คลังสรุปปิดบัญชีจำนำข้าว “ปู”ทำเจ๊งยับ! 4โครงการวอด5.1แสนล้าน

คลังสรุปปิดบัญชีจำนำข้าว “ปู”ทำเจ๊งยับ! 4โครงการวอด5.1แสนล้าน

คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง แถลงสรุปผลขาดทุนโครงการจำนำข้าว 15 โครงการ
 
ตั้งแต่ปี 2547-2557 พบขาดทุน 6.82 แสนล้านบาทเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวแถลงผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2547 จนถึงกรอบการปิดบัญชีวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 รวม 15 โครงการ จำนวนข้าว 85 ล้านตันพบว่า มียอดขาดทุนอยู่ที่ 6.82 แสนล้านบาท จากการใช้เงินรับจำนำข้าวทั้งสิ้น 1.1 ล้านล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายข้าวอยู่ที่ 3.7 แสนล้านบาท รายจ่ายอยู่ที่ 1.05 แสนล้านบาท


ทั้งนี้ ในส่วน 15 โครงการ เป็นผลขาดทุน 11 โครงการแรกสมัยก่อนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 1.63 แสนล้านบาท

 และผลขาดทุนจากการรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท ใน 4 โครงการหลังสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์จำนวน 5.19 แสนล้านบาท สำหรับผลขาดทุนจำนำข้าวที่เกิดขึ้นนั้น รวมค่าบริหารจัดการ ค่าดอกเบี้ยและค่าเสื่อม ซึ่งคิดในปีแรก 10% ปีที่สอง 20% ปีที่สาม 30%และปีที่สี่ 40% ซึ่งจะคิดค่าเสื่อมเพียง 4 ปีเท่านั้น โดยผลขาดทุนจากค่าเสื่อมล่าสุดอยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท ข้าวเหลือตามบัญชีอยู่ 19.2 ล้านตัน คิดตามราคาตลาด มีมูลค่า 2.25 แสนล้านบาท

นายรังสรรค์กล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นการปิดทางบัญชี ไม่มีการปิดตามสภาพคงเหลือของข้าวที่แท้จริง

หลังจากนี้ ถ้ารัฐบาลส่งข้อมูลสต๊อกข้าวที่ตรวจสอบล่าสุดมาให้ จะนำมาประกอบการปิดบัญชีรอบใหม่ที่คิดจนถึงวันที่ 30 กันยายนว่าข้าวเสื่อมหรือหายไปเท่าใด โดยในกรณีของข้าวหายจะตัดเป็นผลขาดทุนทันที ส่วนการแก้ปัญหาภาระค่าใช้จ่ายจากโครงการรับจำนำข้าว ต้องหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันการเงิน และฝ่ายนโยบายว่าจะตั้งงบประมาณใช้คืนเท่าไร หรือจะออกมาในรูปของพันธบัตรมาใช้หนี้ทีเดียว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ก่อนหน้านี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การใช้หนี้ที่เกิดจากเงินกู้ในโครงการรับจำนำข้าว 6.67 แสนล้านบาท

 เป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันให้ ธ.ก.ส. จำนวน 4.67 แสนล้านบาท และใช้เงินจากสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. 2 แสนล้านบาท มีต้นทุนเงิน 3% ต่อปี ที่ผ่านมา 2 ปี กระทรวงการคลังต้องจ่ายดอกเบี้ยในส่วนที่ค้ำประกัน 4.67 แสนล้านบาท ซึ่งจ่ายไปแล้ว 2.4 หมื่นล้านบาท


วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นำโดย นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง เข้าขอคัดสำนวนคำร้องคดีถอดถอนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว หลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยนายนรวิชญ์กล่าวว่า สำนวนข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์มีทั้งหมด 10 แฟ้ม จำนวน 3,870 หน้า เป็นเอกสารลับทั้งหมด จึงไม่สามารถถ่ายสำเนาเอกสารไปได้ ต้องมาอ่านและจดบันทึกสำนวนกลับไปศึกษารายละเอียดว่ามีเอกสารและสำนวนอะไรบ้าง มีพยานกี่ปาก เพื่อให้เข้าใจข้อกล่าวหาทั้งหมด จากนั้นจะนำกลับไปหารือน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อเตรียมเรื่องการเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ที่จะเข้าชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.

“ปู”อาจมาแถลงเปิดคดีเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาชี้แจงวันแถลงเปิดคดีด้วยตัวเองหรือไม่

นายนรวิชญ์กล่าวแบ่งรับแบ่งสู้ว่า มีแนวโน้มสูงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาแถลงเปิดคดีด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวว่าทำเพื่อช่วยเหลือชาวนาจริงๆ แต่การประชุม สนช.นัดแรกวันที่ 28 พฤศจิกายนไม่เกี่ยวกับผู้ถูกกล่าวหา เป็นเรื่องของสนช.ที่ประชุมเพื่อพิจารณากำหนดวันแถลงเปิดคดีและโต้แย้งการเปิดคดี รวมถึงพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ คงต้องขอดูสำนวนก่อนว่าจะโต้แย้งประเด็นใดบ้าง แต่ถ้ายื่นเพิ่มจะเป็นพยานหลักฐานในส่วนเอกสาร เป็นสำนวนปากคำที่เคยส่งให้ ปปช. แต่ถูกตัดออก

เมื่อถามว่าจะขอเลื่อนระยะเวลาการพิจารณาออกไปอีกหรือไม่
 
นายนรวิชญ์กล่าวว่า ไม่อยากคิด เพราะขอเลื่อนประชุมนัดแรกไปเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน ก็เป็นความกรุณาของสนช.แล้ว แต่จะทำให้ดีที่สุด เชื่อว่าทีมทนายสามารถศึกษาตรวจสำนวนคดีเสร็จทันเปิดประชุมนัดแรกวันที่ 28 พฤศจิกายน


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์