คมช.ประกาศกร้าวเลิกพูดเรื่องต่อท่อสืบทอดอำนาจ

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. เวลา 08.00 น. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. กล่าวถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะขอเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯในระหว่างเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-จีน ที่นครหนานหนิง ประเทศจีน ว่า ถ้าเผื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงนั้นน่าจะติดต่อกันง่ายกว่า แต่อาจจะไม่พบกัน ต้องขอผ่านกันทางด้านโน้น เพราะท่านเป็นนายกฯ ตนเห็นด้วยอย่างนั้นน่าจะประวิงเวลาไปก่อน

เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองเข้าที่เข้าทางก่อน อย่างไงขอให้ใจเย็นๆ ตนว่าท่านจะต้องไตร่ตรองการเข้ามาให้ดี คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่มา เชื่อได้เลยว่าไม่มา เมื่อถามว่าการกดดันให้มีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก พล.อ.สนธิตอบว่า สำหรับกฎอัยการศึกมีคณะบุคคลคณะหนึ่งที่มีความเห็นด้วยกับการยกเลิกประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก แต่มีประชาชนอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคงเป็นส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะคงมีอยู่ เราก็ต้องดูว่าเอาอะไรหรือเครื่องมืออะไรเป็นเหตุผลในการตัดสินใจ แต่เราก็มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ก็ต้องดูว่าประเทศชาติเราต้องมีความสงบสุข ประชาชนมีความสบายใจ

แขวะนักการเมืองกลัว รธน.ใหม่

เมื่อถามว่า มีการมองว่า คมช.จะสืบทอดอำนาจโดยการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา พล.อ.สนธิตอบว่า พวกเราต้องไปถามคน ถามว่าในใจลึกๆเขาคิดอะไร นั่นคือคำถามและคือคำตอบ ไม่ใช่เขากลัวว่าพวกเราจะสืบทอดอำนาจหรอก แต่เขากลัวว่า รธน.ที่กลัวจะเขียนอะไรที่ทำให้ รธน.เปิดกรอบให้นักการเมืองบริหารประเทศในทางที่มีการควบคุมมากเกินไปมากกว่า อยากให้ตีความคนถาม ให้อ่านใจคนถามว่าเขาถามไปทำไม เพราะรู้อยู่ว่าพวกเราใกล้เกษียณและทุกคนไม่มีบุคลิกอย่างนั้น

คิดว่าคนไทยมีวิจารณญาณที่ดี คนเราบุคลิกของการเป็นผู้ที่จะแสวงอำนาจ มันมีบุคลิกไม่ใช่เพิ่งมาเกิด มันต้องมีมานานแล้ว ฉะนั้น จะมองกันง่าย เป็นธรรมชาติของคนไทย ฉะนั้น เราก็มีหน้าที่ในการพยายามรักษาเสถียรภาพของเราให้ดีที่สุด มีความตั้งใจจริง บริสุทธิ์ใจจริงกับประชาชนทั้งประเทศ ห้วงเวลาที่ผ่านมาก็ทุกข์พออยู่แล้ว ผมไม่อยากให้พวกเราทุกคนเอาเรื่องพวกนี้ไปเป็นทุกข์ต่อไปอีก ห้วงเวลาใกล้ๆคนไทยเรามีความกังวล คือ ความหวาดระแวง เรากำลังพูดถึงการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ ขณะเดียวกันความหวาดระแวงมีสูง เราต้องมาแก้เพื่อให้คนไทยทั้งหมดเป็นพี่เป็นน้องแล้วมาสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติดีกว่าเวลานี้ ไม่ใช่พูดอะไรคำหนึ่งก็กลายเป็นการแบ่งแยกแตกฝ่าย ฉะนั้น ต้องกลับไปทบทวนเรื่องนี้ดีกว่า ผบ.ทบ.กล่าว

บุญสร้าง ยันไม่มีสืบทอดอำนาจ

ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงความสับสนของประชาชนต่อการทำงานของ คมช. จะมีการประชุมกันในช่วงนี้หรือไม่ ว่า คมช.มีการประชุมเป็นระยะๆ ขณะนี้ตนไม่เห็นมีอะไร ถ้ามีก็คงไม่มาก เมื่อถามว่ามีการปล่อยข่าวว่า คมช.จะมีการสืบทอดอำนาจ วางและอาจมีการตั้งพรรคการเมือง พล.อ.บุญสร้างตอบว่า ไม่เห็นมีใครสืบทอดอำนาจ เรื่อง คมช.ต้องไปถามประธาน คมช. ตนไปพูดมากเดี๋ยวสับสน เป็นหน้าที่ของท่าน ลูกทีมมีอยู่หลายคน ตนพูดเรื่องละเอียดอ่อนไม่ได้

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. กล่าวถึงการชี้แจงผลงานของ คมช. ว่า การทำงานของ คมช.จะคิดว่าช้า คงไม่ช้า เพียงแต่อ่อนการประชาสัมพันธ์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในฐานะประธาน คมช.ชี้แจงว่า ต่อไปนี้จะพยายามประชาสัมพันธ์ชี้แจงความคืบหน้าการทำงานของกลไกที่ได้จัดตั้งขึ้นมาให้มากขึ้น เมื่อถามว่า การเรียกร้องให้ ชี้แจงการยึดทรัพย์นักการเมือง เพราะเกรงจะมีเรื่องแอบ แฝงอยู่ เลขาฯ คมช.ตอบว่า เป็นความต้องการตามธรรมชาติ มองในแง่ดี ไม่มีอะไรแอบแฝง เข้าใจดีว่าประชาชนอยากเห็นความคืบหน้า คล้ายประชาชนเป็นผู้ชม อยากจะดูมวยชกกันให้แรงกว่านี้ อยากให้ฝ่ายหนึ่งรุกไล่กันไปให้ จบชนะน็อกเอาต์เหมือนกับผู้ชมทั่วๆไป เป็นความต้องการธรรมชาติ ไม่มีอะไรแอบแฝง คมช.เองก็ร้อนใจ เพราะเมื่อกระแสสังคมกดดันอยากเห็นผลงานโดยเร็ว ก็พยายามติดต่อกลไกทั้งปวงให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ การดำเนินการใดต้องคำนึงถึงกระบวนการกฎหมาย ความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้นด้วย

คมช.ลั่นไม่คิดยุ่งการเมือง

พล.อ.วินัยกล่าวถึงข่าวที่ คมช.และตนเองอาจถูก สืบทอดอำนาจหลังร่าง รธน. โดยมีการตั้งพรรคการเมือง ว่า ถ้าถามเรื่องนี้จริงๆยังไม่คิดเลย ไม่เข้าใจว่าข่าวต่างๆเกิดขึ้นได้อย่างไร พยายามสอบถามพูดคุยกับสื่อมวลชนที่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เขียน ทำไมคิดกับตนอย่างนั้น ก็ปรากฏว่าเป็นเพราะเขาไม่เคยสัมผัส และพูดคุยในเรื่องนี้ และได้รับข้อมูลจากคนบางคนที่อาจจะรู้จักตน ก็เลยมองว่าขณะนี้ตัวประธาน คมช.ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสืบทอดอำนาจทางการเมือง คนอื่นๆก็ดูแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรี คงไม่มีพฤติกรรมในลักษณะนั้น เพราะฉะนั้นขณะนี้คนใน คมช.ที่เก็บตัวเงียบอยู่ๆก็กลายเป็นเป้า

