คำต่อคำ:´วิษณุ´เปิดใจลาออก ให้ปริศนาทุกอย่างเป็นไปตามกรรม

กรุงเทพธุรกิจ

22 มิถุนายน 2549 15:39 น.
(Update)´วิษณุ เครืองาม´ เผยบอกนายกฯ ขอลาออกแล้ว แต่ขอทำภารกิจอีก1 อย่างให้เสร็จก่อน ระบุคงไม่ถึงเดือน และตัดสินใจครั้งนี้ไม่เสียใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม อย่าคิดอะไรมาก อนาคตไม่เล่นการเมืองแน่ขอกลับไปสอนหนังสือ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้(22 มิ.ย.) -- เมื่อเวลา 08.50น. นายวิษณุ เครืองาม รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว มีรายละเอียดดังนี้

วันนี้ เอาเป็นว่าผมยังอยู่และยังมาทำงาน และถ้าตามข่าวเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นก็จะรู้ เพียงแต่สื่อมวลชนพยายามให้ผมพูด ซึ่งโดยหน้าที่ความรับผิดชอบบางอย่าง และสิ่งที่เรียกว่ามารยาททางการเมือง ชั่วดีมีจน ก็ขอมีตัวนี้อยู่บ้าง ผมจึงยังไม่สามารถที่จะพูดตอนนี้ได้

เอาเป็นว่าผมยังมาทำงานตามปกติ แต่เมื่อไหร่ที่ไม่เจอผม ผมไม่เจอคุณก็ต้องบอกให้รู้ก่อน วันนี้ขอร้องว่าให้ฟังผมพูด อย่าไปฟังที่คนอื่นพูด เพราะคนอื่นที่อยากพูดแทนผมมีเยอะ ผมยังไม่ได้ยื่น เพียงแต่บอกท่านนายกฯ ไว้นานแล้ว

ถาม : ได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงการลาออกแล้วหรือไม่

ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ยอมรับว่าได้บอกกับนายกรัฐมนตรีมานานแล้ว ซึ่งนายกฯ ก็เข้าใจ แต่วันนี้ผมก็ยังมาทำงานอยู่ เพราะยังมีภารกิจบางประการ ซึ่งยังไม่เสร็จผมก็ไม่ควรพูด แต่เมื่อภารกิจเสร็จแล้วก็พูดได้

ถาม : ภารกิจนั้นคืออะไร

ภารกิจดังกล่าวเป็นเรื่องของทางราชการ ไม่มีอะไรลึกลับใต้ดินอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ใช่งานใหญ่เป็นงานที่ยังค้างคาอยู่อีก 1 งาน ซึ่งถ้าปล่อยให้คาราคาซังมีอะไรเกิดขึ้น หรือเกิดความเสียหายในขณะที่ตนไม่อยู่ ก็กลายเป็นว่าตนทำเรื่องคาไว้

คำว่ารัฐบาลอาจจะใช่ แต่พอเอ่ยถึงรัฐบาลก็มักไปนึกถึงคณะรัฐมนตรี องค์กรทางการเมือง เอาเป็นว่างานนี้เป็นงานที่ผมทำอยู่ก่อน ซึ่งถ้ากลับไปดู 1 เดือนที่ผ่านมา ผมทำอะไรพวกเราก็จะรู้ เพราะยังไม่เสร็จยังต้องเคลียร์อีกมาก

ถาม : ภารกิจดังกล่าวคืออะไร

ในระบบชีวิตราชการที่มีอะไรบางอย่างที่ไม่สมควรพูด ซึ่งภารกิจที่คั่งค้างอยู่นี้ เกี่ยวข้องกับตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีคนหนึ่ง จึงต้องยังทำหน้าที่อยู่ การตัดสินใจลาออกครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ว่าอะไรและปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผมเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อผมไปก็ต้องลา มาก็ต้องไหว้ ก็ได้มีการพูดจากันท่านก็เข้าใจดี

กระแสข่าวลาออกที่เกิดในช่วงนี้ ก็เพราะสื่อมวลชน และอาจเป็นไปได้ที่มีคนอื่นออกมาพูดก่อน แล้วสื่อมวลชนก็นำเสนอ แต่ผมเชื่อว่าคนใกล้ชิดผมไม่ใช่คนที่ออกมาพูด

ถาม : สาเหตุที่ทำให้ถอดใจลาออกครั้งนี้คืออะไร

อย่าใช้คำว่าถอดใจ

ถาม : การตัดสินใจลาออก เป็นเพราะเรื่องบ้านเมืองและความอึดอัดในการทำหน้าที่ใช่หรือไม่

ผมไม่พูดครับ ผมอยู่กับทำเนียบฯ ติดต่อกันมา 15 ปี และมาทำงานทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ อยู่มา 10 รัฐบาล 7 นายกฯ ซึ่งพออยู่ๆ มาก็มีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ผมไม่เคยพูดว่ารัฐบาลที่แล้วเป็นอย่างไร และสมมติว่าผมต้องไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะมาบอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นบางคนเขาพูดได้ แต่บุคลิกคนไม่เหมือนกัน

ถาม : มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำมาถึง 15 ปี แล้วมาตัดสินใจลาออกในช่วงที่รัฐบาลกำลังมีปัญหา แสดงว่าเกิดข้อขัดข้องอะไรหรือไม่

