คมช.เสนอเคอร์ฟิว สลายผู้ชุมนุม

อุณหภูมิการชุมนุมขับไล่


คมช.ของกลุ่มองค์กรต่างๆที่ระดมพลรวมตัวกันวัดพลังอยู่ที่ท้องสนามหลวง เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายไปด้วยข่าวลือต่างๆ จนปั่นป่วน กอปรกับมีการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือม็อบของกองทัพบก ทำให้ผู้คนเกิดความเครียดและหวั่นวิตกกับสถานการณ์บ้านเมือง ทุกฝ่ายพากันจับตาว่าในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่และความวุ่นวายทางการเมืองทั้งหมดจะจบลงอย่างไร


เชื่อ ตร.คุมสถานการณ์ได้วันทักษิณกลับไทย


ส่วนกรณีกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศนั้นยังฟังข่าวอยู่ ยังไม่แน่ว่าอดีตนายกฯจะเข้ามาหรือไม่ ส่วนที่ว่าจะมีคนเดินทางไปต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณที่สนามบินเป็นจำนวนมาก ตำรวจเคยรับเรื่องสำคัญสถานการณ์ต่างๆ รู้ว่าจะทำอะไร แต่ขอตรวจสอบข่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า

การกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรี จะทำให้มีการชุมนุมมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ แต่อยู่ในความสามารถของเจ้าหน้าที่ที่จะควบคุมได้

เมื่อถามว่า

ตำรวจจะควบคุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า จะไปจับกุมไม่ได้นอกจากคณะกรรมการสอบสวน ที่ดำเนินการเรื่องต่างๆ อาทิ คตส. จะไปขออนุมัติศาลออกหมายจับถึงจะจับกุมตัวได้

กล่อมผู้ใช้แรงงานไม่ให้ร่วมชุมนุม


ที่กระทรวงแรงงาน นายอภัย จันทนจุลกะ รมว. แรงงาน เรียกประชุมข้าราชการมอบนโยบายรัฐบาล โดยกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองและการชุมนุมต่างๆว่าขอให้ข้าราชการโดยเฉพาะกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแต่ละจังหวัด ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ใช้แรงงานในพื้นที่โดยให้ข้อมูลที่เป็นจริงและเป็นกลาง

เพื่อให้เกิดความเข้าใจและไม่เดินทางมาร่วมชุมนุมใน

กทม. จากการตรวจสอบขณะนี้ ยังไม่มีผู้ใช้แรงงานเข้ามาร่วมการชุมนุมแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ข้าราชการในสังกัด ไปชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคืบหน้าและการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระทรวงฯมีหน้าที่ทำให้การดำเนินการออกเสียงเป็นไปโดยสะดวกสำหรับผู้ใช้แรงงานโดยไม่ถือเป็นวันลาเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป

ประกาศเคอร์ฟิวหากสถานการณ์แรง


นอกจากนี้ในการประชุมเตรียมการรักษาความสงบ ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.เป็นประธานการประชุม ผู้เข้าประชุมประกอบด้วย กองทัพภาคที่ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กทม. ซึ่งมีการเน้นการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

หลังจากที่ประเมินสถานการณ์แล้ว เกรงว่า คมช.จะไม่สามารถรับมือม็อบไว้ได้ พล.อ.สนธิจึงได้เสนอไปยังรัฐบาล ขอให้มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ กทม. เพื่อยับยั้งการชุมนุม แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการพิจารณา

ปลอบผู้ชุมนุมไม่ต้องกลัวเคอร์ฟิว


บรรยากาศที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 20.00 น. คึกคักขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย ทยอยมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประเมินยอดผู้ชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าวว่า มีมากกว่า 8 พันคน ส่วนด้านหลังเวทีปราศรัย มีการตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินสนับสนุนการชุมนุม มีประชาชนเดินทางมาบริจาคอย่างต่อเนื่อง

และเป็นที่น่าสังเกตว่า

บรรดาสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เริ่มมาปักหลักรายงานข่าวการชุมนุมมากกว่าทุกวัน เนื่องจากมีกระแสข่าวประกาศกฎอัยการศึกในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม นายจตุพรกล่าวปราศรัยว่า การปล่อยข่าวว่าม็อบจะเคลื่อนขบวน และจะมีการประกาศ

เคอร์ฟิวในคืนนี้

ส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงระนาว หาก คมช. ส่งคนมาสร้างสถานการณ์ในที่ชุมนุม ยืนยันว่าจะจับมาเค้นสอบบนเวที แล้วจะเคลื่อนขบวนไปส่งที่กองทัพบกทันที และถ้ามีการประกาศเคอร์ฟิวด้วย ก็ขอให้ประชาชนทุกคนชุมนุมต่อที่สนามหลวง หรือถ้าแกนนำถูกจับก็ขอให้ตั้งสติดีๆอย่าตกใจ

ฝากถึงอดีตนายกฯว่า

หากการเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบกเป็นเหตุให้ต้องถูกอายัดทรัพย์นั้น ก็ต้องกราบขอโทษด้วย เพราะความจริงที่เดินทางไป ทบ.นั้น เป็นเพราะรัก พ.ต.ท.ทักษิณและอยากขับไล่พวก คมช.เท่านั้น

ผู้ชุมนุมเครียดข่าวลือเคอร์ฟิว


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศในการชุมนุมของ นปก.หลังเวลา 21.30 น.แกนนำ นปก.ยังคงปราศรัยปลุกเร้าประชาชน ให้เตรียมรับการประกาศกฎอัยการศึกที่จะมีขึ้นในคืนวันที่ 13 มิ.ย. ขณะที่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เช่นเดียวกับที่ด้านหลังเวทีปราศรัย กลุ่มอดีต ส.ส.ไทยรักไทยและผู้สนับสนุนก็เริ่มหายหน้าไป

ทั้งนี้ แกนนำพีทีวีสั่งให้ทีมงานฝ่ายต่างๆ

เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การประกาศกฎ อัยการศึก ทีมงานที่ขายข้าวของอยู่ที่บริเวณเต็นท์ต่างๆ เช่น กลุ่มคนวันเสาร์ คนรักทักษิณไม่เอาเผด็จการ ต่าง เก็บข้าวของกลับบ้านกันหมด ทำให้บรรยากาศในที่ชุมนุมเริ่มเป็นไปด้วยความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวทั้งตำรวจและทหาร ที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่นับร้อยคน ต้องหาข่าวกันมือเป็นระวิง มีการเช็กข่าวทุกครึ่งชั่วโมง

โดยเฉพาะรถบรรทุก 6 ล้อ

ของ นปก.ที่เคยเป็นรถปราศรัยของแกนนำ ในวันเคลื่อนขบวนบุกไปที่หน้ากองทัพบกนั้น ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวทั้งตำรวจและทหารจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากจอดคลุมผ้าไว้อยู่ด้านหลังเวทีปราศรัย จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า นปก. จะมีการเตรียมเคลื่อนขบวนไปที่หน้ากองทัพบกอีกครั้ง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์