จตุพรเปิดเอกสารลับกต. ล็อต 2!! ทั้งหมด 9 หน้า ย้ำ ขจัดภัยคุกคาม หมายความว่า ฆ่าทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย

แถลงเปิดเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนที่ 2 จำนวน 4 แผ่น และส่วนที่ 3 จำนวน 5 แผ่น รวมทั้งหมด 9 แผ่น ซึ่งเป็นส่วนต่อจากการเปิดเผยครั้งแรก  3 แผ่น โดยเป็นรายละเอียดและตารางวิเคราะห์เรื่อง "การส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปรามและตอบโต้การกระทำของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน"  อย่างละเอียด โดยจัดหมวดหมู่ตามระดับความรุนแรง 3 ระดับจากน้อยไปมาก


นายจตุพร กล่าวว่า อยากเน้นเรื่อง "มาตรการระดับความรุนแรงมาก" ที่มีทั้งหมด 8 ข้อ

เช่น กำหนดมาตรการห้ามคนไทยเดินทางข้ามแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา ยกเลิกสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทยกัมพูชา ยกเลิกความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางราชการไทย-กัมพูชา เสริมกำลังทางทหารไทยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาทุกจุดให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร ชะลอการพิจารณาเรื่องความร่วมมือไทยกัมพูชาที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และที่อยากให้ความสำคัญคือ มาตรการยกเลิกเอ็มโอยูระหว่างไทยกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน เอกสารระบุข้อดีว่า เป็นการกระทบต่อผลประโยชน์ของผู้นำกัมพูชาและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน สะท้อนให้สังคมเข้าใจว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้นำกัมพูชากับพ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลปัจจุบันที่ต้องการความโปร่งใส ส่วนข้อเสียระบุว่า จะนำไปสู่การเรียกร้องผลักดันในไทยให้ยกเลิกเอ็มโอยูเขตแดนทางบกปี  2543



นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นนี้ทำให้รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีผลประโยชน์ หรือมีหุ้นเดียวในการสัมปทานบ่อก๊าซ และรัฐบาลไทยรู้เช่นกันว่า

ถ้าเกิดยกเลิกเอ็มโอยูปี 2544 จะผลักให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543 ในสมัยรัฐบาลชวนซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร รัฐมนตรีว่าการกระรทรวงการต่างประเทศขณะนั้นได้ลงนามทำให้เสียค่าโง่ในกัมพูชา เพราะเป็นการระบุการปักปันเขตแดนตามแผนที่ฝรั่งเศส ทำให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร   ซึ่งวันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไม่มีการยกเลิกเอ็มโอยู 2544  เพราะถ้ายกเลิกก็เท่ากับว่า ต้องยกเลิกมติครม.ของตัวเอง ถือเป็นการทำผิดมติครม.ตัวเอง  ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมด ถ้าทำตามนี้ประเทศไทยเสียกว่าได้


"เอกสารทั้งหมด 12 หน้านั้นอยู่ในฉบับเดียวกัน มีความต่อเนื่องกัน พวกผมเสียหาย หากปล่อยให้เอกสารนี้เดินหน้าต่อไป การเข่นฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นภัยคุกคามหลัก ที่ต้องขจัด ซึ่งในคำว่า "ขจัด" นั้น วงของกระทรวงการที่เขาพูดกันแล้วมันหมายถึง "การฆ่า" เอกสารนี้จึงสร้างความเสียหายกับประเทศไทยและกัมพูชาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเอกสารนี้ เพราะแต่ละข้อทำให้ประเทศไทยเสียหายทั้งสิ้น" นายจตุพร กล่าว  


นายจตุพร กล่าวว่า เอกสารลับทั้งหมดเป็นแผนต้องการฆ่าพ.ต.ท.ทักษิณ และร่วมทำความรุนแรงเพื่อให้สูญเสียชีวิต

ซึ่งการที่รัฐบาลระบุว่า จะดำเนินคดีกับตนข้อหานำเอกสารลับมาเปิดเผยนั้น ความจริงถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ตนคงไม่ใช้วิธีการแบบนี้ แต่เอกสารนี้ทำผิดกฎหมายมุ่งหมายชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ  แทรกแซงการทำหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้ว่าศาลฎีกาฯจะเลื่อนขอสอบพยานเพิ่ม แต่ก็ชี้ให้เห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายศาล  


"ขอเชิญกระทรวงการต่างประเทศดำเนินคดีกับผมได้ตามสบาย เพราะจากนี้ผมจะดำเนินคดีกับกระทรวงการต่างประเทศ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเหมือนกัน" นายจตุพร กล่าว


เมื่อถามว่า การที่บอกว่า มีการวิเคราะห์จะสังหารพ.ต.ท.ทักษิณหมายถึงวงไหน นายจตุพร กล่าวว่า ในกระทรวงการต่างประเทศบอกเลยว่า

คำว่า "ขจัด" ภัยหลักนั้นก็คือคำว่า "เอนด์เกม" เพราะคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการฆ่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศทนไม่ได้ เพราะหนังสือฉบับนี้ออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ประเด็นเหล่านี้ขะเป็นหนึ่งในหัวข้อการอภิปรายไม่ไว้วางใจและจะนำไปสู่การถอดถอนนายกษิต  ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ด้วย


"กรณีนี้ถึงผมจะไม่ไปแจ้งความ ก็จะมีประชาชนไปแจ้งความอยู่แล้ว โดยจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเรื่องการละเมิดอำนาจศาลและมุ่งร้าย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าอยากจะฟ้องร้องผมก็เชิญ และขอให้เจอกันในคุกกันทั้งสอง จะได้เตะกันสะดวกหน่อย" นายจตุพร กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์