จตุพร-การุณรอดศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์คนละ1ล้านบาท

ศาลให้ "จตุพร-การุณ"ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์คนละ1ล้านบาท ส่วนวิเชียร ขอเลื่อน อ้างติดภารกิจ ตจว. ศอฉ.ขอขยายเวลาคุมตัว"5แกนนำแดง"ต่ออีก7วัน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)  เปิดเผยว่า ตนเองและนายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์คนละ  1 ล้านบาท หลังจากที่เข้ารายงานตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ด้านนายคารม พลทะกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบเงื่อนไขว่าศาลมีคำสั่งต้องห้ามไม่ให้นายจตุพรเเละนายการุณ ทำอะไรบ้าง หลังจากที่ทั้งสองคนได้รับการประกันตัวไปแล้ว  อย่างไรก็ตาม สำหรับการประกันตัวครั้งนี้ เชื่ออยู่เเล้วว่าทั้งสองคนจะได้รับการประกันตัว เพราะไม่ได้มีการหลบหนี เเละเป็นการเข้ามามอบตัวเอง


ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 

โดยพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายนิสิต  สินธุไพร  5 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เป็นครั้งที่ 3 อีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 9  - 15 มิ.ย.นี้ เนื่องจากยังต้องสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการทั้งหลายต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง หรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง ต้องรอผลการตรวจสอบต่าง ๆ ด้วย


ทั้งนี้ศาลได้สอบถามผู้ถูกควบคุมตัวทั้งห้าผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเร้นซ์ ไปยังสถานที่ควบคุมตัว กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี  แล้วไม่คัดค้าน จึงเห็นสมควรอนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวทั้งห้าได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายวีระ มุสิกพงศ์  นพ.เหวง โตจิราการ  และนาย ก่อแก้ว พิกุลทอง   แกนนำ นปช.  ที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นั้น  พนักงานสอบจะยื่นคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวครั้ง ที่ 3  ต่ออีก 7 วันในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.)


เวลา 08.50 น. วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย  ผู้ต้องหาในความผิดร่วมกันหรือใช้ให้ผู้อื่นหรือสนับสนุนการกระทำความผิดอาญาฐานก่อการร้าย เดินทางมาที่ศาลอาญา ตามหมายเรียกของ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ  โดยนายจตุพร ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว สวมสูทสีดำ เนทไทด์สีดำ ขณะที่นายการุณ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว สวมเสื้อสูทสีเทา  เนทไทด์สีน้ำตาล  ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 


นายจตุพร กล่าวเพียงสั้นๆว่า จะให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จเรื่องที่ศาล ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด ประมาณ 10 นาย พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 ประมาณ 50  นาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาล อย่างเข้มงวด


ขณะที่บรรยากาศบริเวณที่ศาลอาญาเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนใส่เสื้อสีแดงและเสื้อหลากสีประมาณ 500 คน เดินทางมาให้กำลังใจกับ นายจตุพร และนายการุณ  โดยถือช่อดอกกุกลาบสีแดงมามอบให้ พร้อมกับปรบมือและตะโกนโห่ร้องเพื่อให้กำลังใจ  และยังคงรอคอยอยู่บริเวณหน้าอาคารศาลอาญา เพื่อรอการปล่อยตัวของแกนนำ นปช.


ต่อมา พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังนายจตุพร พรหมพันธุ์  อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178/47  ซอยลาดพร้าว102 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. และนายการุณ  โหสกุล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 502 ถนน เดชะตุงคะ ซอยเดชะตุงคะ1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.  ต่อศาลครั้งที่ 1 โดยคำร้องระบุว่า ด้วยวันที่ 1 มิ.ย. 53 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ  ตามคดีพิเศษที่ 18/2553 ได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหาและข้อหาให้กับนายจตุพร และนายการุณ ผู้ต้องหาว่า ร่วมกันหรือใช้ให้ผู้อื่นหรือสนับสนุนการกระทำความผิดอาญาฐานก่อการร้ายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 135/1 , 135/2  , 135/3 (การก่อการร้าย)ประกอบมาตรา 83,84,85,86   อันมีความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3ปี - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 – 1,000,000 บาท


เหตุเกิดระหว่างเดือน พ.ย. 2552 ถึง พ.ค. 2553 ที่ กทม. และปริมณฑล  และเขตพื้นที่บางจังหวัดของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน 


ผู้ต้องหาพฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหาเป็นแกนนำหลักบนเวทีชุมนุมของกลุ่มบุคคลแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.  หรือกลุ่มคนเสื้อแดง 

