ครม.ยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 เดือน - ชิดชัย หนุน ม.266 ตีความเปิดสภา

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2549 14:42 น.

ครม.มีมติเห็นชอบขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดใต้ ถึง 20 ก.ค. ชิดชัย เชื่อยื่นศาล รธน.ตีความมาตรา 266 ให้เปิดสภาฯ ไม่มีปัญหา อ้างอะไรที่ทำเพื่อบ้านเมืองสงบสุขทำได้ทุกเรื่อง ระบุรักษาการนายกฯ สามารถเซ็นโยกย้ายโผทหารแทน แม้ว ได้ พร้อมจี้หน่วยงานเร่งจับโกงรถ-เรือดับเพลิง กทม. หลังผลไม่คืบหน้า

วันนี้ (18 เม.ย.) พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน โดยสิ้นสุดการบังคับในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ส่วนการหาทางออกในการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกนั้น พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ครม.ไม่มีหารือแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รักษาการรองนายกฯ ระบุว่าการเปิดสมัยประชุมจะต้องใช้ตัวเลข ส.ส.500 คนเป็นหลักจะทำให้ตนยังคงรักษาการนายกฯ ต่อไปโดยไม่มีกำหนดหรือไม่นั้น ไม่ทราบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากจะให้ความเห็นในเรื่องนี้ก็ต้องขอเปิดดูรัฐธรรมนูญก่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่าหากจะให้มีการตีความไม่ให้บ้านเมืองสะดุดเชื่อว่าสามารถทำได้ทุกเรื่อง ขึ้นอยู่กับว่าจะตีความแบบไหน

ขณะนี้ในฐานะรักษาการนายกฯ ยังไม่ได้มีการหารือกับนายสุชน ชาลีเครือ (รักษาการประธานวุฒิสภา) ในประเด็นการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตามมาตรา 266 ในรัฐธรรมนูญ แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ส่วนตัวเชื่อสภาเปิดได้อยู่แล้ว รวมทั้งกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เอาข้อกฎหมายมาโต้แย้งโดยเฉพาะยืนยันให้ใช้มาตรา 7 ในรัฐธรรมนูญนั้น ประเด็นนี้ต้องหาเวลาอ่านก่อน เพราะเรื่องนี้มีหลายคนออกมาพูดกันมากแล้ว ไม่อยากตอกย้ำ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว

รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสอบสวนการทุจริตโครงการรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครว่ายังไม่ทราบรายละเอียด แม้จะมีข่าวว่ามีการนำผลสอบสวนเข้าไปในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วก็ตาม ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ตนก็เร่งรัดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าก่อนสอบสวนก็จะคืบหน้า

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ชิดชัย ได้กล่าวถึงโผแต่งตั้งและโยกย้ายนายทหารระหว่างปี 2549 ว่า ตนยังไม่ทราบ ต้องไปถามนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่วนผู้ที่มีอำนาจในการลงจะเป็นใครระหว่างตนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ต้องให้นายบวรศักดิ์ตรวจสอบดู แต่รักษาการนายกฯ ก็สามารถลงนามได้ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อใดนั้นต้องขอตรวจสอบดูก่อน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 เมษายน 2549 01:53 น.

ทรท.ส่อแววถอดใจเลือกตั้งรอบสองภาคใต้ แกนนำพาเหรดงดเดินสายช่วยว่าที่ผู้สมัครหาเสียง ระบุผลการเลือกตั้งส.ว.พลิกความคาดหมาย อัดว่าที่ส.ว.โหนกระแสม็อบพันธมิตร อาศัยเวทีที่ออกมาจุดกระแสไล่"แม้ว"ใช้ประโยชน์ในระยะหลัง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้ หลังจากได้รับมอบหมายจากพรรคให้ดูแลร่วมกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานดูแลการเลือกตั้งภาคใต้ ว่า จะไม่ลงไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง เพราะในพื้นที่ภาคใต้ เราได้มีประธานภาคใต้คอยดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้งอยู่แล้ว คือนายวันมูหะมัดนอร์ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องลงไปอีก

ทางด้านนายกณพ เกตุชาติ ผู้สมัครส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 พรรคไทยรักไทย ซึ่งลงสมัครเพียงคนเดียว กล่าวว่า กำลังเร่งหาเสียงในพื้นที่ เพราะต้องสู้ให้ชนะ 20 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ โดยบรรยากาศในพื้นที่ของตนรู้สึกว่าดีขึ้นกว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะความกดดันต่างๆทางการเมืองทุเลาลง การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ไม่มีแล้ว

