จันทร์นี้นัดชี้มูล 3 คดีทุจริต งาบ ´สุวรรณภูมิ´

"ส่งผลสรุปโครงการ"


หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติหยิบยก 8 โครงการใหญ่ในสมัยรัฐบาลชุดก่อนขึ้นมาตรวจสอบ และแบ่งทีมตรวจสอบเป็น 3 กองงาน ซึ่งกองงานชุดที่ตรวจสอบเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิได้มีมติว่า โครงการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์มีข้อมูลหลักฐานเบื้องต้นที่อาจจะชี้มูลความผิดได้ จึงจะส่งผลสรุปโครงการนี้ให้ คตส.พิจารณาเพื่อลงมติต่อไปนั้น ล่าสุดกองงานชุดดังกล่าวก็ได้มีมติส่งผลการตรวจสอบโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ และโครงการวางท่อร้อยสายไฟฟ้า สนามบินสุวรรณภูมิ ให้ที่ประชุมคตส.ชี้มูลความผิดด้วย

นาม ประชุมกองงานสุวรรณภูมิ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีการประชุมกองงานตรวจสอบโครงการเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะหัวหน้ากองงานตรวจสอบโครงการเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ ได้เป็นประธานการประชุมกองงาน ซึ่งประกอบด้วยนายแก้วสรร อติโพธิ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา และนายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส. เพื่อสรุปข้อมูลหลักฐานในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ และโครงการวางท่อร้อยสายไฟฟ้า ก่อนส่งให้ คตส.ชี้มูลความผิดต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา กองงานดังกล่าวได้สรุปข้อมูลหลักฐานในโครงการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ไปแล้ว

ชงฟันแอร์พอร์ตลิงก์-ท่อร้อยสาย

นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. ให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าประชุมว่า เป็นการประชุมต่อในเรื่องที่พิจารณาค้างไว้อีก 2 เรื่อง เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม คตส.ในวันที่ 9 ต.ค. เชื่อว่ากองงานอื่นก็คงรีบพิจารณาตามที่มอบหมายเช่นกัน เรื่องทั้งหมดที่แต่ละคณะกองงานเสนอต่อที่ประชุมใหญ่คาดว่าจะสามารถตัดสินได้เลย โดยจะมีการกล่าวหาและระบุชื่อผู้ที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นวันที่ 9 ต.ค.นี้จะพยายามเดินเครื่องให้ได้ โดยจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพิ่มเติมในแต่ละเรื่อง และจะเปิดชื่ออนุกรรมการและผู้ที่ถูกกล่าวหา เพื่อให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาชี้แจงคัดค้านว่ามีส่วนได้เสียหรือไม่ หลังจากนั้นอนุกรรมการจะต้องวางแนวทางการตรวจสอบให้ชัดเจน ต้องดูว่าเรื่องไหนจะพักไว้ก่อน หรือกลุ่มไหนจะแจ้งได้เลย ประเด็นสำคัญอยู่ที่วันจันทร์ที่ 9 ต.ค. นี้ว่า คตส.จะลั่นไกเป้าหมายใดบ้าง ชั้นนี้เป็นเพียงชั้นคณะทำงาน จะทำอย่างเต็มที่ทั้งหมด

ต่อมาเวลา 16.30 น. ภายหลังการประชุม นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. และหัวหน้ากองงานตรวจสอบโครงการเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาสรุปสำนวนที่รับผิดชอบเสร็จแล้วทั้ง 3 เรื่อง โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุม คตส.วันที่ 9 ต.ค.นี้พิจารณา ในชั้นนี้ถึงแม้จะสรุปเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 3 เรื่อง แต่ต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปเพื่อรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด

ส่งที่ประชุม คตส.ชี้มูลความผิด

นายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า จะนำทั้ง 3 เรื่องที่พิจารณาเสร็จแล้วส่งให้ คตส.พิจารณาว่าจะชี้มูลหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดคือไม่ต่ำกว่า 6 คน และหากที่ประชุมลงมติว่ามีมูล จะนำสู่อำนาจตามประกาศที่ คปค.ให้มาคือ จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน ซึ่งสามารถไปขอข้อมูลเพิ่มเติมตามกฎหมาย ปปง. กฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายหลักทรัพย์ ส่วนการอายัดทรัพย์สินนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ทำได้เพียงคอยตรวจสอบ แต่เมื่อใดที่ทรัพย์เกิดความเคลื่อนไหว คตส.ก็มีอำนาจอายัดได้

