คุก 3 ปี อดีต รมต.-ขรก ช่วย โอ๊ค-เอม ไม่เสียภาษี!!

   คุก 3 ปี อดีต รมต.-ขรก ช่วย โอ๊ค-เอม ไม่เสียภาษี!!

28 ก.ค. 59 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.20 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อท.43/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร , น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดของเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้องเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

บรรยายฟ้องในสำนวน ป.ป.ช. สรุปว่า จำเลยที่ 1-4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่ต้องเสีย และได้รับประโยชน์มิควรโดยชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่หุ้นละ 49.25 บาท ซึ่งทั้งสองคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท จึงทำให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และราชการเสียหาย คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ได้ประโยชน์จากส่วนต่างการซื้อหุ้น จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีส่วนต่าง โดยผลจากการกระทำของจำเลยที่ 1-4 ในการตอบข้อหารือที่ขัดไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อกรมสรรพากร ซึ่งความผิดสำเร็จตั้งแต่การตอบข้อหารือ ขณะที่จำเลยที่ 5 ซึ่งหารือมายังสำนักกฎหมาย แล้วนำคำหารือไปใช้ประโยชน์ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนด้วย จึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-4 มีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 ให้จำคุกคนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 86 ให้จำคุก 2 ปี โดยไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

ต่อมาญาติและทนายความจำเลย ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยจำเลยที่ 1-4 ยื่นหลักทรัพย์เป็นหนังสือรับรองการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ต้องหาคดีของกรมสรรพากร วงเงินไม่เกินคนละ 4.2 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 5 ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท เพื่อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ศาลอาญา อนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งหมด


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์