คมช.สั่งจับตาทักษิณโผล่ที่สิงคโปร์อยู่ถึงวันที่16ก่อนไปอังกฤษ

คมช.จับตา ทักษิณ ป้วนเปี้ยนบินไปสิงคโปร์ แม่ทัพภาค 1 เช็คแล้วไปจริง


ติดต่อพบ รมต.เมืองลอดช่อง สุ่มเก็บตัวถึง 16 ม.ค.นี้ ก่อนบินพบ พจมาน ที่ลอนดอน แฉ ปลัดบัวแก้ว เด็กเก่าทักษิณ ไม่สนคำสั่ง คมช.โทร.แจ้งทูตต้อนรับ ทักษิณ เหมือนเดิม ขณะที่ สุรยุทธ์ สั่ง รมว.ต่างประเทศ ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด ก่อนแจ้งรัฐบาลสิงคโปร์หลังถกอาเซียน ชลิต กำชับไม่ประมาทช่วง 1-2 เดือนอันตราย

น้องสาวทักษิณ เผยพี่ชายถอดใจไม่เอาแล้วการเมืองไทย

เสียงสั่นเครือวอนนึกถึงความดี-อย่าซ้ำเติมตระกูล ชินวัตร ด้าน ทรท.อัด คมช.ไม่แฟร์ห้ามเสนอข่าวทักษิณ เย้ยยาแรงไม่ได้ผล ไล่ไปดูตัวเอง

โดยทหารคุกคามพระไทยรักไทย ด้าน ป.ช.ป. ขี่แพะไล่ หอบหลักฐานยื่น คตส.ช่วยมัดเจ๊แดงรวยผิดปกติ แฉตั้งบริษัทผีฉ้อฉลทำชาติสูญนับแสนล้าน รุกต่อจี้สอบโลจิสติกส์สุวรรณภูมิ แฉเบื้องหลังมีแต่ลูก-หลานทักษิณหากิน

คมช.จับตา ทักษิณ เยือนสิงคโปร์


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

กล่าวถึงกระแสข่าวการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปประเทศสิงคโปร์จริง

โดยเดินทางไปถึงเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา และทราบว่าจะอยู่สิงคโปร์จนถึงวันที่ 16 ม.ค.นี้

สำหรับวัตถุประสงค์การเดินทางไปครั้งนี้ ตนไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีจุดประสงค์อะไร ทราบเพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศสิงคโปร์เท่านั้น และจะอยู่สิงคโปร์ถึงช่วงเวลาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการเข้าพบผู้นำสิงคโปร์ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

ไม่ทราบ เรื่องนี้คงต้องไปถามกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อถามว่า กังวลต่อการเคลื่อนไหวนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คมช.ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด

ปลัดบัวแก้ว เมิน คมช.-อุ้มทักษิณ


ภายหลังกระทรวงการต่างประเทศสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางทางการทูต (พาสปอร์ตสีแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พร้อมกับสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ทูตไม่ให้ต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีอีกนั้น

แหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ ในฐานะแขกส่วนตัวของรัฐบาลสิงคโปร์ (the private guest of Singapore Government) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายกฤษณ์ กาญจนกุญชร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

ได้สั่งการผ่านไปยังนายดำรง ใคร่ครวญ หัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคงระหว่างประเทศ โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายเฉลิมพล ทันจิตต์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศสิงคโปร์ เพื่อไปให้การต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคอยอำนวยความสะดวกเหมือนเดิม

สิ่งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

เพราะรัฐบาลเพิ่งออกมาระบุเหตุผลการยกเลิกพาสปอร์ตทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ แต่ทำไมยังต้องสั่งการไปยังทูตไทยที่สิงคโปร์ให้ทำการต้อนรับ

ทั้งนี้ นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม รมว.การต่างประเทศ ควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

เพราะนายกฤษณ์กำลังจะเดินทางไปรับตำแหน่งทูตไทยที่วอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกับนายดำรงที่จะไปรับหน้าที่เป็นเบอร์ 2 ที่นั่นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม

ก่อนหน้านี้นายกฤษณ์เป็นผู้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ มือขวาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปดูแลอดีตนายกฯ ที่กรุงลอนดอน พอเรื่องแดงขึ้นมาจึงมีการดึงตัวกลับมาทำงานที่ประเทศไทย

บินต่อลอนดอนพบ เมียรัก


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า

ความจริงแล้วกระทรวงการต่างประเทศสามารถทำเรื่องขอความร่วมมือในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปยังสถานทูตของประเทศต่างๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยได้ทันที

เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคงของชาติ

และสถานทูตแต่ละแห่งเมื่อทราบเรื่องก็จะเป็นผู้แจ้งเรื่องไปยังรัฐบาลของประเทศตนเอง ไม่จำเป็นต้องแจ้งไปยังสถานทูตของเราในประเทศต่างๆ ให้เสียเวลา

เพราะเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงมีการดึงเรื่องกันเช่นนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเวลา 4 วัน

โดยมีนัดรับประทานอาหารค่ำกับรองนายกรัฐมนตรีของสิงค์โปร์ คือ Wong Kan Seng รวมถึงการหารือกับ รองนายกรัฐมนตรี Jayakumar ด้วย

จากนั้นในวันที่ 16 ม.ค.

มีกำหนดเดินทางไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อพบกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ที่ไปรออยู่ที่นั่นแล้ว

เสียงเครือ-วอนอย่าซ้ำเติมชินวัตร


ผู้สื่อข่าวถามว่า พี่น้องในตระกูลชินวัตรพบปะกันบ่อยแค่ไหนหลังเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.49 นางเยาวเรศ กล่าวว่า เราเจอกันบ่อย นัดกินข้าวด้วยกัน เวลานี้เป็นสิ่งที่เราพูดไม่ออก (น้ำเสียงสั่นเครือและหยุดพูดไปครู่หนึ่ง) ใครก็สามารถสร้างข่าวและกล่าวหาอะไร

อย่างกรณีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ถูกกล่าวหาอยู่ในขณะนี้

ส่วนตัวก็เชื่อว่าน้องสาวบริสุทธิ์และทำถูกต้อง แต่ทุกคนในครอบครัวอยู่ในฐานะที่พูดไม่ออก สิ่งหนึ่งที่ขอร้องเราเป็นผู้หญิงก็อยู่อย่างลำบากอยู่แล้ว ขออย่าซ้ำเติมพวกเราเลย

เมื่อถามว่า ในขณะนี้ฐานะที่เป็นหนึ่งในครอบครัวชินวัตรดำเนินชีวิตประจำวันลำบากหรือไม่

นางเยาวเรศ กล่าวว่า ทุกอย่างเราเหมือนประชาชนทั่วไป อยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดำเนินชีวิตตามปกติ ไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้

เมื่อถามว่า ล่าสุดได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อไร

นางเยาวเรศ กล่าวว่า ล่าสุดโทรศัพท์ไปสวัสดีปีใหม่ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เราก็ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จริงๆ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ที่ไม่กลับมาเมืองไทยเพราะอยากให้บ้านเมืองสงบสุขมากกว่า

ชีวิตคนเราทุกคนก็อยากอยู่บ้านเกิดตัวเอง ฝรั่งต่างชาติยังชอบบ้านเราเลย เพราะต่างประเทศอากาศหนาวมาก บ้านเราไม่หนาว สบาย ยังไงก็รักบ้านเกิดกันทั้งนั้น

จวก คมช.คุกคามพระไทยรักไทย


นายจตุพร พรหมพันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่พรรคไทยรักไทยจัดงานทำบุญขึ้นปีใหม่โดยได้นิมนต์พระครูอรรถเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศมาทำพิธี แล้วได้เทศสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตรงนี้ยืนยันว่าเนื้อหาที่พระครูฯ ได้เทศเมื่อวันที่ 12 ม.ค.นั้นเป็นการทักทายเจ้าภาพธรรมดา

ซึ่งถือเป็นกิจของพระสงฆ์ตามปกติ

เมื่อเจ้าภาพเชิญมาเทศก็ต้องอนุโมทนาบุญแก่เจ้าภาพและญาติโยมตามธรรมเนียมไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าไปเทศที่กองทัพบกก็ต้องทักทาย ต้องชม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เป็นธรรมดา

หรือหากพรรคประชาธิปัตย์นิมนต์เจ้าคุณปัญญานันทภิกขุ

เจ้าอาวาสวัดชลประทาน ท่านก็ต้องทักทายคุณชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ เพราะเห็นเป็นเรื่องมงคล แต่สิ่งที่พรรคไทยรักไทยติดใจคือ

หลังจากเสร็จกิจนิมนต์แล้ว ปรากฏว่ามีการส่งกำลังทหาร 4 นาย เข้าไปตรวจสอบพระธรรมสิทธินายก รองเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งถือเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่

กรณีที่มาเทศที่พรรคไทยรักไทย

จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการที่วัดหลังมีการรัฐประหาร กรณีดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่สะเทือนใจชาวพุทธเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเชื่อว่าชาวพุทธจะรับไม่ได้

ไม่ทราบว่าต่อไป

ต้องห้ามพระสงฆ์รับกิจนิมนต์พรรคไทยรักไทยด้วยหรือไม่ ขอเรียกร้องให้ คมช.ตรวจสอบเรื่องการส่งกำลัง ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความร้าวฉานในหมู่ชาวพุทธได้ นอกจากจะมีการคุกคามสื่อแล้วไม่อยากเชื่อว่าจะลุกลามข่มขู่เข้าไปสู่วงการสงฆ์

ด้าน คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีพระวัดสระเกศเทศน์เชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่งว่า มีด้วยเหรอ พี่ไม่รู้เลย พูดไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลข่าว มีคุณภาพจาก: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์