แก้วสรร ชม สตง.ทำสำนวนแน่น


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะจับพญานาคได้หรือไม่ นายแก้วสรรกล่าวว่า ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุม คตส.จะชี้มูลความผิด หากไม่มีมูลและสาวไม่ถึงก็ไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม การที่กองงานตรวจสอบโครงการเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิสามารถสรุปคดี 2 เรื่องเสร็จภายในวันเดียวกัน ต้องชมการทำงานของ สตง.ที่ทำสำนวนได้แน่นและเข้มมาก จึงสามารถพิจารณาได้เร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแก้วสรรได้ตำหนิสื่อมวลชนที่เสนอข่าวว่า คตส.จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม มาชี้แจงข้อกล่าวหาในโครงการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ เพราะที่ประชุม คตส.ยังไม่มีมติชี้มูลความผิดโครงการดังกล่าวเลย เป็นเพียงขั้นตอนของกองงานเท่านั้น

เผย วันนอร์-สุริยะ อาจถูกสอบ

สำหรับ 2 โครงการที่กองงานชุดของนายนามพิจารณาเสร็จในครั้งนี้ คือโครงการวางท่อร้อยสายไฟฟ้า มีการร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนผู้ประมูลบางราย ประกวดราคาในสมัยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็น รมว.คมนาคม และอาจจะเกี่ยวข้องถึงนายศรีสุข จันทรางศุ ในฐานะประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ด้วย ส่วนอีกโครงการคือโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายค่าธรรมเนียมเงินกู้แทนบริษัทคู่สัญญา ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมในสมัยนั้น และนายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่า รฟท. ขณะนั้น ซึ่งถ้าที่ประชุม คตส.ลงมติว่าโครงการดังกล่าวมีมูลทุจริต ก็จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อกล่าวหา

ทีมสอบภาษีขายหุ้นยังสับสน

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส. หนึ่งในกองงานตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีขายหุ้น การปล่อยเงินกู้ให้พม่า และโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการแบ่งงานและดำเนินการอย่างไร ต้องฟังความเห็นในที่ประชุมก่อน แต่ในวันที่ 6-8 ต.ค.นี้ยังไม่มีการประชุมกองงาน เช่นเดียวกับนางสาวเสาวณีย์ อัศวโรจน์ กรรมการ คตส. หนึ่งในกองงานเดียวกับนายกล้านรงค์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการประชุมกองงานที่รับผิดชอบเมื่อไหร่ คาดว่าคงจะรู้รายละเอียดของคดีในวันที่ 9 ต.ค.นี้

ขณะที่นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการ คตส. หนึ่งในกองงานชุดเดียวกันกล่าวว่า ได้มีการนัดประชุมกองงานที่รับผิดชอบในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 10.00 น. ขณะนี้ทราบแต่เพียงว่ารับผิดชอบเรื่องอะไร แต่ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียด เพราะ สตง.ยังรวบรวมไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม ตนกำลังศึกษากฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อนำไปประกอบการพิจารณา ยอมรับว่าเรื่องที่ตรวจสอบค่อนข้างยากและซับซ้อน ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงไม่แน่ใจว่าจะเสร็จทันการประชุม คตส.ในวันที่ 9 ต.ค. นี้หรือไม่

ชุดสอบกล้ายางโวยไม่มีที่ประชุม

ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. หัวหน้ากองงานตรวจสอบโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา และโครงการเซ็นทรัลแล็บ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 วันนี้คงจะไม่มีการประชุมกองงาน เพราะไม่มีสถานที่ ประกอบกับพื้นที่ใน สตง.คับแคบ ไม่สะดวก ดังนั้น ต้องรอการประชุม คตส.ในวันที่ 9 ต.ค. นี้ก่อน เชื่อว่าจะมีความชัดเจน จากนั้นกองงานจะเริ่มพิจารณาเนื้องานที่รับผิดชอบ สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดนั้น คตส.ต้องประชุมเพื่อวางกรอบและขั้นตอนการดำเนินการ

คตส.ลั่นพร้อมโชว์บัญชีทรัพย์สิน


นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวถึงกรณีที่นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เสนอให้กรรมการ คตส.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชนว่า กฎหมาย ป.ป.ช.กำหนดตำแหน่งของบุคคลที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว โดยเท่าที่ดูกรรมการ คตส.เกือบทั้งหมดก็เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเช่นกัน

