จับการ์ด พธม.พกระเบิด


น้อยหน่า 3 ลูกปิงปองเพียบที่แยกสวนรื่น
              
ตะครุบคาไฟแดง การ์ด พธม.ชนระเบิดใจกลางกรุง ตำรวจสามเสนตาไวเห็นพิรุธ รวบทันควัน ตะลึง!เจอระเบิดน้อยหน่า 3 ลูก ระเบิดปิงปอง 22 ลูก เครื่องกระสุนอีกเพียบ เผยเป็นหนุ่มภูเก็ตอ้างรุ่นพี่ในม็อบจ้าง 200 บาท ให้นำไปส่งหน้าสนามมวยราชดำเนิน “สมชาย” วอนยุติความแตกแยกไว้ก่อน ขณะที่ “เครือข่ายสานเสวนา” ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจการขึ้นเวทีเสวนาไม่ใช่พ่ายแพ้แต่คือความกล้า “สนธิ” โผล่มามุกใหม่แต่งชุดขาวทำพิธีปัดเป่ารังควานในทำเนียบฯ แถมเดินประพรมน้ำมนต์ทั่วบริเวณ ท่ามกลางผู้ชุมนุมพากันยกมือไหว้ อ้างเป็นสิริมงคลแก่ม็อบ “มหา” ระบุยังพร้อมเปิดถนนถวายความจงรักภักดี ส่วนดาวกระจาย ตจว. เจอดี “สมศักดิ์-มาลีรัตน์” ถูกกลุ่มเสื้อแดงเมือง คอนโผล่ขับไล่ถึงสนามบิน “โฆษก ปชป.” แนะรัฐบาลลดดีกรีความขัดแย้ง กองทัพตั้งกรรมการสอบ “เสธ.แดง” เจ้าตัวโวลั่นอยากจับแกนนำไปสอบที่เกาะตะรุเตา 
 
ความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล และยังไม่ยอมเปิดเส้นทางการจราจรบนถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงแยกมิสกวัน อ้างเหตุผลว่ากลัวผู้ชุมนุมจะไม่ได้รับความปลอดภัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ตร.เจรจาพันธมิตรฯตลอด

 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นาย    สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม พร้อมด้วยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ได้ออกรายการ “รัฐบาลของประชาชน” เพื่อชี้แจงหมายกำหนดการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ระหว่างวันที่ 14-16 พ.ย.นี้ หลังจากนั้นนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธ มิตรฯยังไม่ยอมเปิดถนนราชดำเนินนอก 6 ช่องทางเพื่อใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินว่า ทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในฐานะประธานอนุกรรมการฝ่ายจราจรในพระราช  พิธีฯก็พยายามประสานงานทุกวันเพื่อให้ พธม. เปิดถนนอยู่แล้ว


นายกฯวอนหยุดแตกแยก

 
ผู้สื่อข่าวถามว่า พธม.ยืนยันยังไม่ยอมเปิดถนนราชดำเนินนอกทั้ง 6 ช่องทางจะดำเนินการเช่นไรต่อ นายสมชาย กล่าวว่า ทางฝ่ายจราจรก็คงไปจัดการว่าจะทำอย่างไร แต่เราต้องทำให้สมพระเกียรติ เมื่อถามต่อว่า พธม.ยื่นเงื่อนไขพร้อมเปิดถนนบางส่วนและอาจมีสิ่งกีดขวางริมถนนบ้าง รัฐบาลจะรับได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรเป็นงานอะไรก็รู้กันอยู่ ตนบอกแล้วว่าเป็นงานที่ประชาชนคนไทยทุกคนร่วมกันถวายพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี และร่วมกันถวายอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายจึงอยากให้ไม่มีอะไรมาสะดุดไม่มีอุปสรรคใด ๆ
 
