นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาน้ำมันแพงส่งผลกระทบทำให้เงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้น
เดือนเม.ย.ที่ผ่านมาไทยเพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ 6.2 ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ร้อยละ 8.5 ประเทศอินโดนีเซีย ร้อยละ 9 เมื่อน้ำมันแพงประกอบกับความต้องการบริโภคพืชอาหารมีสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงตาม ประเด็นนี้นับเป็นวิกฤติที่สร้างโอกาสแก่เกษตรกร โดยแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลได้พยายามหาทางเพิ่มรายได้ในภาคส่วนต่างๆ ด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันส่งเสริมการประหยัดพลังงานในรูปแบบพลังงานทดแทนต่างๆ ทั้งไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ ไบโอก๊าซ ระบบไฮบริดจ์ ยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะไปอุดหนุนราคาพลังงาน เพราะการอุดหนุนอาจทำให้เกิดการส่งสัญญาณที่ผิด และไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง จะเห็นได้จากหลายประเทศได้ยกเลิกการอุดหนุนไปแล้ว ขณะเดียวกันในเรื่องพืชต่างๆ ได้ทำแผนที่จะส่งเสริมระบบชลประทาน ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อถึงด้านภาคขนส่งว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะลดต้นทุนภาคการขนส่งต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 18-19 ของจีดีพี ให้เหลือร้อยละ 8-9 ภายใน 5 ปีข้างหน้า แผนดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากการที่รัฐบาลส่งเสริมการขนส่งระบบรางอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าและการปรับระบบโลจิสติกส์มาใช้ระบบรางมากขึ้น
ด้าน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในการเสวนา "พลังงานอาหารแพง วิกฤติหรือโอกาสประเทศไทย” วันเดียวกัน ว่า
ราคาน้ำมันอาจจะอยู่ในระดับสูงอย่างยาวนาน แม้วันนี้ราคาน้ำมันจะดิบเฉียด 130 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่หากดูราคาล่วงหน้าเดือน ก.พ.2552 ราคาแตะ 130 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ไปแล้ว และปี ค.ศ.2016 จะเฉลี่ยที่ 138 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ประเด็นหลักมาจากความต้องการและกำลังการผลิตที่พบว่า ปัจจุบันนี้โลกมีปริมาณสำรองที่คงที่ หรือมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ความต้องการน้ำมันของโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การที่ราคาน้ำมันแพงในช่วงนี้ก็นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่แพงวันนี้อนาคตโลกก็ต้องเผชิญภาวะที่แพงเช่นกัน และเป็นโอกาสที่ทั่วโลกจะส่งเสริมมีการวิจัยพลังงานทดแทนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยในฐานะประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าน้ำมัน การปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาดเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันต้องส่งเสริมเรื่องการประหยัดพลังงาน การหาพลังงานทดแทนและการทำวิจัยและพัฒนา
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวต่อถึงราคาก๊าซธรรมชาติ ว่า
เห็นได้ชัดว่าจากการตรึงราคาในปีนี้ ทำให้ยอดการใช้พุ่งสูงขึ้น หวังว่ารัฐบาลจะปรับราคาตามที่ประกาศไว้ในเดือนก.ค.นี้ เพราะการที่ตรึงราคาไว้นอกจากคนไทยจะแบกภาระการชดเชยแล้วของคนไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยประเทศเพื่อนบ้าน เพราะราคาก๊าซในประเทศขนาด 15 กิโลกรัม/ถัง ราคาในประเทศประมาณ 300 บาท แต่ในประเทศกัมพูชาราคาอยู่ที่ 1,000 บาท/ถัง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