ถ้าถามผมด้วยคำถามนี้ เรียนด้วยความสัตย์จริงเลยว่า ยังไม่เคยคิดเลยว่าจะลงเล่นการเมือง ผมยังเหลืออายุราชการตุลาคม 2551 ถึงเวลานั้นก็เลยเวลาเลือกตั้งไปแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆที่เป็นข่าวเกี่ยวกับตัวผมขณะนี้เป็นการคาดการณ์ของหมู่นักวิเคราะห์ทั้งหลาย นักยุทธศาสตร์ทั้งหลายที่วิเคราะห์ว่า คมช.ทำเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วไม่มีใครคิดที่จะสืบทอด ซึ่งมันผิดจากธรรมชาติไปนิด แต่ขอเรียนตรงๆว่ายังไม่มีใครคิด ให้เลิกถามได้เลย ผมอยากจะเรียนไปถึงคนที่กล่าวถึงผมขณะนี้ บาปกรรมเปล่าๆ เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้มาพูดคุยกับผมในเรื่องนี้เลย อย่างพูดถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่าผมไปพบนั่งทานข้าวจับกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ไปถามนายสมศักดิ์ว่า เคยพบกับผมหรือไม่ลองไปถามดู ปล่อยให้การกระทำนั้นเป็นสิ่งพิสูจน์ดีกว่า พล.อ.วินัยกล่าว

คมช.เตรียมแจกปกขาวโชว์ผลงาน

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ที่จังหวัดลพบุรี พล.อ.วินัย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการคาดหวังของประชาชนในการทำงานของ คมช. ว่า เมื่อชี้แจงแล้วน่าจะพอใจระดับหนึ่ง แต่จะให้พอใจ 100% เหมือนกับประชาชนชกเอง คงจะไม่ได้ เมื่อถามว่า คมช.รู้สึกอึดอัดใจในการทำงานหรือไม่ เพราะขั้วอำนาจเก่า ของรัฐบาลเก่าเข้ามาเกี่ยวข้องในการทำงาน เลขาฯ คมช.ตอบว่า ไม่อึดอัดใจ สิ่งที่เป็นกังวล เป็นเรื่องที่สะท้อนจากประชาชนมากกว่า ว่าไม่ แฮปปี้ การทำงานของ คมช.ตรงจุดไหน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องกังวลใจมากกว่า เพราะคิดว่า คมช.ทำสิ่งที่ถูกที่ควร พยายามทำภารกิจที่มีอยู่ในเวลาจำกัด ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการจัดทำสมุดปกขาวเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนภายหลังทำการยึดอำนาจ เลขาฯ คมช. ตอบว่า เนื้อหาสาระเสร็จสมบูรณ์เกือบ 100% เหลือเพียงจัดทำรูปเล่มและชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งการชี้แจงประเด็นจะครอบคลุมถึงการปฏิบัติและการดำเนินงานของ คมช. ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า ประเด็นหลักที่ คมช.ประกาศภายหลังการยึดอำนาจ จะเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่ เลขาฯ คมช.กล่าวว่า ทำไปแล้ว เราจัดการองค์กรอิสระที่ถูกครอบงำก็ให้กลับสามารถทำงานได้โดยไม่มีใครขัดขวาง ส่วนในเรื่องความสมานฉันท์และแตกความสามัคคี สิ่งหนึ่งที่เราทำ คือเราเอาอำนาจเก่าออกไปแล้ว ก็มาสร้างความสมานฉันท์ ความสามัคคี ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการ ทาง คมช.จะหารือกับรัฐบาลเป็นระยะ

ส่วนการปราบปรามทุจริตคอรัปชันก็มีกลไกของ ป.ป.ช. และ คตส. ก็พร้อมที่จะทำงาน ก็ขอเวลาในการทำงาน ก่อนที่จะชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งการชี้แจง คงจะต้องให้องค์กรอิสระเป็นผู้ชี้แจง เพราะหาก คมช.ไปชี้แจง ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ หากไปชี้แจงแล้วทาง คมช.ไม่รู้พูดแล้ว อาจจะทำให้เสียรูปคดี ส่วนการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนอยากขอร้องถ้าเรารักในหลวง อย่านำมาเล่นกันเลย อย่านำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