“คิดว่าความแตกแยกทางความคิดก็ขอให้เป็นเรื่องประชาชนปกติด้วยกัน แต่ถ้าเป็นงานที่เกี่ยวกับพระราชพิธีสำคัญ ผมคิดว่าเราต้อง เอาความแตกแยกวางไว้ก่อน ร่วมกันทำงานตรงนี้ให้ลุล่วงไปก่อนแล้วค่อยมาขัดแย้งกันจะดีที่สุด” นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย


ผบช.น.ประชุมถวายอารักขา

 
ส่วนที่สโมสรตำรวจ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจในระดับตั้งแต่ สว. ขึ้นไป จำนวน 1,050 นาย เพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ โดยภารกิจหลักของ บช.น. แบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่การถวายอารักขาแด่พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของประชาชน การอำนวยความยุติธรรม เน้นงานด้านสอบสวนคดีอาญาในระดับโรงพัก ด้านการบริการประชาชน ลดอุบัติภัยและความเสียหายจากอุบัติเหตุการจราจร กวดขันและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีวินัยการจราจร ด้านการรักษาความมั่นคงของชาติและกิจการพิเศษ และด้านการบริหารจัดการที่ดี ทั้งด้านจิตใจ สติปัญญา และสุขภาพ
 
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ ยังได้ให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะกำลังตำรวจที่เข้าไปช่วยเสริมทำงานดูแลอาคารรัฐสภาเมื่อ   วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เตรียมพิจารณาขั้นเงินเดือน แต่ยังต้องดูผลการตัดสินของคณะกรรมการกลางออกมาก่อนว่าตำรวจผิดหรือถูก หากผิดต้องหยุดไว้ก่อน


ชี้แจงเปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯ

 
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. กล่าวถึงการกำหนดเส้นทางขบวนเสด็จฯว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี และรัชทายาท จะเสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานไปพระบรมมหาราชวัง ปกติจะใช้ถนนราชดำเนินเป็นหลักเหตุผลก็เพราะเป็นเส้นทางกว้าง มีช่องคู่ขนาน สะดวกปลอดภัย และสมพระเกียรติ การออกหมายเส้นทางสำนักพระราชวังจะออกหมายมาก่อน 10 วัน แต่ก็ติดกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เพราะขณะนี้เส้นทางถนนราชดำเนินยังมีลวดหนาม ยางรถ และแผงเหล็กจึงไม่สามารถกำหนดเส้นทางถนนราชดำเนิน จำเป็นก็ต้องเปลี่ยนเส้นทาง ขณะเดียวกันตำรวจได้ประสานงานไปยังแกนนำพันธ มิตรฯตั้งแต่ต้น ต.ค.ที่ผ่านมา แกนนำให้คำตอบว่าจะเปิดในวันที่มีพระราชพิธีเพียง 1 วัน ซึ่งตำรวจได้อธิบายให้แกนนำฟังว่าหากเปิดถนนเช่นนี้ก็ไม่สามารถกำหนดให้เป็นเส้นทางเสด็จฯในวันที่ 14-16 พ.ย. ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ


พธม.กลัวผู้ชุมนุมอันตราย

 
รอง ผบช.น. กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำตอบกลับมาว่าไม่สามารถเปิดเส้นทางได้เพราะยังมีสิ่งของจำนวนมากอยู่ในช่องคู่ขนาน ไม่สามารถเคลื่อนย้าย หาที่เก็บไม่ได้ และเมื่อเปิดแล้วเกรงว่าผู้ชุมนุมจะไม่ปลอดภัย โดยอ้างว่าตำรวจไม่สามารถดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ตำรวจไม่สามารถกำหนดเส้นทางจึงได้เสนอสำนักพระราชวังให้เปลี่ยนเส้นทาง สำหรับพี่น้องประชาชนที่จะมาเฝ้าฯรับเสด็จก็สามารถมาที่เส้นทางถนนราชดำเนินกลาง และในบริเวณรอบท้องสนามหลวง ส่วนเส้นทางเสด็จฯ จากพระตำหนักจิตรลดาฯถึงสนามหลวงคงจะใช้ถนนหลานหลวงเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินแทน


“สนธิ”พรมน้ำมนต์ปัดรังควาน

 
ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ   พันธมิตรฯ แต่งกายด้วยชุดสีขาวแบบผู้ถือศีลขึ้นเวทีเชิญชวนกลุ่มพันธมิตรฯที่วันนี้แต่งกายด้วยชุดสีขาวทั้งชายหญิงประมาณ 100 คน มารวม   ตัวกันที่ด้านหน้าเวทีและเน้นผู้แต่งชุดขาวที่ถือศีล 5 เท่านั้น ให้เข้าร่วมประกอบพิธีแก้เคล็ดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย หลังเสร็จสิ้นพิธีบนเวทีนายสนธิ นำขันเงินและพานทองที่ระบุว่าภายในบรรจุน้ำพระพุทธมนต์เดินลงมาประพรมน้ำมนต์ด้วยตนเอง ตั้งแต่หน้าเวทีไปจนถึงตามเต็นท์นักรบศรีวิชัย บรรดาผู้ชุมนุมหลายคนเมื่อได้รับประพรมน้ำมนต์แล้วถึงกับยกมือไหว้กันยกใหญ่ กระทั่งเสร็จสิ้นพิธีแล้วผู้ชุมนุมจึงได้ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่
 
นายสนธิ ให้เหตุผลอธิบายว่า พิธีดังกล่าวทำเพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเสริมสร้างสิริมงคล ส่วนที่ต้องประกอบพิธีในขณะนี้เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯได้ใช้เวทีและพื้นที่ในทำเนียบรัฐบาลทำกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นเวลานานจึงต้องทำการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้พ้นไป


คาดไม่ถึง“แม้ว”ถูกถอนวีซ่า
 
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอังกฤษเพิก ถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและภริยา ว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในครั้งแรกที่มีการพูดกัน     คิดว่าเป็นข่าวลือ เมื่อสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ประกาศยืนยันจึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งนี้อาจเป็นผลจากการ     จัดงานความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 2 ที่สนามราชมังคลาฯ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ทั้งนี้อังกฤษถือเป็นประเทศแม่บท ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยจึงได้ประกาศความชัดเจนออกมา ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯยังมีความพยายามลี้ภัยในประเทศอื่นคงไปออกความเห็นไม่ได้


“มหา”ระบุม็อบยังเหนียวแน่น

 
ส่วนกรณีที่เอแบคโพลมีผลสำรวจว่า ประชาชนให้ความสนใจการชุมนุมของพันธมิตรฯ น้อยลงนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ ฟังผลสำรวจทุกสำนักโดยพันธมิตรฯ เคยบอกแล้วว่าการชุมนุมเป็นเรื่องยาวนานบางครั้งคนน้อย บางครั้งคนมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะคนน้อยหรือมาก สิ่งที่เราทราบดี คือมีคนสดับตรับฟังข่าวสารของพันธมิตรฯมากขึ้น อย่างไรก็ดีหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นผู้ชุมนุมพร้อมที่จะกลับมาร่วมชุมนุม ทั้งนี้พันธมิตรฯขอยืนยันอีกครั้งว่าการดำเนินการของพันธมิตรฯไม่ได้ทำเพื่อตนเอง หรือหวังอำนาจหรือประโยชน์อะไร และเราก็ต้องคำนึงถึงงานพระราชพิธีด้วยเช่นกัน


ยืนยันพร้อมเปิดเส้นทาง
 
ทั้งนี้ในระหว่างแถลงข่าว พล.ต. จำลอง ได้ให้การ์ดพันธมิตรฯนำแถลงการณ์ฉบับที่ 13/2551 เรื่องจุดยืนต่อกรณีการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินมาแจกกับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า ได้มีความเห็นที่จะเปิดช่องทางจราจรบนถนนราชดำเนินนอกเพื่อเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แต่ที่ไม่สามารถเปิดช่องทางจราจรได้ตามที่ประกาศไว้เพราะมีการก่อวินาศกรรม ก่อกวน และทำร้ายประชาชนด้วยอาวุธสงครามถึง 9 ครั้ง อย่างไรก็ตามพันธมิตรฯยืนยันว่าพร้อมที่จะเปิดเส้นทางจราจร หากมีการแจ้งว่ามีขบวนเสด็จฯในระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. โดยยืนหยัดที่จะแสดงความจงรักภักดี


