คนรบ.แฉกลับนักการเมืองฝ่ายค้านพัวพันงบฯชุมชนพอเพียง ปลอมชื่อชาวบ้านเขียนโครงการคนตายแล้ว2ปี

คนรบ.แฉงบฯชุมชนพอเพียง มีนักการเมืองฝ่ายค้านปลอมชื่อชาวบ้านเขียนแผนขอโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งที่ตายไปแล้วกว่า 2 ปี แต่กลับลงชื่อด้วย รองปธ.สนง.สงสัยปลอมชื่อขอโครงการ 11 จังหวัด ตั้งกก.สอบทั่วประเทศ

ความคืบหน้ากรณี ส.ส.ฝ่ายค้าน และผู้นำชุมชนออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียงในบางพื้นที่

เริ่มจาก น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เพื่อพรรคไทย ตรวจสอบพบโครงการจัดซื้อตู้หยอดน้ำ เตาเผาขยะ และแผงโซลาร์เซลล์ ตามแผนงานโครงการชุมชนพอเพียงของชุมชน 20 แห่งในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล มีราคาแพงเกินจริง ขณะที่นายนิคม อุปชีวะ ประธานคณะกรรมการโครงการชุมชนพอเพียงปี 2552 บ้านโพนนาดี ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และนายประเสริฐ์ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ได้ร้องเรียนพฤติกรรมกลุ่มข้าราชการ นักการเมืองส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมกันเรียกหัวคิวจากโครงการของชุมชนแห่งละ 200,000 บาท ตามที่ "มติชน" เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด ฝ่ายรัฐบาลได้ออกมาแฉกลับพฤติกรรมของนักการเมืองฝ่ายค้านที่เข้ามาหาประโยชน์จากโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อของบประมาณจากโครงการชุมชนพอเพียงในหลายพื้นที่เช่นกัน


นายประโภชฌ์ สภาวสุ รองประธานสำนักงานชุมชนพอเพียง เปิดเผย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า

ขณะนี้สำนักงานพบความไม่ชอบมาพากลในขั้นตอนการเสนอโครงการของชุมชนภายใต้โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน ประกอบกับมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ส่งผลให้การจัดสรรเงินให้กับชุมนุมต่างๆ เป็นไปด้วยความล่าช้า ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเขียนแผนงานโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อของบฯของชุมชนหลายอำเภอในเขตพื้นที่ 11 จังหวัด ทั้งภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบนที่เสนอเข้ามารวมมากกว่า 1 ปึกใหญ่ แต่พบว่าแบบฟอร์มแผนโครงการที่จัดส่งเข้ามาใช้กระดาษและตัวอักษรแบบเดียวกัน ลายมือและน้ำหนักที่ใช้ระบุข้อมูล ดูแล้วบ่งชี้ได้ว่ามาจากบุคคลเดียวกัน จะต่างกันเพียงรายละเอียดข้อมูลเรื่องสัดส่วนการผลิตปุ๋ยเท่านั้น


"จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่โทรศัพท์สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนชุมชนที่เขียนแผนเข้ามา ได้รับการยืนยันว่าพ่อค้าปุ๋ยได้นำสินค้ามาส่งมอบให้แล้ว ขอให้สำนักงานพิจารณาโครงการและโอนเงินให้โดยเร็วที่สุด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร จะต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกต่อไป เพื่อให้การอนุมัติงบฯเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด" นายประโภชฌ์กล่าว

แหล่งข่าวจากโครงการชุมชนพอเพียงเปิดเผยว่า
 
เมื่อตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงในภาคอีสาน 11 จังหวัด มีชื่อนักการเมืองฝ่ายค้านรายหนึ่งที่เคยเกี่ยวข้องกับปัญหาการจัดซื้อปุ๋ยปลอมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยพบการปลอมแปลงชื่อผู้ขอรับงบฯจากการเขียนแผนโครงการ เนื่องจากตรวจพบบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตไปกว่า 2 ปีแล้ว


นายสุมิท แซ่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชุมชนพอเพียง กล่าวว่า
 
สำนักงานได้จัดสรรงบฯให้ชุมชนทั่วประเทศไปแล้ว จำนวนกว่า 25,000 ชุมชน รวมวงเงิน 7,200 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งหมด 80,000 ชุมชน รวมวงเงินทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มคนต่างๆ จำนวนมาก ทั้งปัญหาเก่าในช่วงโครงการนี้ยังใช้ชื่อว่า "เอสเอ็มแอล" และโครงการใหม่ จึงได้ตั้งคณะกรรมการ มี พล.อ.ชัชวาล ทัตตานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานชุมชนพอเพียง เป็นประธานตรวจสอบการดำเนินงานของชุมชนทุกแห่ง หากพบว่าชุมชนนั้นๆ ไม่นำเงินไปใช้ประโยชน์ก็จะเรียกเงินคืนทันที หากนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ขอไป ในส่วน กทม.จะแจ้งข้อมูลให้ผู้อำนวยการเขต ส่วนต่างจังหวัดจะแจ้งให้นายอำเภอเข้าไปตรวจสอบ หากพบปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น ก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


นายสุมิทกล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยร้องเรียนการจัดซื้อตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ และเครื่องโซลาร์เซลล์ส่อมิชอบว่า

สำนักงานจะตรวจสอบข้อมูลด้วย แต่เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากผู้นำชุมชนรายหนึ่งว่าการดำเนินงานโปร่งใส ส่วนที่เลือกทำโครงการตู้หยอดน้ำ ได้รับชี้แจงว่าเพราะวิถีชีวิตคนในชุมชน กทม.แตกต่างจากต่างจังหวัด


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์