ครม. ´ไฟเขียว´ รื้อฟื้นศอ.บต. เริ่มต้น พ.ย.นี้

"แก้ปัญหาภาคใต้"


จากกรณีรัฐบาลจะรื้อฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 24 ต.ค. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาถึงศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยการปฏิบัติงานของศูนย์ ดังกล่าวจะเป็นการทำงานและประสานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม คาดว่า ศอ.บต.จะเริ่มดำเนินการได้ในต้นเดือน พ.ย.นี้ นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้หารือถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะเปิดโอกาส ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น และได้หารือกัน เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะได้ ดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนนี้

"นำคณะลงใต้"


ต่อมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์ถึงการลงตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จะลงพื้นที่หลังจากที่ได้แถลงนโยบายรัฐบาลแล้ว โดยในวันที่ 25 ต.ค. นี้ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย จะเดินทางลงพื้นที่

ขณะเดียวกัน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำคณะตัวแทนจากเครือข่ายสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และผู้นำชุมชนจากภาคต่างๆ จำนวน 200 คน เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยนายแวร์ ลอมรี แวบุระ ผู้นำชุมชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาโดยกล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบเกิดจากความไม่เป็นธรรม การพัฒนาไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความแตกแยก ควรจะต้องมีการพัฒนาท้องถิ่นอย่างถูกต้อง พวกตนไม่ได้ปฏิเสธราชการ แต่ต้องการให้ ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ทั้งเรื่องของความมั่นคง

"รัฐมีมาตรการอยู่แล้ว"


การพัฒนา และการศึกษา โดยเฉพาะเรื่อง การพัฒนาไม่ควรให้หน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครอง เข้ามาดูแล ต้องให้ภาคประชาชนและกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดำเนินการ หาวิธีพัฒนาที่ถูกต้อง อีกทั้งในพื้นที่ควรมีการตั้งสถาบันภาษาไทยขึ้นมา โดยเป็นรูปแบบขององค์กรมหาชน หรือองค์กรอิสระ ที่มีมืออาชีพเข้ามาบริหาร ไม่ใช่เป็นรูปแบบของราชการ เพราะปัจจุบันแม้แต่ครูในพื้นที่ก็เข้าใจภาษาไทยไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

วันเดียวกัน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานทอดกฐินที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ถึงการแก้ไขปัญหาความไม่ สงบในพื้นที่ภาคใต้ของรัฐบาลว่า รัฐบาลมีทาง มีมาตรการที่จะทำอยู่แล้ว ตนไม่มีหน้าที่โดยตรงในเรื่องนี้ เพียงแต่ คอยเฝ้าดู และพอที่จะช่วยเหลืออะไรได้บ้างก็จะช่วย มั่นใจ ว่ารัฐบาลนี้จะจัดการกับปัญหาภาคใต้ได้ เมื่อถามว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติฟื้น ศอ.บต.และ พตท.43 จะ เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ศอ.บต.ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ซึ่งทั้ง ศอ.บต. และ พตท.43 ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ผล ดังนั้นการรื้อฟื้นขึ้นมา รัฐบาลคงปรับเปลี่ยนให้ดี ให้เข้ากับ สถานการณ์ได้และน่าจะได้ผล

"จัดสรรเบี้ยเลี้ยง"


เมื่อถามว่า คิดว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดในการ แก้ปัญหา พล.อ.เปรมกล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหานานแค่ไหน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความเป็นธรรม เมื่อถามว่า แนวทางการสมานฉันท์เป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดใช่หรือไม่ พล.อ. เปรมกล่าวว่า หากเกิดความเข้าใจ ความสมานฉันท์ก็จะเกิดขึ้น เมื่อถามว่า แนวทางการแก้ปัญหาโดยการเจรจากับ ผู้ก่อความไม่สงบสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะพูดคุย กับใคร ทำให้ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว. ศึกษาธิการ กล่าวถึงมาตรการสร้างขวัญและกำลังใจให้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้ ได้ตั้งศูนย์ประสานการบริหารการศึกษาภาคใต้ขึ้น ซึ่งจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งนี้ จะหยิบยกทุกเรื่องขึ้นมาพิจารณาเพื่อให้ครูในพื้นที่มีขวัญและกำลังใจ และมั่นใจต่อการปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ การจัดสรรเบี้ยเลี้ยงให้เป็นกรณีพิเศษ การเร่งรัดการเบิกจ่ายค่ายานพาหนะที่ยังค้างอยู่ ส่วนจะฟื้นมาตรการออกใบอนุญาตให้ครูพกปืนได้หรือไม่คงต้องพิจารณาหลายๆด้านประกอบกัน

"ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ปชช.มาก"


บ่ายวันเดียวกัน นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส อัญเชิญแจกันดอกไม้ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ในฐานะองค์ประธานมูลนิธิชีวิตสดใส เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของพระวัดพรหมนิวาส อ.เมืองนราธิวาส จำนวน 5 รูป ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดบาดเจ็บขณะออกบิณฑบาตที่ จ.นราธิวาส นอนรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จ.สงขลา นายประชากล่าวว่า เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชาชนค่อนข้างมากอยากให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการหวังผลให้ เกิดความแตกแยกขึ้นโดยใช้ศาสนาเป็นสื่อ จึงอยากให้ ประชาชนทุกคนหนักแน่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าหลงไปตามทางที่คนร้ายสร้างขึ้น นอกจากนี้ได้เรียกร้องให้ ประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามทุกคนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ใช้ศาสนาเป็นเงื่อนไขในการกระทำ

ด้านพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานกรณีธรณีพิบัติในภาคใต้และอุบัติภัย กล่าวถึงกรณีที่พระสงฆ์วัดพรหมนิวาส อ.เมืองนราธิวาสถูกคนร้ายลอบวางระเบิดขณะออกบิณฑบาต ทำให้มีพระสงฆ์บาดเจ็บ 5 รูป ว่า ในเบื้องต้นทางคณะกรรมการประสานงานกรณีธรณีพิบัติฯ ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาส ถวายเงินช่วยเหลือไปแล้วรูปละ 10,000 บาท เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล ส่วนมาตรการในการคุ้มครองพระขณะที่ออกบิณฑบาตในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เท่าที่ผ่านมานั้น คิดว่ายังไม่เพียงพอ

"ยิงท้ายทอย จ่อยิงท้องซ้ำ 4 นัดขาดใจตาย"


ส่วนสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ยังมีเกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 24 ต.ค. ขณะที่นายบีสน หวันสู้ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 68/2 หมู่ 4 ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา ไปร่วมพิธีละหมาดที่มัสยิดบ้านกอตอตือระ เนื่องในวันฮารีรายอ หรือวันตรุษอีฏิลฟิตรี ถูกคนร้ายสวมชุดดาวะห์ปราดเข้าประกบใช้ปืน .357 จ่อยิงท้ายทอยล้มทรุดแล้วจ่อยิงซ้ำที่หน้าท้องรวม 4 นัดขาดใจตายคาที่แล้ววิ่งไปขึ้นรถ จยย.ที่เพื่อนจอดรอหลบหนีไป สอบพบว่านายบีสนเป็นสายข่าวหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ คาดถูกแนวร่วมโจรบุกยิง

ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 23 น.เศษ วันที่ 23 ต.ค. กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ สภ.ต. สากอ อ.สุไหงปาดี ตั้งอยู่บ้านสากอ หมู่ 4 ต.สากอ รวม 3 นัดซ้อน กระสุนปืนพลาดเป้าไปถูกต้นไม้หลังบ้านพักตำรวจ กับบ้านเลขที่ 95 ของนางนูรีฮา แลมา อายุ 42 ปี และบ้านเลขที่ 98/2 ของนายสุกิมรี มะสง อายุ 41 ปี เสียหาย ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ภูไชยวัฒน์ นทีรัตน์ รอง สว.หน.สภ.ต.สากอ กับพวกใช้อาวุธยิงตอบโต้เกิดปะทะกันก่อนคนร้ายจะล่าถอยหลบหนีไปได้

"ถูกยิงนอนตายจมกองเลือด"


ต่อมาตอนเช้าวันที่ 24 ต.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.6011 ฉก.39 นั่งรถยนต์จะไปหาซื้อเสบียงมาตามถนนสายสุไหงปาดี-สุไหงโก-ลก ถึงบ้านกูวา หมู่ 5 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี ถูกคนร้ายดักกดระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้บริเวณศาลาที่พักโดยสารริมทาง แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาสรับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 6 บ้านบาโงกูโบ ต.บองอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผกก. ไปตรวจสอบพบศพนายมุกะตา วาจิ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมเลือดริมบ่อน้ำข้างบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่สะโพกซ้ายชายโครงขวา มือขวา 1 นัด และเฉี่ยวหน้าท้องรวม 4 นัด สอบพบว่านายมุกะตาถูกคนร้ายลอบยิงขณะกำลังอาบน้ำที่บ่อน้ำข้างบ้าน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์