รวบการ์ดพธม.ขนระเบิด
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.50 น. วันเดียวกัน ขณะที่ ด.ต.วุฒิพงษ์ กลั่งกระโทก และ ส.ต.อ.สมศาสตร์ บัวแดง สายตรวจ จยย. สน.สามเสน ขี่จยย.ตรวจท้องที่ผ่านมาถึงบริเวณสี่แยกสวนรื่นฤดี ถนนนครราชสีมา แขวง-เขดุสิต สังเกตเห็นวัยรุ่น 2 คน ขี่จยย.ฮอนด้าคลิก สีขาว-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน มาจอดด้านข้าง คนซ้อนท้ายไม่สวมหมวกกันน็อกมีท่าทีพิรุธ ด.ต.วุฒิพงษ์ และ ส.ต.อ.สมศาสตร์ จึงสั่งให้จอดขอตรวจค้นทันที ทราบชื่อคนขี่นายธนิต ขันอุไร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/3 ซอยสันติสุข แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ส่วนคนซ้อนคือ นายวัฒนา กิจพิทักษ์สิน อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 51 ถนนไสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่เอวพบอาวุธมีดซามูไรสั้น 1 เล่ม อยู่ในอาการหน้าซีดตกใจ เมื่อเปิดกระเป๋าเป้สะพายที่ห้อยอยู่หน้ารถถึงกับตะลึง พบลูกระเบิดและเครื่องกระสุนจำนวนมากจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมนำตัวส่ง   โรงพักทันที


ตะลึงระเบิดน้อยหน่า3ลูก
 
สำหรับอาวุธที่ตำรวจตรวจค้นเจอในกระเป๋า ประกอบด้วยระเบิดขว้าง เอ็ม 67    หรือระเบิดน้อยหน่า จำนวน 3 ลูก ระเบิดทำเอง ขนาดกำมือ 1 ลูก ทั้งหมดถูกพันด้วยเทป  สีน้ำตาลอย่างแน่นหนา ระเบิดปิงปอง แบบมีชนวน 22 ลูก กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 4 นัด หนังสติ๊ก 3 อันพร้อมลูกแก้วและหัวนอต 116 ตัว บัตรรปภ.กองทัพธรรม ช.153 เสื้อแจ๊กเกตสีดำ ด้านหลังปัก “การ์ดกองทัพธรรม” ผ้าพันคอกู้ชาติสีเหลืองและสีฟ้าอย่างละ 1 ผืน เครื่องรางของขลัง และยาแก้ไข้ ฯลฯ ระหว่างตำรวจควบคุมผู้ต้องหามาสอบสวนนั้นได้มีญาติพี่น้องของนายธนิต ทราบข่าวเดินทางมาโรงพักจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีบรรดาการ์ดพธม.ขี่จยย.มาป้วนเปี้ยนสังเกตการณ์ติดตามข่าวอยู่หน้าโรงพัก