ได้ชุมนุมประท้วง โตแย้ง เคลื่อนไหว เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาโดยเร็ว และมีพฤติการณ์ในการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง ก่อวินาศกรรม มีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดในราชการสงความในการก่อการ้ายหรือตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือประชาชน ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม เพื่อบังคับข่มขู่ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ผู้ต้องหากับพวกๆ ได้สับเปลี่ยนกันบนเวทีชุมนุมปราศรัยปลุกระดม ปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมกระด้างกระเดื่อง เพื่อให้เกลียดชังรัฐบาลถึงขนาดที่จะก่อความสงบหรือล่วงละเมิดกฎหมายเพื่อบังคับข่มขู่คุกคาม ต่อต้านหรือปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐมาหลายครั้ง เช่น  เหตุการณ์บุกรุกรัฐสภา บุกรุกสถานีดาวเทียมไทยคม ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค เหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ หรือเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่สี่แยกคอกวัว หรือบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เผาสถานที่ราชการและเอกชน เผาห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และเผาศาลากลางจังหวัดอีกหลายแห่งจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นว่ามีพยานหลักฐานตามสมควรเพียงพอ จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบดังกล่าว และมีเหตุที่จะขอให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ โดยผู้ต้องหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยและเป็นแกนนำหลักสับเปลี่ยนกันพูดปราศรัยบนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช.  ได้ปลุกปั่น ยุยง ส่งเสริมผู้ชุมนุมให้เกลียดชังรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งกลางเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ หรือมีอาวุธปืนสงครามที่มีความร้ายแรง ก่อวินาศกรรม ก่อเหตุจลาจล เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ห้างสรรพสินค้า ธนาคารต่างๆ รวมทั้งศาลากลางจังหวัดหลายแห่ง จนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ผู้ต้องหาได้ร่วมแรงร่วมใจหรือรู้เห็นเป็นใจ โดยมีเจตนาร่วมกันกระทำผิดอาญาฐานก่อการร้าย

ทั้งนี้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 66 ขณะนี้ไม่อยู่ในระหว่างสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้รับการคุ้มครองเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 131

เนื่องจากการสอบสวนคดีนี้ยังไม่แล้วเสร็จจำเป็นที่จะต้องสอบสวนพยานบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในคดีอีกประมาณ 90 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกจำนวนมาก อีกทั้งมีเหตุผลที่จะให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ตามเหตุผลดังกล่าวไว้ในข้อ 2 จึงขออนุญาตศาลขอฝากขังผู้ต้องหา มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 8 มิ.ย.53 ถึงวันที่ 19 มิ.ย. 53

ท้ายคำร้องยังระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหาขอประกันตัวต่อศาล คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากมีเหตุผลดังกล่าวตามข้างต้นดังกล่าว ประกอบกับผู้ต้องหามีส่วนร่วมในการปลุกปั่น และยุยงส่งเสริมให้ประชาชนก่อความไม่สงบขึ้นหรือกระทำผิดกฏหมายดังกล่าวมาก่อนและสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันยังไม่เป็นที่ไว้วางใจในเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ หากปล่อยตัวไปอาจจะหลบหนีหรือไปก่อเหตุร้านดังกล่าวขึ้นอีก ขอศาลได้โปรดอนุญาตตามคำร้องฉบับนี้ด้วย

ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความของแกนนำ นปช. กล่าวว่า  หากพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องของฝากขังนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล  ก็จะยื่นขอประกันตัวต่อศาล โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 1 ล้านบาท  และใช้ตำแหน่ง ส.ส. ในการยื่นขอประกันตัวต่อศาล  พร้อมยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังเนื่องจากนายจตุพร และ นายการุณ  เคยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษมาแล้ว พร้อมทั้งแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าจะยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วัน อีกทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ข่มขู่พยาน และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง 

นายคารม กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้รับมอบอำนาจจาก นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เป็นวันที่ 21 มิ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. เนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด  ไม่สามารถเดินทางมาพบได้  รวมทั้งการออกหมายเรียกเป็นเวลาที่กระชั้นชิด  หากพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลในการคุมตัวแล้ว นายวิเชียร ไม่สามารถจัดหาหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตนเองได้ทัน  นอกจากนี้การออกหมายเรียกควรจะให้ไปพบที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งการออกหมายเรียกให้มาพบที่ศาลอาญาไม่อาจกระทำได้  อีกทั้งคดีนี้ผู้ต้องหาก็ไม่ได้หลบหนีแต่ไปพบพนักงานสอบสวนเอง และผู้ต้องหาไม่เคยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ  ดังนั้นการที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีเจตนาไม่บริสุทธิ์

อย่างไรก็ตามขณะนี้ศาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอฝากขังดังกล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์