คตส.เตรียมฟันอีก 2 โครงการใหญ่ - สรุปที่ดิน พจมาน ก่อนปีใหม่

ฟิตเร่งสรุปคดีทุจริต.....


คตส.ฟิตเร่งสรุปคดีทุจริตกันเต็มที่ จับตา 13 ธ.ค.เชือดอีก 2 โครงการนำร่องภาษีสรรพสามิตเอื้อธุรกิจมือถือยักษ์ใหญ่ ขณะที่ อุดม เฟื่องฟุ้ง ยันสรุปที่ดินรัชดาฯของ พจมาน ก่อนปีใหม่


อนุกรรมการฯจะเชิญ .....


วันนี้ (10 ธ.ค.) นายอุดม เฟื้องฟุ้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบโครงการทุจริตหวยบนดิน และการซื้อที่ดินย่านรัชดาของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร กล่าวว่า ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ อนุกรรมการฯจะเชิญ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง มาชี้แจงทั้งเรื่องหวยบนดิน และเรื่องการซื้อขายที่ดินย่านรัชดา ซึ่งถือว่าเป็นพยานปากสุดท้าย


ก็จะสรุปข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ .....


นายอุดม กล่าวว่า หลังจากที่ นายวราเทพ มาชี้แจง และให้ข้อมูลแล้วทางอนุกรรมการตรวจสอบก็จะสรุปข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งสรุปสำนวนในโครงการจัดซื้อขายที่ดินย่านรัชดา ว่า มีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งหากอนุกรรมการตรวจสอบสรุปว่ามีการทุจริตก็จะมีการประสานไปยังกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุนฟื้นฟูฯให้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรง


จะต้องมีหน่วยงานมาร้อง.....


เรื่องการซื้อที่ดินนี้หากมีทุจริต และมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องมีหน่วยงานมาร้องทุกข์กล่าวโทษหากไม่กล่าวโทษก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถือว่าไม่มีผู้ที่เสียหาย ซึ่งเราก็จะประสาน เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่เสียหายมาร้องทุกข์ และเราจะใช้กฎหมายที่มีอยู่ คือ กฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งตรงนี้ระบุชัดเจนว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งหลังจากที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วอนุกรรมการตรวจสอบก็จะนำมาพิจารณาสรุปเรื่องให้ที่ประชุม คตส.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป นายอุดม กล่าว


ทำอย่างรอบคอบ .....

นายอุดม กล่าวว่า ถ้าเอกสารหลักฐานครบถ้วน คาดว่า จะอนุกรรมการฯจะสามารถส่งเรื่องให้ที่ประชุม คตส.ตั้งกรรมการไต่สวนได้ก่อนวันที่ 1 ม.ค.2550 เพราะต้องทำอย่างรอบคอบ ถ้าสำนวนอ่อนจะไม่สามารถเอาผิดได้


แต่เท่าที่ศึกษาข้อมูลมาเป็นเรื่องหมูๆ ....


ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รับ (คตส.) เปิดเผยว่า ในการประชุม คตส.ชุดใหญ่ในวันพุธที่ 13 ธันวาคม จะมีการนำเรื่องกรณีที่ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เข้าร้องเรียนกรณีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออก พ.ร.ก.แก้ไข พ.ร.บ.อัตราพิกัดภาษีสรรพสามิต เมื่อปี 2546 โดยมิให้บริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐจ่ายภาษีสรรพสามิต แต่ให้คู่สัญญาภาครัฐหักส่วนแบ่งจากรายได้จ่ายภาษีสรรพสามิตแทน และเรื่องการทุจริตโครงการจัดหาเครื่องมือป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ปี 2546-2549 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยเข้าที่ประชุม แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้มีมติว่าจะรับไว้ดำเนินการเป็นเรื่องที่ 13 และ 14 หรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ คตส.เพราะต้องไปตรวจสอบดูข้อมูลว่ามีพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่เป็นทุจริตหรือไม่ แต่เท่าที่ศึกษาข้อมูลมาเป็นเรื่องหมูๆ ไม่มีอะไร ซึ่งหากเรื่องมีหลักฐานเพียงพอทาง คตส.ต้องรับไว้พิจารณาอยู่แล้ว


จะมีการตรวจสอบความคืบหน้า....

ด้าน นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 12 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมของอนุกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องหุ้นชินฯ โดยจะมีการตรวจสอบความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อคำนวณการเสียภาษีย้อนหลัง กรณีการซื้อหุ้นชินคอร์ป จาก บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสเมนท์ ของนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร


ทำให้รัฐต้องเสียผลประโยชน์มหา....

นายบรรเจิด สิงคะเนติ


ส่วนในการประชุม คตส.วันที่ 13 ธ.ค.นี้ จะมีการหยิบเรื่องใหม่ขึ้นมาพิจารณาหรือไม่นั้นคงต้องดูว่า นายบรรเจิด สิงคะเนติ คตส.ซึ่งดูแลตรวจสอบเรื่องที่กรณีตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เข้าร้องเรียนกรณีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออก พ.ร.ก.แก้ไข พ.ร.บ.อัตราพิกัดภาษีสรรพสามิต เมื่อปี 2546 ทำให้รัฐต้องเสียผลประโยชน์มหาศาล จะตรวจสอบหาข้อมูลหลักฐานได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหาก นายบรรเจิด เสนอเรื่องเข้าที่ประชุมได้ภายในสัปดาห์นี้ที่ประชุมก็จะพิจารณาทันที ว่า เรื่องนี้จะเข้ากรอบการทำงานของคตส.หรือไม่ หรือดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว พบการกระทำผิดมากน้อยเพียงใด ว่า จะรับได้หรือไม่ก็ต้องดูอีกที ส่วนวันที่ 13 ธ.ค.จะมีการตั้งอนุไต่สวนเรื่องอะไรอีกหรือไม่นั้น คงต้องรออนุฯตรวจสอบแต่ละชุดว่าชุดไหนพร้อม


เผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ ....


นายประเสริฐ บุญศรี ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ ว่า จากการเชิญผู้เกี่ยวข้องในส่วนของ กทม.เข้าชี้แจงทำให้คณะอนุกรรมการได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก แต่ยังเหลือข้อมูลบางส่วนที่ต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมการ และจะมีการส่งคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องรถดับเพลิงลงพื้นที่ตรวจรถดับเพลิงด้วย เพื่อดูว่าตรงตามสเปกหรือไม่
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการยังได้ศึกษาสำนวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินควบคู่กันไปด้วย โดยมีการเชิญผู้ที่เคยให้ปากคำในสำนวนดังกล่าวเข้ารับรองเอกสารที่ให้ปากคำเอาไว้ และมีการสอบถามเพิ่มเติมในบางส่วน


จะชี้ไปเลยว่าถูกต้องหรือไม่....

ถ้าได้ข้อมูลความไม่ถูกต้องชัดเจน คณะอนุกรรมการจะชี้ไปเลยว่าถูกต้องหรือไม่ และมีใครเกี่ยวข้องบ้าง คาดว่า จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบเพื่อเสนอต่อ คตส.ชุดใหญ่ชี้มูลได้ภายในเดือน ม.ค.2550 นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่า พบฝ่ายการเมืองเกี่ยวข้องชัดเจนหรือไม่ นายประเสริฐ ตอบว่า คงตอบไม่ถูก แต่โครงการนี้เริ่มมาจากรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ส่งให้ผู้ว่าฯ กทม.คือ นายสมัคร สุนทรเวช จากนั้นสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ก็เป็นผู้ดำเนินการ แต่ความผิดถูกอยู่ที่การปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การที่เขาจะซื้อของโดยกระทรวงมหาดไทยออก 60% กทม.ออก 40% ไม่ถือว่าผิดตรงไหน เหมือนเราจะซื้อของเข้าบ้าน แต่ให้หัวหน้าคนงานไปซื้อ ซึ่งหัวหน้าคนงานไปเบี้ยว ซื้อในราคาแพง แต่ได้ของราคาถูก เพราะได้เปอร์เซ็นต์สูงกว่า อย่างนี้ผิดแน่นอน





ขอขอบคุณ: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์