เพราะเคยเป็น ส.ว.และผู้พิพากษา แต่ถ้าให้กรรมการทุกคนแสดงบัญชีทรัพย์สินก็คงต้องหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุม ไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะตำแหน่งหน้าที่ของ คตส.ไม่สามารถทำให้ร่ำรวยผิดปกติได้ และทุกคนมุ่งมั่นทำเพื่อชาติ ไม่ได้หวังผลอะไร นอกจากนี้ ยังมีประชาชนและคนในสังคมคอยจับตาอยู่ตลอด คงไม่มีใครหาประโยชน์เข้าตัวเองได้

ยื่นหลักฐานเอาผิดภาษีหุ้นชินฯ

บ่ายวันเดียวกัน ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยนำโดยนายประสาร มฤคพิทักษ์ และนายไกร ตั้งสง่า เดินทางเข้ายื่นหลักฐานและข้อมูลการซุกหุ้นภาค 2 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ คตส.ตรวจสอบ โดยมีนายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. รับเรื่องไว้ โดยนายประสารกล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามการซุกหุ้นของตระกูลชินวัตรมาอย่างต่อเนื่อง พบเงื่อนปมที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการซุกหุ้นและจงใจปกปิดซ่อนเร้นทรัพย์สิน

หลักฐานที่นำมามอบให้จะเป็นเบาะแสที่มาของแหล่งเงินที่น่าเคลือบแคลง สามารถชี้ถึงพฤติกรรมการลงทุนและการโอนหุ้นของคนในกลุ่มเดียวกัน รวมทั้งการแก้ไขข้อมูลอำพราง ก.ล.ต. ส่วนที่คนสนิทคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงต่อ สตง.ว่ายินดีคืนเงินภาษีกว่า 5 พันล้านบาทนั้น คงไม่มีผลในการสู้คดี เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว การพูดเช่นนี้เท่ากับร้อนตัว เพราะก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะจ่ายภาษี

ปชป.จี้สอบประมูลรถพยาบาล

อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายสิทธิพงษ์ ปึงวงศานุรักษ์ รักษาการ ผอ.กองรับเรื่องร้องเรียน เพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาดำเนินคดีผู้กระทำผิดในโครงการประมูลจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 232 คัน มูลค่า 464 ล้านบาท

โดย นพ.วรงค์กล่าวว่า นำหลักฐานการทุจริตโครงการดังกล่าวที่มีการล็อกสเปกอย่างชัดเจนมามอบให้ ป.ป.ช.เพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.แล้ว แต่คงเอาผิดได้ เพียงแค่ระดับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีใบสั่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถสั่งล้มโครงการและประมูลใหม่ได้ถึง 7 ครั้ง จึงขอให้ ป.ป.ช.เข้ามาไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วย

ชงเปิดกรุสมบัติ ครม.ทักษิณ


นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 6 ต.ค.นี้ สำนักงาน ป.ป.ช.จะเสนอเรื่องการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 207 บัญชี เพื่อขอความเห็นชอบให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวให้สาธารณชนรับทราบ

เรื่องนี้ตกค้างมาตั้งแต่สมัยที่ ป.ป.ช.ถูกพักงานในปี 2548 ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้เตรียมอำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนที่จะไปทำข่าวด้วยการจัดทำเป็นแผ่นซีดีและเอกสารรวบรวมข้อมูลเรื่องบัญชีทรัพย์สินของ พ.ต.ท. ทักษิณและรัฐมนตรี เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปคัดลอกข้อมูลทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในขั้นสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวจำนวน 207 บัญชีนั้น สำนักงาน ป.ป.ช.จะเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่ออนุมัติให้เปิดเผยต่อสาธารณชนทราบในวันที่ 20 ต.ค. ที่อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

ปานเทพ สอนเชิง วีระ

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เรียกร้องให้หน่วยงานตรวจสอบการทุจริตของนักการเมืองเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชนเพื่อความโปร่งใสในการทำงานว่า กฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 15 ระบุว่าให้กรรมการ ป.ป.ช.มีหน้าที่ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส

และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อประธานวุฒิสภา เมื่อเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มี ส.ว. แต่กรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน กำลังทำบัญชีทรัพย์สินเพื่อยื่นต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพียงแต่กฎหมายไม่ได้ระบุว่าจะต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน จึงจะเปิดเผยโดยที่กฎหมายไม่กำหนดไม่ได้ แต่ยืนยันว่า ป.ป.ช.ทุกคนโปร่งใส ถ้ากฎหมายต้องการให้เปิดเผย ก็ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรต้องปิดบัง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์