วก็มาถึงประเด็นตอกย้ำกระแสข่าว "ผู้ทรงอิทธิพล" ในกรรมาธิการยกร่างมีแผนล้มร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งภายในปีนี้  ถึงแม้จะเลยขั้นตอนของรัฐธรรมนูญมาแล้วแต่การที่กลับมีกระแสล้มรัฐบาลขึ้นมาแทนที่ มันก็ทำให้เห็นความเชื่อมโยงไปสู่ "เป้าหมายเดิม" ในการไม่ให้มีการเลือกตั้งได้เช่นเดียวกัน
 
ถามว่าเหตุที่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งปีนี้ เป็นเพราะกลัว "ทักษิณ" กลับมาจริงๆหรือ?? หรือแท้จริงแล้วมี "วาระซ่อนเร้น" เพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องกันแน่??