จักรภพ ชงเด้งฟ้าผ่า ปราโมช

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ก.พ.

นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนายจักรภพให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าได้ลงนามในคำสั่งให้นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในโครงการพัฒนาสถานีโทรทัศน์อาเซียน ที่เป็นงานสำคัญของรัฐบาลที่ต้องรีบเตรียมงาน และผลักดันให้ประสบความสำเร็จให้ทันเวลา ที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียน

โดยจะเริ่ม ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2551 เป็นต้นไป

และให้นายเผชิญ ขำโพธิ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไปก่อน ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีผลทันทีในวันที่ 28 ก.พ. นี้ เป็นต้นไป เพราะนายกรัฐมนตรีได้ลงนามแล้ว โดยเรื่องนี้ไม่ได้นำเข้า ครม.อีก

“ผมไม่กลัวข้อครหาที่เซ็นคำสั่งในช่วงนี้เพราะทุกอย่างมีเหตุผลชัดเจน โครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกรมประชาสัมพันธ์มีมากถึง 12 เรื่อง ผมได้หารือกับผู้บริหารและเพื่อนข้าราชการในกรมประชาสัมพันธ์แล้วในโครงการต่างๆ ทั้งโครงการสถานีกีฬา การปรับปรุงช่อง 11 ซึ่งจะต้องเชิญผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์มาช่วยพัฒนาในแต่ละเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โครงการสถานีโทรทัศน์อาเซียน จึงได้ขอให้ นายปราโมชมาช่วยราชการ ซึ่งโครงการนี้มีหลายเฟส ระยะเวลา 1 ปีครึ่ง หรืออาจจะยาวกว่านั้นก็ได้ และการเซ็นคำสั่งครั้งนี้ ได้คุยกับนายปราโมชในหลักการแล้วว่า โครงการนี้มีความสำคัญและต้องการได้ผู้ใหญ่มาช่วยดู คาดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าการตั้งรักษาการจะไม่มีผลต่อการทำงานของกรมประชาสัมพันธ์ เพราะนายเผชิญจะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและการบริหารเหมือนอธิบดีทุกอย่าง” นายจักรภพกล่าว
 


ปัดไม่ได้เด้งเพื่อเอาใจ “ทักษิณ” 

เมื่อถามว่า คิดว่าข้าราชการส่วนใหญ่จะรับได้ หรือไม่ เพราะ ครม.ทำงานยังไม่ถึง 1 เดือน แต่ย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไป 3 กระทรวงแล้ว นายจักรภพตอบว่า หลายกรณีถือว่าขยับคนช้าเกินไปด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่วางคนและงบประมาณให้งานเดินเร็วที่สุด นี่เป็นวิธีการของเรา ส่วนตัวเชื่อว่าข้าราชการที่รักและหวังดีต่อประเทศทุกคนจะเห็นความจำเป็นในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า เกรงข้อครหาหรือไม่ว่าย้ายเพื่อเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเดินทางกลับมาพอดี

นายจักรภพตอบว่า ไม่เกี่ยวกันเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นประชาชนธรรมดาแล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีอิทธิพลใดๆต่อการตัดสินใจของรัฐบาลชุดนี้ ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเพื่อเผชิญคดีความ และมอบอนาคตตัวเองต่อกระบวนการยุติธรรม
 

“ปราโมช” เลี่ยงคำตอบโดนรังแก


นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่โดนคำสั่งย้ายฟ้าผ่าครั้งนี้ว่า ยังไม่เห็นคำสั่ง เพิ่งทราบจากข่าวที่มีคนโทรศัพท์มาบอก จึงยังตอบอะไรไม่ได้  แต่เราเป็นข้าราชการ มีสายการบังคับบัญชาต้องพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง เมื่อถามว่า  จะดำเนินการยื่นร้องอุทธรณ์คำสั่ง เหมือนกับกรณีของ  นพ.ศิริวัฒน์ ทิพธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ระบุว่าถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ นายปราโมชตอบว่า จะขอสอบถามรายละเอียดก่อนเพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว จะมอบภารกิจอะไรก็ควรมีการบอกกล่าวกัน

ความจริงโครงการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์อาเซียนก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรมเล็กๆ ที่กรมประชาสัมพันธ์ทำอยู่และมีการเตรียมงานกันมาก่อนแล้ว

ส่วนจะมีการร้องอุทธรณ์คำสั่งหรือไม่นั้นอย่าเพิ่งเดินไปสู่จุดนั้น เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าโดนรังแกหรือไม่ เพราะรัฐบาลนี้เพิ่งเข้ามาทำงานก็มีการสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงไปแล้วหลายตำแหน่ง นายปราโมชตอบว่า “สิ่งที่เกิดขึ้น เขามีสิทธิที่จะทำได้อยู่แล้ว ส่วนจะมองว่าถูกรังแกหรือไม่นั้น ก็คงจะเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปมั้ง แต่ตอนนี้ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย”


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์