ก็เห็นใจและเข้าใจ เพราะฉะนั้น ผมจึงพยายามไม่ทำให้เรื่องอึกทึกครึกโครม เกินกว่าเหตุ มีบางคนเขาบอกว่าให้ผมรับผิดชอบข่าวในช่วงนี้เพราะหุ้นกำลังตก ซึ่งถ้าเป็นจริงผมยิ่งเดือดร้อนใหญ่ เพราะไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะไปคิด ผมจึงพยายามทำให้เรื่องมันสงบ เงียบเรียบร้อย แต่อยู่ดีๆ จะให้ผมหายไปเฉยๆ ไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจะพูด

เมื่อยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว ผมก็จะพูดรายละเอียด เพราะอยู่ดีๆ เจอกันทุกวัน 15 ปีแล้ว ผมหายไปไม่เจอกลายเป็นคนโดนสึนามิสาบสูญไปคงไม่ได้ ก็ต้องพูดชี้แจงแน่นอน โดยจะมายืนพูดหน้าตึกบัญชาการเหมือนการให้สัมภาษณ์ทุกวันนี้

ถาม : แสดงว่าชัดเจนแล้วถึงการลาออกแต่รอเวลาที่เหมาะสมใช่หรือไม่

เออ...ใช่ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่โทษตัวเองหรืออะไรทั้งสิ้น กมมนา วตกีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จะคิดอะไรมาก

ถาม : แสดงว่ารัฐบาลไปก็จะไปด้วยใช่หรือไม่

ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคงไม่ต้องมายืนพูดอย่างนี้ จะมาพูดหาอะไร

ถาม : จะทำงานจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ใช่หรือไม่

ผมยังยืนยันในคำพูดเดิมไม่มีอะไรปกปิดหรือปิดบัง เมื่อเกิดความชัดเจนซึ่งก็คงเร็วๆ นี้ ผมจะพูดให้ทราบ

ถาม : กำหนดความชัดเจนได้หรือไม่ว่าจะใช้เวลาอีกเท่าไหร่

ไม่เป็นเดือนหรอก ถ้าเป็นเดือนจะมานั่งพูดกันทำไม

ถาม : เสียใจหรือไม่กับการตัดสินใจครั้งนี้

ไม่ และแย่มาก ถ้าผมลุกขึ้นตอบว่า ผมเสียใจ ซึ่งเมื่อจบและผมพูดพวกคุณก็คงจะเข้าใจ ว่าผมคิดอะไร วันนี้ไม่อยากให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่

ถาม : ตลอดเวลาที่ผ่านมา ของการทำงานได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องหรือไม่

ให้คนอื่นตัดสิน เพราะเราเป็นอย่างไรก็รู้อยู่แก่ใจ

ถาม : ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย และอนาคตจะเล่นการเมืองหรือไม่

ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ไม่เคยเป็น และก็จะไม่เป็น อนาคตก็จะไม่เล่นการเมือง ไม่ว่ากับพรรคการเมืองใดก็ตาม ส่วนจะกลับไปสอนหนังสือหรือไม่นั้นยังไม่ขอตอบ เพราะหากไม่ใช่จะกลายเป็นว่าผมพูดเท็จ แต่ความตั้งใจที่จะสอนหนังสือมีอยู่ เพราะชีวิตทุกวันนี้ก็สอนหนังสือมาโดยตลอด ความตั้งใจของตนหลังยุติบทบาทก็จะไม่เล่นการเมือง

ต่อมา นายวิษณุให้สัมภาษณ์อีกครั้งในช่วงบ่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้

"อย่าเพิ่งเซ้าซี้ ขอโทษจริงๆ ไม่อย่างนั้นเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่ผมควรจะอยู่ในกรอบหรือมารยาทที่จะกลายเป็นไม่มีมารยาท เอาเป็นว่าผมไม่ได้อยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน ผมมีเรื่องที่จะต้องทำและในการปฏิบัติราชการแน่นอนว่าต้องมีความโปร่งใส แต่ต่างกันคำว่าล่อนจ้อน ดังนั้นบางทีก็พูดอะไรไม่ได้ บางครั้งก็ต้องปิด อย่าเพิ่งไปพูดว่าผมจะทำอะไรแต่ยืนยันว่าสิ่งที่รอทำเป็นเรื่องราชการแน่นอน ผมไม่ได้อยู่เพื่อนั่งพัก หรือรายเช็คอะไร ให้เสร็จ มันไม่ใช่อย่างนั้นและนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ถามอะไร ผมแจ้งให้ท่านทราบก่อนหน้านี้เป็นเดือนแล้ว ท่านก็บอกว่าให้ไปคิดดูดีๆ ก็แล้วกัน ว่าทำอย่างไรให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง รัฐบาล เพราะเราอยู่กันเป็นหมู่คณะ รวมทั้งต้องคำนึงถึงประเทศเป็นสำคัญ"


ถาม : ว่าการที่ฝ่ายกฎหมาย มือ 1 และมือ 2 ของรัฐบาล คือ พระบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และ นายวิษณุ เป็นการส่งสัญญาณอะไรให้รัฐบาลหรือไม่

คำถามนี้อันตรายมากเลย คงตอบไม่ได้ต้องไปถามคนอื่น ตนไม่รู้ใครเป็นที่1 และ2 พระบวรศักดิ์ อาจเป็นที่ 1 ก็ได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์