คตส.โร่หาที่อยู่แม้ว-อ้อ

ศาลให้เป็นที่อยู่ปัจจุบันระบุในสำนวนที่ดินรัชดา แก้วสรรโวยข่าวรั่วอีกแล้ว


คดีซื้อที่ดินรัชดาฯ เริ่มเจออุปสรรคอีกครั้ง หลังศาลพิจารณาสำนวนแล้วพบที่อยู่จำเลยแม้ว-อ้อ ไม่อัพเดทตีเรื่องกลับไทยอัยการแจงมาใหม่นัด 9 ก.ค. พิจารณา หากไม่ได้อาจไม่รับฟ้อง อัยการ-คตส.ดิ้นหาที่อยู่ด่วน พร้อมยอมรับคำตัดสินของศาล แต่จะยื่นฟ้องใหม่ ส่วน คตส. วุ่นข่าว ปปง. เมืองผู้ดีส่งข้อมูลลับทักษิณซุกเงินใน ตปท. กว่า 1 หมื่นล้านบาท สัก ระบุ หากเป็นจริง คตส. ได้ประโยชน์

ส่วนแก้วสรร โวยข่าวรั่วอีกแล้ว

ด้านนพดล อัด คตส. ปล่อยข่าวดิสเครดิตอดีตนายกฯ ส่วนดีเอสไอ ออกตัวยืดเวลาให้ครอบครัวชินวัตรรับข้อหาอีก 1 เดือน หากไม่มาอีกจะออกหมายจับไม่ให้ประกันตัว ขณะที่บิ๊กบัง การันตีแม้วกลับเมืองไทยจะดูแลอย่างดี ด้านหญิงอ้อ-น้องเอม-โอ๊ค ขอเลื่อนแจงคดีหุ้นชินฯกันเป็นแถว ส่วน คตส. ออกสมุดปกเหลืองแจกแจงการอายัดทรัพย์

ศาลติงที่อยู่แม้ว-อ้อไม่อัพเดท


ส่วนกรณีการพิจารณาพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดเป็น โจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ ซึ่งจะพิจารณาคำฟ้องว่าจะรับฟ้องหรือไม่

ในวันที่ 10 ก.ค.นี้นั้น

นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้องค์คณะผู้พิพากษา ได้ตรวจคำฟ้องของอัยการสูงสุดแล้วปรากฏว่า โจทก์ฟ้องระบุที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าอยู่บ้านเลขที่ 472 (บ้านจันทร์ส่องหล้า) ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด และคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 อยู่บ้านเลขที่ 526 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต

อาจไม่รับฟ้องหากไม่ได้ที่อยู่

"แต่ปรากฏข้อเท็จจริงทางสื่อมวลชนทั่วไปว่าขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้น จำเลยที่ 1 และ 2 ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ดังนั้นที่อยู่ของจำเลย ทั้งสองที่ระบุในฟ้องจึงไม่ใช่ที่อยู่จริง ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2543 ข้อ 8 วรรคสอง

กำหนดว่า

หากโจทก์ไม่ได้ นำตัวจำเลยมาศาล ให้โจทก์ระบุที่อยู่จริงของจำเลยมาในฟ้อง คดีนี้โจทก์ฟ้องโดยไม่ได้นำตัวจำเลยมาศาล โจทก์จึงต้องระบุที่อยู่จริงของจำเลยทั้งสองมาในฟ้อง จึงให้โจทก์แถลงที่อยู่จริงของจำเลยทั้งสองต่อศาลภายในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ก่อนเวลา 12.00 น. ไม่เช่นนั้นศาลอาจมีคำสั่งไม่รับฟ้อง" นายรักเกียรติ กล่าว

อัยการประสานขอที่อยู่ทักษิณ


นายนันทศักดิ์ พูนสุข รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า อัยการสูงสุด ได้ประสานงานไปยัง คตส. เพื่อให้ประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบถิ่นที่พำนักของจำเลยทั้งสอง นอกจากนี้ทาง คตส. ยังสามารถขอความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ

อีกทางหนึ่งไปยังสถานทูตไทย

ในประเทศที่จำเลยทั้งสองพักอยู่ เนื่องจากสถานทูตจะต้องดูแลคนไทยที่เดินทางไปอยู่ในประเทศนั้นว่าพักอยู่ที่ไหน หากศาลจะไม่รับคำฟ้องเพราะไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจนนั้นก็ต้องยอมรับแต่ก็จะดำเนินการฟ้องร้องใหม่ได้เมื่อได้ที่อยู่แล้ว

คดีนี้มีลักษณะพิเศษต่างกับคดีอาญา ทั่วไป

"เพราะถ้าเป็นคดีทั่ว ๆ ไป อัยการจะยืนยันที่อยู่ตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านอันเป็นภูมิลำเนาบุคคลตามกฎหมายแพ่งซึ่งสามารถนำข้อกฎหมายนี้มาใช้ได้โดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 3 ที่ว่า ถ้าจำเลยไม่มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักร

แต่เคยอยู่ในราชอาณาจักร ระยะ 2 ปีก่อนฟ้อง

ให้ถือว่าสถานที่นั้นเป็นภูมิลำเนา สำหรับคดีนี้ผมถือว่าเป็นดุลพินิจศาล ซึ่งอัยการต้องปฏิบัติตาม และ เมื่ออัยการได้ที่อยู่อันเป็นภูมิลำเนาแน่นอนแล้ว อัยการก็จะนำหลักฐานต่าง ๆ มาแสดงยืนยัน" นายนันทศักดิ์ กล่าว



B>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์