โยนการ์ดรุ่นพี่จ้างให้ไปขน
 
จากการสอบปากคำนายวัฒนา ให้การว่า ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเพื่อนจาก จ.ภูเก็ต ชักชวนให้มาเป็นการ์ด พธม.ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ มีหน้าที่โบกรถ (จุด จ3.2) หน้า  กองทัพภาคที่ 1 ทำงานด้วยจิตอาสาไม่มีค่าจ้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น ก่อนเกิดเหตุการ์ดรุ่นพี่ทราบชื่อเล่น “นก” ว่าจ้างตน 200 บาท ให้ไปเอากระเป๋าเป้ที่วางไว้อยู่ใต้สะพานข้ามคลองราชวัตร แล้วนำไปวางไว้ที่บริเวณถังขยะหน้าเวทีมวยราชดำเนิน ตนจึงได้โทรศัพท์ไปชักชวนนายธนิต    อาชีพ จยย.รับจ้างซึ่งรู้จักกันในม็อบช่วยขี่จยย. ไปเป็นเพื่อน หลังจากเจอกระเป๋าแล้วไม่รู้ว่าภายในมีอะไรจึงรีบขี่จยย.จะนำไปส่งตามที่นายนก ระบุเอาไว้แต่ไปไม่ถึงก็มาถูกตำรวจจับกลางทาง แต่ตำรวจยังไม่ค่อยปักใจเชื่อเตรียมขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธมีด


แฉทำเนียบเป็นคลังแสง

 
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวตอบโต้กรณีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯออกมาระบุว่า เหตุลอบวางระเบิดบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นฝีมือของรัฐบาลว่าไม่เป็นความจริง โดยไม่มีเหตุใด ๆ ที่รัฐบาลจะไปดำเนินการเช่นนั้นเพราะรัฐบาลต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยโดยให้กลุ่มพันธ มิตรฯออกมาจากทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีคนบาดเจ็บ ล้มตาย ดังนั้นขอปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทุกครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตว่าวันนี้ทำเนียบรัฐบาลได้กลายสภาพเป็นคลังแสงของกลุ่มพันธมิตรฯไปแล้วซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดจากการสะสมอาวุธก็ได้ หรืออาจเกิดมาจากความขัดแย้งระหว่างแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯด้วยกันเองหลายเรื่อง


วอนกองทัพช่วยรัฐเจรจา

 
นายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ อดีตผู้สมัครส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งขอเรียกร้องให้ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง ผบ.สส. และ ผบ.ตร. ในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงออกมาเจรจาหรือหาหนทางให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าทหาร ตำรวจทำไม่ได้ก็ขอให้พิจาณาตัวเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเมื่อรัฐสภามีการประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญตนจะเชิญชวนประชาชนชาวอุดรธานี เดินทางมาชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภาเพื่อต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯและสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะชุมนุมโดยสันติปราศจากอาวุธ ที่ตนทำเช่นนี้ไม่ใช่หาเสียงแต่ทนไม่ไหวแล้วกับพฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ


“นพ.ประสพ”ห่วงสถานการณ์

 
ศ.นพ.ประสพ รัตนากร ประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ตึงเครียดในบ้านเมืองอย่างมากและขอให้ทุกฝ่ายยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ แต่บ้านเมืองจะปลอดภัย ซึ่งทุกคนควรนำเรื่องนี้เป็นแนวทาง อีกทั้งที่ผ่านมาประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้กล่าวอยู่เสมอว่าให้รู้จักรักสามัคคี อดทน อดกลั้น เสียสละ คนเราจะเอาแต่รับไปเสียทุกอย่างคงไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้หยิบยกบทกวีของ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ นักกวีเอกของโลกที่กล่าวไว้ว่า “ทะเลยังมีฝั่งมีขอบเขตแต่กิเลสของคนนี้ไซร้หาขอบเขตบ่มิได้ ทั้งโกธร ทั้งโลภทั้งหลง” เพื่อกล่าวฝากให้กับคนไทยทุกคนนำไปเป็นข้อคิดเพราะทุกคนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ศ.นพ.ประสพ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่มีข้อเสนอให้ พล.อ.เปรมเป็นคนกลางเข้าไกล่เกลี่ยปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้