ส่วนในเขตอื่นๆ ของภาคใต้นั้น เท่าที่ตนทราบข่าวมาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยหลายเขตก็ทำท่าเหนื่อยใจ เพราะต้องแข่งขันกับตัวเอง หลายคนก็บ่นว่าใจคอไม่ดี เนื่องจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ก็สอบไม่ผ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยบางคนบอกว่ามีคู่แข่งดีกว่าลงแข่งขันคนเดียว

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งส.ว.กทม.อย่างไม่เป็นทางการหลังปิดหีบเลือกตั้ง ว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาอาจบางส่วนที่พลิกความคาดหมาย แต่ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติของการเลือกตั้งในพื้นที่กทม.ซึ่งคนกทม.เป็นคนที่อ่านใจยาก ผลการเลือกตั้งในอดีตที่ผ่านมาก็สะท้อนให้เห็นว่าช่องว่างคะแนนของว่าที่ส.ว.แตกต่างกันมาก หากไม่ได้เป็นบุคคลที่มีฐานเสียงส่วนตัว เช่น อดีตนักการเมือง คะแนนก็อาจพลิกได้ตลอดเวลา

ในส่วนของนายศิริ หวังบุญเกิด อดีตส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย และนายทวี ไกรคุปต์ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ล่าสุดคะแนนอย่างไม่เป็นทางการระบุว่าไม่ติดอันดับ 18 ว่าที่สว.กทม.นั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ส่งนัยทางการเมืองใดๆ เช่นเดียวกับนายธนา เบญจาธิกุล อดีตทนายความส่วนตัวของนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย แม้จะเคยทำกิจกรรมเกี่ยวกับพรรคไทยรักไทย แต่ก็ถือว่าได้ลงสมัครในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการใน 5 อันดับแรก มีชื่อของผู้สมัครที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับฝ่ายพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยนั้น คิดว่าคนกทม.ต้องการส่งสัญญาณบางอย่างมายังพรรคไทยรักไทยหรือไม่ รองโฆษกพรรคไทยรักไทยตอบว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะวันนี้ทุกคนรู้ดีว่าหลังปฏิรูปการเมืองแล้วอำนาจของสว.ก็อาจไม่เหมือนเดิม และไม่รู้ว่าสว.จะมีอำนาจเหมือนที่เคยมีหรือไม่

ดังนั้นการเข้ามาของสว.จึงไม่น่าเกี่ยวข้องกับภาพรวมทางการเมืองทั้งหมด ส่วนตัวมองว่าพฤติกรรมการเลือกตั้งของคนกทม.เองมักเป็นไปตามกระแส เห็นได้ชัดว่าการเลือกตั้งสว.กทมบางส่วนในครั้งนี้ เกิดจากความอ่อนไหวต่อกระแสที่มีการปลุกระดมขึ้นมา ผู้สมัครสว.กทม.ที่ติดอันดับต้นๆหลายคน ก็ได้ไปร่วมเคลื่อนไหวปรากฏกายต่อหน้าชุมชน อาศัยเวทีของกลุ่มพันธมิตรที่ออกมาจุดกระแสไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ประโยชน์ในระยะหลัง ขณะที่บางคนก็มีรายการทีวีง่ายต่อการจำของประชาชน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความได้เปรียบส่วนตัวไม่น่ามีนัยทางการเมือง

ด้านนายภิมุข สิมะโรจน์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยจะทำการจัดประชุมสามัญประจำปีในวันที่ 24 เม.ย.นี้ โดยได้ทำการจองเวลาและแจ้งกับทางกกต. รวมทั้งได้ประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์ไปแล้ว โดยเนื้อหาสาระจะเป็นไปตามที่กกต.กำหนด คือการรับรองงบดุล แต่จะไม่มีวาระของการเลือกผู้บริหารพรรค เพราะกรรมการบริหารพรรคจะอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี ซึ่งปีที่ผ่านมาเพิ่งดำเนินการแต่งตั้งไป

ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะร่วมประชุมและพูดคุยกับสมาชิกในวันดังกล่าวด้วย สำหรับในวันที่ 25 เม.ย.นั้น ทางกองงานโฆษกพรรคได้รับการประสานจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่าจะทำการแถลงข่าวชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานประกอบการแถลงข่าว