“คุณหญิงหน่อย”ยันไม่เอี่ยวท่อน้ำเลี้ยงแดง

ส.ส.-อดีต ส.ส.ดาหน้าแจงธุรกรรมปกติ “คุณหญิงหน่อย” ยันเงินในบัญชีเกือบ 200 ล้าน ไม่เอี่ยวท่อน้ำเลี้ยงแดง

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีผู้เข้าชี้แจงธุรกรรมต้องสงสัยรอบ 2 ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข ซึ่งเดินทางเข้าชี้แจงธุรกรรมด้วยตนเอง ขณะที่ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย และ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงเพิ่มเติม ส่วน พล.ท.มนัส เปาริก สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตรองแม่ทัพภาค 3 และ นายไพวงศ์ เตชะณรงค์ เจ้าของธุรกิจโบนันซ่าเขาใหญ่ ขอเลื่อนนัดเข้าชี้แจงก่อนกำหนดนัดเดิม ด้านกลุ่ม บริษัท โอเอไอ ได้เลื่อนนัดจากวันศุกร์ที่ 16 ก.ค.โดยส่งทนายความเข้าชี้แจงในวันนี้เช่นเดียวกัน

นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากคุณหญิงสุดารัตน์ นำเอกสารเข้าชี้แจงเกี่ยวกับบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งพนักงานสอบสวนตั้งข้อสงสัย จำนวน 10 บัญชี ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอระบุว่า มีเงินหมุนเวียนประมาณ 160 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงมีกว่า 175 ล้านบาท โดยทุกบัญชีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่ม นปช. และไม่มีการเบิกถอนเงินสดจำนวนมากผิดปกติ และขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังอยู่ต่างประเทศ

ส่วนนายไชยา ยืนยันว่า ช่วงที่มีการชุมนุมของ นปช. ตนเองไม่มีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ แต่ยอมรับว่า ก่อนการชุมนุมมีการเบิกถอนเงิน เพื่อนำไปลงทุนทำสนามฟุตบอล และสโมสรฟุตบอล ซึ่งโดยส่วนตัวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนการมาชี้แจงในวันนี้เชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ร้อยละ 98 คาดว่า ไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายอารี กล่าวว่า ได้นำบัญชีธนาคารพาณิชย์ส่วนตัวของนายอารี มาประกอบการชี้แจง ซึ่งเบื้องต้นสามารถชี้แจงตอบข้อซักถามได้ทุกข้อตามที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อสงสัย อาทิ การซื้อรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ได้ชี้แจงไปว่าได้มาจากการขายรถยนต์คันเก่า ซึ่งขายได้ราคาดีมารวมกับเงินเก็บสะสมส่วนตัว โดยสามารถชี้แจงตัวเลขได้อย่างลงตัว ส่วนเรื่องการถอนเงินสดจำนวนมากในช่วงที่มีการชุมนุมคนเสื้อแดงนั้น ยอมรับว่ามีการถอนเงินจำนวนมากจริง เนื่องจากนายอารี ได้ข่าวว่าจะมีการอายัดบัญชีจึงได้ถอนเงินจำนวนกว่า 1 แสนบาท มาเก็บไว้กับตัว เพื่อใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมการเงินของนายอารี ที่หมุนเวียนอยู่ในบัญชีมีจำนวนหลักล้านบาทเท่านั้น โดยรายได้ที่นายอารี ได้รับ มีทั้งการทำธุรกิจจัดสรรที่ดิน การทำสวนยาง ตลอดจนอาชีพหลักที่นายอารี เคยรับราชการอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 20 ปี อีกทั้ง ยังเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสำนักนายกรัฐมนตรีอีก.