คำต่อคำ:พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถ้าผมทำเนียนกว่านี้

กรุงเทพธุรกิจ

24 สิงหาคม 2549 18:54 น.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "...หากผมจะทำ ผมจะไม่ทำแบบนี้ จะทำแนบเนียนกว่านี้เยอะ ในชีวิตผมเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร หัวหน้ากองโจร ถ้าผมจะทำท่านนายกรัฐมนตรี ผมรับรองว่าหนีไม่พ้นผมหรอก จริงๆ และผมไม่ทำแบบนี้"

พลันที่เกิดเหตุจับกุมรถยนต์ซุกวัตถุระเบิดป้วนเปี้ยนซอยบ้านพักของรักษาการนายกฯขณะที่คนขับถูกควบคุมตัวและสารภาพว่าไม่รู้เรื่องระเบิดแค่รับจ้างขับรถมาจอดจุดดังกล่าวเท่านั้น แต่รัฐบาลได้พุ่งเป้ามาที่เขา โดยอ้างเหตุผลว่า "ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชนะ" เคยขับรถให้พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี

ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) สวนรื่นฤดี เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2549 พล.อ.พัลลภปิ่นมณี รอง ผู้อำนวยการ กอ.รมน. ออกมารับแจกันดอกไม้จากนายสุเทพ สุวรรณเดโช กรรมการสมัชชามวลชน และนางสุกัญญา เอกวิริยะกิจ ตัวแทนประชาชนมีส่วนร่วมจาก 50 เขตทั่วกรุงเทพฯจำนวนกว่า 200 คน

พล.อ.พัลลภได้กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือภายหลังที่ได้รับทราบคำสั่งปลดออกจากตำแหน่ง รอง ผอ.กอ.รมน.ว่าผมยังมีกำลังใจเต็ม 100% อยู่ผมได้รับตำแหน่ง รอง ผอ.กอ.รมน.นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้มาดูและทำทุกอย่างซึ่งสามารถไปถามนายกรัฐมนตรีได้ ตั้งมาอยู่พรรคไทยรักไทย ไปถามต่อหน้า พล.อ.ถวัลย์แสวงพรรค์ อดีตรอง ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นเพื่อนกับผม

ผมได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีว่าผมเป็นทหารมาตลอดชีวิต ฉะนั้นในชีวิตของผมคิดอยู่สองอย่าง คือ ชาติ และ สถาบัน ผมไม่เคยยึดตัวบุคคล ซึ่งนายกรัฐมนตรีทราบดี และผมไม่เคยคิดยึดติดกับตำแหน่ง ฉะนั้น วันนี้ที่นายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่ง รอง.ผอ.กอ.รมน. ซึ่งเป็นอำนาจของท่านผมไม่ตื่นเต้น และไม่ตกใจ

"ในชีวิตผมคิดอยู่เสมอว่าทำอะไรก็แล้วแต่ผมเสี่ยงชีวิตมาทุกคนก็รู้ว่า ผมเสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศชาติและสถาบันมาตลอด ไม่มีอย่างอื่นเลย และผมห่วงที่สุดวันนี้ คือปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผมรับผิดชอบ สำหรับเรื่อง ร้อยโทธวัชชัย กลิ่นชนะ ผมยอมรับว่าอดีตเคยเป็นคนขับรถของผมสมัยที่เป็นจ่าสิบเอก ขณะที่ผมเป็นเลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และวันนี้เขามาทำงานที่ กอ.รมน. และในข้อเท็จจริงในพื้นที่ภาคใต้ที่ผมเป็นห่วงมากและได้ส่งเขาลงไปเป็นทีมเพื่อปฏิบัติการข่าวลับในภาคใต้ ผมดูว่าทีวีเมื่อสักครู่บอกว่าเขาขับรถวนไปวนมาบริเวณบ้านนายกรัฐมนตรี ผมอยากให้คิดดูว่าคนอย่างผม ถ้าผมจะทำรถบรรทุกระเบิดจะไปวนอยู่ทำไม ถ้าจะวางก็ต้องวางกันไปเลย ฉะนั้น ผมไม่เข้าใจ แต่ผมยืนยันว่าเขารับผิดชอบงานปฏิบัติงานลับในภาคใต้ ส่วนเขาจะไปทำอะไรเป็นเรื่องของเขาเอง และไม่เคยมาปรึกษาผม เพราะงานแบบนี้จะไม่มีการปรึกษากัน"

"...ผมดูทีวีและมีการแถลงข่าวมามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้รถไปวางระเบิด อีกอย่างหนึ่งดูจากการดูสภาพสถานที่ก็ไม่พร้อมที่จะใช้ ถ้าจะไปวางที่เขาว่าจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ และจะไปขับวน 3-4 รอบให้เขาจับทำไมซึ่งผมไม่เข้าใจเหมือนกัน"

เป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่

ถ้าอย่างที่แถลงผมมองว่ามันก็มีเค้า ถ้าคนจะทำอย่างผมจะวางแผนใช้คนให้ขับรถไปวนอย่างนั้นหรือ ถ้าวางก็จะต้องวางไปเลย ฟังดูจากทีวีว่าไปวนเล่น เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่

รู้สึกเสียใจกับการที่นายกรัฐมนตรีปลดออกจากตำแหน่งฐานะที่เคยร่วมงานกันมา

ผมเรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่เคยยึดติด ผมเรียนนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วที่เชิญผมมาอยู่พรรคไทยรักไทยว่า ผมไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง ผมมีอยู่ 2 อย่างคือ ชาติ กับสถาบัน และผมไม่ยึดติดกับตัวบุคคล ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็บอกว่านิสัยเหมือนกัน ในวันนั้น แต่ถามว่าวันนี้เสียใจไหม ผมไม่เสียใจ แต่แปลกใจที่นายกรัฐมนตรีไม่ถามสักคำ

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีเบาะแสที่จะถูกปลดหรือไม่

ก่อนหน้านี้เคยมีเบาะแสในตอนที่พล.ต.จำลองศรีเมือง มาประท้วงรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คนมาถามผมว่า ได้ส่งคนไปรักษาความปลอดภัย พล.ต.จำลองหรือไม่ ซึ่งผมยืนยันว่า ได้ส่งไปเพราะผมดูแลความมั่นคงประเทศ พล.ต.จำลองไม่ใช่ว่าเป็นเพื่อนแล้วส่งไปคุ้มกัน แต่ช่วงที่ พล.ต.จำลองมาประท้วงและเป็นอะไรไป คนที่รับผิดชอบคือตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมมองในแง่นี้ โดยส่งไป 3-4 คนไปดูแล แต่ไม่ได้ส่งไปร่วมประท้วง พล.ต.จำลองกับผมเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ส่งคนไปช่วย เคยส่งไปช่วยตั้งแต่สงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อเขาไม่ปลอดภัยก็จะโทรมาขอกำลังทหารมาคุ้มกันซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วไม่ใช่ครั้งแรก ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับผม

แสดงว่าเป็นโอกาสเหมาะของนายกรัฐมนตรีที่หาโอกาสปลด

ผมคิดว่าจะพูดแบบนั้นก็ได้เพราะผมมองอย่างนั้น เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ถามผมเลย

แสดงว่าไม่ให้เกียรติกันใช่หรือไม่

ที่จริงเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชามีอำนาจที่จะตั้ง ที่จะปลด แต่ผมเสียใจอยู่นิดหนึ่ง ที่ทำงานเสียสละเพื่อประเทศชาติมาตลอด ซึ่งคนก็รู้ สิ่งไหนที่เขาทำกันไม่ได้แล้วส่งผมไปสามารถทำเรียบร้อยทุกที ยกตัวอย่างง่าย ๆ ม้งที่จังหวัดสระบุรี เกือบ 10 รัฐบาลและทำมาเกือบ 20 ปีไม่มีใครทำสำเร็จ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ผมทำ ก็ทำสำเร็จ วันนี้ม้งที่ จังหวัดเพชรบูรณ์เข้ามาอีก 7,000 คนให้คนอื่นรับผิดชอบก็ไม่มีใครทำได้ วันนี้ได้มอบหมายให้ผมไปดูแล ผมเสียใจอยู่นิดหนึ่ง จะย้ายหรือถ้าจะปลดตนไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าควรจะถามผมสักนิดหนึ่งแค่นั้นเอง

ตำแหน่งที่ปรึกษารมว.กลาโหมจะให้เขาปลดออก หรือลาออกเอง

จะต้องดูเหตุผลในเรื่องนี้ก่อนถ้าท่านนายกรัฐมนตรีปลดผม ว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับรถบรรทุกระเบิดคันนี้ ผมก็พร้อมที่จะลาออก แต่ถ้าท่านมีเหตุผลที่ดี ผมก็อยากจะอยู่รับใช้ประเทศต่อไป เพราะผมเป็นห่วงปัญหาภาคใต้ที่เกิดขึ้นมา 2-3 ปีมีทหารบาดเจ็บล้มตายครึ่งหมื่นแล้ว

มองหรือไม่ว่ารัฐบาลต้องการเอาตัวท่านเป็นเหยื่อเพื่อพาดพิงไปถึงบุคคลอื่น

ผมยังไม่ได้มองเพราะเหตุเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อเช้านี้ผมได้เข้าประชุมที่สภากลาโหม และได้รับรายงานจึงได้ออกมาเช็คข่าวว่ามันเกิดอะไรกัน

มองสังคมในขณะนี้ที่เกิดความแตกแยกอย่างไร

อย่างที่เราเห็นกันอยู่ว่ามีการแบ่งเป็นฝักฝ่าย ผมดูแลความมั่นคงก็พยายามประสานงานกับทุกหน่วยให้เข้ากัน แม้แต่ตอนที่มีการประท้วงรัฐบาล พล.ต.อ.ชิดชัยวรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ก็มาตั้งกองอำนวยการในส่วนรื่นฤดี และมานอนกับท่าน และได้พูดคุยกัน และมีการออกข่าวทางทีวี หากผู้ประท้วงไม่พอใจและมาเผาสวนรื่นฤดี คนที่รับผิดชอบคือผมๆ ก็มานอนอยู่ที่นี้ ผมไม่เคยมีความลับไม่เคยปิดบังอะไรผู้บังคับบัญชา เพราะทำอะไรตรงไปตรงมา

ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติมาระบุว่ามีแผนสังหารนายกรัฐมนตรี ทาง กอ.รมน.ได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้หรือไม่

ผมได้ยินแต่ผอ.ข่าวกรองถาม ซึ่งไม่ถึง 3 วันก็เกิดเรื่องขึ้น

มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าและรู้เบาะแสมาก่อนหน้านี้แล้ว

เท่าที่ติดตามถ้าคนที่จะไปวางระเบิดอย่างที่ว่ากัน รถจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำงาน แต่นี่ไม่มีอะไรมีเพียงแต่ดินระเบิด ถ้าคิดจะวางวงจรจะต้องครบ และไม่มีใครบ้าทำ ผมเคยเป็นหัวหน้ากองโจรก็รบในสนามรบมาก่อน ถ้าจะวางจะเที่ยวเอารถไปวนเล่นให้ตำรวจเขาจับหรือ รถจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมทำงาน แต่นี่ไม่อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน

ร.ท.ธวัชชัยมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่

ผมไม่รู้เพราะต่างคนต่างอยู่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการสร้างสถานการณ์ใช่หรือไม่

ผมยืนยันไม่ได้แต่จากประมวลเหตุการณ์มันเป็นไปไม่ได้ที่จะลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ผมทำงานอยู่อย่างนี้จะไปทำอะไรท่าน เรื่องการต่อสู้ เรื่องการแตกแยกเป็นเรื่องทางการเมือง ผมดูแลด้านความมั่นคง หากผมจะทำ ผมจะไม่ทำแบบนี้จะทำแนบเนียนกว่านี้เยอะ ในชีวิตผมเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร หัวหน้ากองโจร ถ้าผมจะทำท่านนายกรัฐมนตรี ผมรับรองว่าหนีไม่พ้นผมหรอก จริง ๆ และผมไม่ทำแบบนี้ เรื่องนี้จะต้องถาม ร.ท.ธวัชชัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ แต่ผมได้ส่ง ร.ท.ธวัชชัยไปทำงานข่าวลับในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ 3-4 เดือนมาแล้วเพราะในพื้นที่ภาคใต้ กอ.รมน.ยังรับผิดชอบอยู่มีชุดทักษิณพัฒนาอยู่ 10 ชุดและชุดสันตินิมิต มวลชนสัมพันธ์ และข่าวลับอีก 20 ชุดที่ทำงานในพื้นที่ภาคใต้

มีความพยายามปล่อยข่าวว่าการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ไม่ทราบแต่ข่าวที่ ผอ.ข่าวกรองบอกว่าจะมีระเบิดพลีชีพ เป็นคนละเรื่องกัน แต่ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะของการขนย้ายไม่พร้อมที่จะทำงาน ทั้งนี้ ผมยังไม่ได้ติดต่อ ร.ท.ธวัชชัยตั้งแต่เกิดเรื่อง อย่างไรก็ตาม ร.ท.ธวัชชัยไป ๆ มาๆ ส่วนใหญ่ 15 วันจะพักหนึ่งครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจอกับ ร.ท.ธวัชชัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อยากฝากอะไรไปถึงนายกรัฐมนตรี

ไม่มีอะไรเมื่อเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา ฉะนั้น ท่านจะตั้ง หรือปลด เป็นอำนาจของท่าน เพราะผมเป็นคนไม่ยึดติด

การปลดท่านครั้งนี้เป็นธรรมหรือไม่

(พล.อ.พัลลภยังไม่ทันได้ตอบ แต่ได้มีเสียงของมวลชนร้องตอบแทนว่า "ไม่เป็นธรรม ๆ") อยู่ในอำนาจของผู้บังคับบัญชา ผมไปวิจารณ์อะไรไม่ได้

อนาคตทางการเมืองต่อไป

หากไม่ทำงานก็จะไปเล่นกอล์ฟเพราะผมอายุ 70 ปีแล้ว

ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการหลอกใช้หรือไม่ที่ให้ช่วยทำงานเพื่อชาติ

ผมไม่คิดแบบนี้เพราะถือว่าทุกอย่างที่ผมทำงาน คือทำงานเพื่อชาติ และสถาบัน เพียง 2 อย่าง

เกียรติภูมิที่สูญเสียจากการถูกปลดจะเรียกร้องคืนมาหรือไม่

ไม่ใช่เกียรติภูมิแต่เป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าถามผมว่าเสียเกียรติหรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่ ก็เหมือนกับเหตุการณ์ที่ พล.ต.ชวลิตยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เคยปลดผมครั้งที่ปฏิบัติการที่มัสยิดกรือเซะ ผมไม่เคยโกรธ เพียงแต่น้อยใจว่าท่านปลดไม่ถามผมสักคำเลย ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกันเหตุการณ์คล้ายกัน

ไม่มีอะไรกับท่านนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่

ไม่เคยมีอะไรกับใครโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องผม ไปถามนายทหารทุกคนได้ ว่าผมรับราชการทหารมามีลูกน้องอยู่ทั่วประเทศไทย กอ.รมน.มีอยู่7,000 - 8,000 คน ด่าใครแล้วจบ ไม่เคยอาฆาตลูกน้อง ฉะนั้น การพูดในวันนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นเตรียมทหารรุ่นน้องไม่มีอะไร คิดง่าย ๆ ผมจะไปทำอะไรท่าน เพราะท่านเป็นผู้นำประเทศ เรื่องการเมืองก็ว่าไปตามการเมืองทะเลาะกันทางการเมือง แต่ผมดูแลด้านความมั่นคง

ถ้าได้กลับไปทำงานจะกลับไปหรือไม่

ถ้ากลับไปทำงานให้กลับประเทศชาติก็จะกลับ แต่ถ้าจะกลับไปทำงานให้ตัวบุคคลก็จะไม่กลับ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์