แนะรัฐบาลลดปมขัดแย้ง

 
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว ว่า ขอเสนอให้รัฐบาลเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ผ่านเวทีสานเสวนา ก่อนงานพระราชทานเพลิงพระศพที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-16 พ.ย.นี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพราะถือเป็นโอกาสที่จะให้คู่กรณีที่มีความ   ขัดแย้งกัน ร่วมกันหาทางออกให้กับบ้านเมือง อย่างเป็นรูปธรรม โดยแนวทางที่จะทำให้เกิดการเจรจาได้ คือ รัฐบาลจะต้องลดเงื่อนไขความขัดแย้งทั้งหมด ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 และการออกกฎหมายนิรโทษกรรม รวมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม ทันทีที่มีผลสอบจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการอิสระที่รัฐบาลตั้งขึ้น ซึ่งทั้งสามองค์กรต้องเร่งพิจารณาเพื่อสรุปผลโดยเร็ว


จี้เอาผิดตร. 7 ตุลาเลือด

 
สำหรับการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมนั้น นพ.บุรณัชย์ เสนอให้เริ่มต้นจากการพักการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการเหตุดังกล่าวเพื่อแสดงความจริงใจ และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจังหากพบว่ามีการกระทำผิด ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้เกิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลและพันธมิตรฯได้ ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ควรเพิ่มเงื่อนไขใหม่ที่จะทำให้การเจรจาเป็นไปได้ยากขึ้น และเปิดโอกาสให้กระบวนการสานเสวนาเริ่มต้นขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้ง ก่อนที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง    


นปช.เมืองคอนฮือไล่“สมศักดิ์”

 
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช รายงานว่าช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนางมาลีรัตน์ แก้วก่า 2 แกนนำพันธมิตรฯ มีกำหนดเดินทางมายังในพื้นที่ จ.นครศรีธรรม ราช เพื่อเดินรณรงค์ทำกิจกรรมปราศรัยบริเวณศาลาประดู่หก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร แต่ระหว่างอยู่ที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.นครศรีธรรมราช) แต่งกายด้วยเสื้อแดง พร้อมสัญลักษณ์ “ตีนตบ” จำนวนหนึ่งมารอขับไล่นายสมศักดิ์ และนางมาลีรัตน์ ทำให้เกิดการปะทะคารมกลับกลุ่มพันธมิตรฯที่มารอ  รับทำให้ตำรวจต้องรีบมาห้ามทัพทั้งสองฝ่ายโดยไม่มีเหตุรุนแรง จากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯได้ไปจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในตัวเมืองอย่างทุลักทุเลท่ามกลางฝนตกหนัก


ยันไม่เห็นด้วยพันธมิตรฯ

 
นายอัครพล หนูทวี แกนนำครอบครัวความจริงวันนี้ กล่าวว่า การรวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เป็นเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่าคนนครศรีธรรมราชกว่า 1.5    ล้านคน ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางพันธมิตรฯ  ทุกคนที่สำคัญเราอยากแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรม ของแกนนำพันธมิตรฯที่ชอบแอบอ้างสถาบัน แต่กลับไม่ยอมเปิดเส้นทางขบวนเสด็จฯ นอกจากนี้ยังได้ทำพฤติกรรมสิ่งไม่เหมาะสมที่คนไทย ส่วนใหญ่พอทราบเรื่องแล้วรับไม่ได้ ทั้งนี้ในเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 11 พ.ย.นี้ ชาวนครศรีธรรมราชจำนวนหนึ่งจะร่วมกันประกอบพิธีพราหมณ์เพื่อบวงสรวงองค์เสด็จพ่อ “ร.5” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวไทยทั่วประเทศ


ดาวกระจายเมืองย่าโม
 
ส่วนที่ห้องวีวันคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมวีวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรฯโคราช จัดงาน “อัญชลี ไพรีรัก เดี่ยวไมโครโพน” โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังจำนวนมาก อย่างไรก็ดีมีกลุ่ม นปช.   ใส่เสื้อแดงจำนวนหนึ่งรวมตัวถือป้ายประท้วงพร้อมกล่าวโจมตีนางอัญชลี และกลุ่มพันธ   มิตรฯอย่างดุเดือด ทางตำรวจต้องระดมกำลังมาควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง


กลุ่ม“สานเสวนาฯ”เสนอ4ข้อ

 
ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม นำโดย ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ หัวหน้าคณะฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีความรุนแรง    ที่เกิดขึ้นในระยะนี้ว่า การใช้ความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ เชื่อมั่นว่าการ สานเสวนาและเจรจาไกล่เกลี่ยคือวิธีช่วยแก้ปัญหา จึงขอประกาศ 1.เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ 2.ให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลังในการป้องกันเหตุรุนแรงที่จะมีขึ้นในอนาคต 3.ให้ผู้รับผิดชอบ สืบหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว และ 4.ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมรณรงค์กับเครือข่ายฯ และต่อต้านความรุนแรงที่อาจมีขึ้นในอนาคต


ชี้ขึ้นเวทีเสวนาไม่ใช่พ่ายแพ้

 
เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องลักษณะนี้มีบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ศ.นพ.วันชัย กล่าวว่า เราทำได้ดีที่สุดคือการเรียกร้อง เพราะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต้องรณรงค์ให้สังคมตระหนักว่า ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเราไม่เร่งรีบในกระบวนการเจรจา ขึ้นอยู่กับการยอมรับของทุกฝ่าย ส่วนความคืบหน้าในการสานเสวนานั้น นับว่ามีแนวโน้ม แต่เราต้องให้เวลา คนที่คิดว่า ทางที่เขาดำเนินอยู่ คือทางออกที่ถูกต้องก็อาจยังไม่พร้อมขึ้นเวที แต่ต้องสื่อให้เข้าใจว่า การขึ้นเวทีเสวนาไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นวิถีคนกล้า สำหรับคนกลางไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่มาก แต่ต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย หลายคนก็บอกว่า มีลักษณะเป็นกลุ่มก็ได้ อย่างมีคนบอกว่า เครือข่ายฯ เองก็มีความเหมาะสม ทั้งนี้ในวันพุธที่ 12 พ.ย. กลุ่มของตนจะเข้าพบนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อหารือเรื่องกระบวนการสานเสวนา โดยอาจมีการคุยว่า หากหลายฝ่ายต้องการให้นายประสพสุข เป็นคนกลางเป็นหัวหน้าทีมจะสามารถประสานได้หรือไม่อย่างไร
 
ด้านนายอรัญ โสตถิพันธุ์ คณะผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า คนกลางที่จะชี้ขาดได้อีกกลุ่มหนึ่ง คือประชาชนที่เป็นพลังเงียบจึงอยากสื่อสารไปยังประชาชนว่าต้องแสดงพลังให้เกิดสันติธรรมนำสู่การสานเสวนา


กองทัพตั้งกก.สอบ“เสธ.แดง”

 
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพบกตั้งกรรมการสอบ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เรียบร้อยแล้ว โดยมี พล.ท. พิรุณ แพ้วพลสง ผู้ช่วยเสธ.ฝ่ายกำลังพล เป็นประธานสอบ อย่างไรก็ตาม คงไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะเป็นเรื่องที่จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับ คาดว่าคณะกรรม การคงจะเรียก พล.ต.ขัตติยะ มาสอบถามในระยะใกล้นี้
 
ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง ให้สัมภาษณ์ว่า เพิ่งทราบว่าถูกตั้งกรรมการสอบ แต่ยังไม่มีหนังสือหรือเรียกตนให้ไปสอบถามข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามตนพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง และทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้ทราบ มาว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.จะแต่งตั้งให้ตนเป็นคณะที่ปรึกษา เพื่อทำงานในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) หากแต่งตั้งจริงจะดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯด้วยการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติความมั่นคงเพราะเป็นเรื่องภัยความมั่นคง ซึ่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว สามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้ 6 เดือน ขณะที่กฎหมายอาญาทำได้เพียง 48 ชม. โดยสิ่งแรกที่จะทำคือนำกำลังทหารจับกุมแกนนำแล้วนำไปสอบที่เกาะตะรุเตา.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์